×

ธนกรเผย​ รวมไทยสร้างชาติ​เตรียมประชุม ส.ส.​- กก.บห. หลังคุยเพื่อไทย ตั้งคำถามประเทศไทยมีพิธาเป็นนายกฯ ได้คนเดียวหรือ​

โดย THE STANDARD TEAM
24.07.2023
  • LOADING...
ธนกร​ วังบุญคงชนะ

วันนี้ (24 กรกฎาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล ธนกร​ วังบุญคงชนะ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ​ กล่าวถึงท่าทีพรรครวมไทยสร้างชาติหลังร่วมหารือกับพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา

 

เมื่อถามว่าจะเป็นการส่งสัญญาณร่วมงานทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ ธนกรกล่าวว่า​ เป็นไปตามที่ พีระพันธุ์​  สาลีรัฐวิภาค​ หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติได้แสดงจุดยืนไปแล้ว แต่จะร่วมกันหรือไม่ต้องมาหารือร่วมกันภายในพรรคก่อน ซึ่งจะมีการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในวันพุธที่ 26 กรกฎาคมนี้ ​โดยหัวหน้าและเลขาธิการพรรค​จะนำผลการหารือมาพูดคุยในที่ประชุม พร้อมกับย้ำว่าก่อนหน้านี้หัวหน้าพรรคเคยแสดงเจตจำนงไปแล้วว่ามีแนวคิดอย่างไร​

 

เมื่อถามถึงทิศทางแนวโน้มของ ส.ส. พรรครวมไทยสร้างชาติใน​ขณะนี้มีความคิดเห็นอย่างไรนั้น ธนกรกล่าวว่า ตนมองว่า ส.ส. ภายในพรรคเป็นเอกภาพ​ ฉะนั้นการพูดคุยเจรจาถ้ามีเงื่อนไขทำเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ตนก็คิดว่า ส.ส. ของพรรคไม่มีปัญหา

 

เมื่อถามว่าได้มีการหารือกับ พล.อ. ประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ ในฐานะอดีตประธานยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติแล้วหรือไม่ หลังการหารือร่วมกับพรรคเพื่อไทย​ ธนกรกล่าวย้ำว่า​ พล.อ. ประยุทธ์​ ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับพรรคแล้ว แต่เท่าที่ตนได้พูดคุยและทำงานกับ พล.อ. ประยุทธ์อยู่​ แม้จะไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคแล้วนั้น​ การที่พรรครวมไทยสร้างชาติไปพูดคุยกับพรรคเพื่อไทย พล.อ. ประยุทธ์ก็ไม่ได้ว่าอะไร

 

การที่ พล.อ. ประยุทธ์ ประกาศวางมือทางการเมืองไม่เกี่ยวข้องกับการเปิดทางให้พรรครวมไทยสร้างชาติไปร่วมทางกับพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด​ เนื่องจากที่ผ่านมา พล.อ. ประยุทธ์ก็เปรยตลอดว่าหากถึงเวลาที่เหมาะสมท่านก็จะต้องวางมือ และไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับทางการเมือง ซึ่งเป็นแนวทางที่ พล.อ. ประยุทธ์ คิดไว้ก่อนหน้านี้อยู่แล้ว เนื่องจากทำงานให้ประเทศชาติมากว่า 8-9 ปี ถึงเวลาที่เหมาะสมที่ท่านต้องพักผ่อน และหาเวลาไปทำประโยชน์ให้ประเทศชาติในมิติอื่น

 

เมื่อถามถึงแนวคิดของ นพ.ชลน่าน​ ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย​ ที่ออกมาระบุว่าหากพรรคเพื่อไทยไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ก็เป็นหน้าที่ของพรรคในลำดับที่ 3 จะต้องจัดตั้งรัฐบาล จะถือเป็นการส่งสัญญาณว่าพรรคเพื่อไทยไม่สามารถจะตั้งรัฐบาลได้ใช่หรือไม่ ธนกร​ระบุว่า​ ตามหลักการพรรคอันดับ 1 จัดตั้งไม่ได้ก็ต้องเป็นพรรคในลำดับที่ 2 และหากพรรคในลำดับที่ 2 ไม่สามารถจัดตั้งได้ก็เป็นพรรคลำดับที่ 3 เป็นไปตามหลักการทั่วไป​ ซึ่งตนก็เห็นใจพรรคเพื่อไทย เหมือนมติของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลที่ให้ไปแสวงหาคะแนนเพิ่มในแนวทางต่างๆ เมื่อพรรคเพื่อไทยไปแสวงหาแกนนำพรรคก้าวไกลก็กลับเหน็บแนม​ 

 

และสมาชิกพรรคก้าวไกลก็บุกไปยังที่ทำการพรรคเพื่อไทย และมีการใช้แป้งเกิดเหตุการณ์อย่างเมื่อวานนี้ (23 กรกฎาคม)​ ซึ่งตนมองว่าไม่เหมาะสม​ พร้อมกับระบุว่าเมื่อท่านเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกลต้องเข้าใจระบอบประชาธิปไตย และควรทำความเข้าใจกับสมาชิกพรรคที่รักใคร่ชอบพอ เพราะบรรยากาศแบบนี้เหมือนท่านปล่อย ซึ่งมันเป็นทฤษฎี 2 ขา นำไปสู่ความขัดแย้งในที่สุด พร้อมยืนยันว่าการชุมนุมต่างๆ สามารถทำได้เป็นไปตามที่ สมบัติ​ บุญงามอนงค์​ หรือ บก.ลายจุด​ จัดกิจกรรม ซึ่งก็ไม่มีปัญหาเพราะทำตามกฎหมาย

 

“แต่แกนนำจัดตั้งรัฐบาลอันดับ 1 คือวันนี้พอเป็นนายกฯ ไม่ได้​ ไม่มีใครเป็นได้แล้วหรือนอกจาก พิธา​ ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ผมก็ไม่เข้าใจ เพราะที่ผ่านมาหากอันดับ 1 ตั้งไม่ได้ ก็อันดับ 2 ตั้งไป เป็นเรื่องปกติมากทางการเมือง และที่บอกว่ารอไปสัก 10 เดือน ส่วนตัวมองว่าเมื่อเลือกตั้งเสร็จกลไกการจัดตั้งรัฐบาล การเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีก็ควรเดินหน้าไป แม้มีอุปสรรคบ้าง เพราะมันเป็นการเมืองแบบรัฐสภา​ ซึ่งสามารถแก้ไขได้ ไม่ควรรอถึง 10 เดือน เพราะประเทศเสียหาย และประชาชนเฝ้ารอดูอยู่ และนักธุรกิจก็เฝ้ารอดูอยู่” ธนกรกล่าว

 

เมื่อถามถึงเหตุการณ์ความวุ่นวายภายในพรรคเพื่อไทยวานนี้จะทำให้ MOU​ ของ 8 พรรคร่วมล่มหรือไม่​ ธนกร​ปฏิเสธว่า​ตนไม่ทราบ เนื่องจากเป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย แต่ตนเห็นบรรยากาศแล้วที่มีการนำแป้งไปโรยนั้นก็สงสาร สันติ​ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เพราะเลอะแป้งไปทั้งศีรษะ พร้อมระบุว่ามันไม่ควรมีบรรยากาศแบบนี้ เนื่องจากเป็นการเจรจาตามกรอบที่พรรคร่วมแตกพรรคได้มอบหมายให้พรรคเพื่อไทย​ ซึ่งในการเจรจาเบื้องต้นก็ต้องมีการพูดคุยว่าเขาคิดกันอย่างไร และมันยังไม่ได้ไปถึงจุดร่วมรัฐบาลกันเลย และเมื่อเกิดสถานการณ์อย่างนี้แล้วในอนาคตตนมองว่าก็อาจจะยุ่งยากเหมือนกัน

 

เมื่อถามว่าเหตุการณ์วานนี้เพื่อไทยควรจะบอกเลิกพรรคก้าวไกลหรือไม่ ธนกรกล่าวปฏิเสธว่าเรื่องดังกล่าวตนไม่ขอก้าวล่วง พร้อมกับกล่าวว่าหากพรรคในลำดับ 1 ไม่สามารถจัดตั้งได้ก็ควรเป็นพรรคในลำดับที่ 2 หากพรรคลำดับ 2 ไม่ได้ก็ควรเป็นลำดับที่ 3 ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกพรรคการเมืองควรเข้าใจ และคิดว่าทุกพรรคที่ได้รับการเชิญไปพูดคุยก็เข้าใจ ไม่ใช่ว่าถูกเชิญไปพูดคุยแล้วจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล อาจจะเป็นพรรคฝ่ายค้านก็ได้ เราก็ไม่รู้ แต่นี่เป็นการเจรจาในเบื้องต้น

 

เมื่อถามว่ามองอย่างไรในท่าทีของพรรคก้าวไกลที่ดูเหมือนว่าจะไม่ยอมออกจากพรรคร่วมรัฐบาล​ ธนกร​ระบุว่า “แบบนี้มันเป็นเด็กเกินไปหรือเปล่า บ้านเมืองไม่ใช่เด็กเล่นขายของ เหมือนกับคนที่เป็นแฟนกัน หมั้นกันแล้วเขาก็เลิกกันได้ เหมือนพ่อแม่คลุมถุงชนมาอย่างนี้ วันหนึ่งเมื่อหมั้นกันแล้วพ่อแม่คลุมถุงชนมาเขาก็ยังเลิกกันได้เลย​ เพราะมันไม่ได้รักกันด้วยหัวใจไง ฉะนั้นคนที่จะแต่งงานกันมันต้องมีความรักที่ออกมาจากใจ ไม่ใช่รักด้วยสมอง แต่ต้องรักด้วยหัวใจ”

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising