วันนี้ (24 กันยายน) ที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ครอบครัวของนักกิจกรรมทางการเมือง ประกอบด้วย พริ้ม บุญภัทรรักษา แม่ของ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน, ยุพิน มะณีวงศ์ แม่ของ ไมค์-ภาณุพงศ์ จากนอก, แม่ของฟ้า-พรหมศร วีระธรรมจารี, แม่ของบอย-ธัชพงศ์ แกดำ และแม่ของอานนท์ นำภา พร้อมด้วย พวงทอง ภวัครพันธุ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ยื่นจดหมายถึงสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา โดยมีประเด็นคือ
- เรียกร้องเรื่องสิทธิประกันตัว
- เชิญตัวแทนสถานทูตนานาประเทศเข้าร่วมสังเกตการณ์การไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล และติดตามผลการพิจารณาคดี
พริ้มกล่าวว่า ประเทศไทยมีสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ที่ให้สัตยาบันเอาไว้ในเรื่องสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ทางเราจึงได้เชิญให้ทางสถานทูตไปสังเกตการณ์ในคดีที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือการแจ้งข้อกล่าวหาโดยที่ไม่เป็นธรรมกับนักกิจกรรมที่เห็นต่าง เพราะว่าช่วงนี้มีการใช้กฎหมายเหล่านี้เป็นจำนวนมากและทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ ตนคิดว่าการที่รัฐบาลสืบทอดอำนาจมา 7-8 ปี ทำให้สิทธิพลเมืองต่างๆ ของประชาชนและนักกิจกรรมถดถอยไป จึงอยากให้สถานทูตได้มาสังเกตการณ์ว่าไม่ควรปล่อยให้รัฐเผด็จการทำกับนักกิจกรรมเช่นนี้ วันนี้จึงมายื่นหนังสือเพื่อขอความเป็นธรรมว่าการละเมิดสิทธิมนุษยชนกับนักกิจกรรม หรือเยาวชนที่แสดงออกทางความคิดได้รับผลกระทบทางจิตใจและร่างกาย
พริ้มกล่าวต่อไปว่า รัฐบาลใช้กฎหมายเป็นอาวุธ ทำให้เด็กที่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีกลับต้องสะดุดกับอนาคตของตัวเอง โดยที่ผู้ใหญ่เป็นคนกระทำ มันควรจะมีความสมดุล อย่างการเจรจาและพูดคุยเพื่อให้ประเทศของเราพัฒนาไปด้วยกัน และจะได้มีสังคมที่สงบสุข การที่เอาเด็กเข้าเรือนจำและไม่ให้ประกันตัวซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ไม่ว่าจะผิดเงื่อนไขหรือมีจำนวนคดีร้อยคดี ก็ควรให้สิทธิขั้นพื้นฐานการประกันตัวเพื่อมาต่อสู้คดี ซึ่งคดีที่โดนแจ้งข้อหาเป็นคดีทางความคิด และทางสถานทูตได้มีการตอบรับที่ดีและเข้าใจสถานการณ์บ้านเมืองว่าเป็นเช่นไร
ด้านยุพินกล่าวว่า ตนเองตกใจนิดหน่อย เมื่อรู้ว่าลูกไม่ได้รับการประกันตัวและต้องเข้าเรือนจำ มันกะทันหัน ซึ่งทุกคนไม่ได้ตั้งตัว ตนได้คาดการณ์ไว้แล้วว่าน่าจะโดนอีก ขึ้นอยู่จะนำคดีไหนมาเล่นงาน ตนคิดว่ากฎหมายเช่นนี้เป็นกฎหมายปิดปาก ลูกชายได้ออกมาแค่ 7-8 วัน ก็ถูกเอาเข้าไปเช่นเดิม