วันนี้ (23 สิงหาคม) ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบและติดตามสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดพะเยา พร้อมมอบถุงยังชีพและตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ ได้แก่ บ้านร่องไฮ หมู่ที่ 1 ตำบลแม่ใส อำเภอเมืองพะเยา ซึ่งมีครัวเรือนได้รับผลกระทบจำนวน 250 ครัวเรือน และชุมชนท่าวังควาย บ้านแม่ต๋ำ อำเภอเมืองพะเยา มีครัวเรือนได้รับผลกระทบจำนวน 300 ครัวเรือน
ทั้งนี้ จากสถานการณ์อุทกภัยใน 4 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดพะเยา จังหวัดแพร่ และจังหวัดน่าน ร.อ. ธรรมนัส ได้กำชับให้ส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งช่วยเหลือและดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด
ขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า จัดตั้งโรงครัวผลิตอาหารและแจกจ่ายถุงยังชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้ในพื้นที่ 4 จังหวัด ดังนี้
- จังหวัดเชียงราย ข้าวกล่อง 500 กล่อง ถุงยังชีพ 500 ชุด
- จังหวัดพะเยา ข้าวกล่อง 300 กล่อง ถุงยังชีพ 700 ชุด
- จังหวัดแพร่ ข้าวกล่อง 1,000 กล่อง ถุงยังชีพ 200 ชุด
- จังหวัดน่าน ข้าวกล่อง 300 กล่อง ถุงยังชีพ 500 ชุด
ขณะที่ อรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดน่าน พร้อมมอบถุงยังชีพและเยี่ยมเยียนผู้ประสบภัยในหลายพื้นที่ ได้แก่ ตำบลเชียงกลางและตำบลเปือในอำเภอเชียงกลาง ตำบลแงงและตำบลเจดีย์ชัยในอำเภอปัว รวมไปถึงตำบลศรีภูมิในอำเภอท่าวังผา ซึ่งสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มนั้นทำให้ประชาชนได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ ได้รับรายงานผลกระทบด้านการเกษตรและด้านพืช (ข้อมูล ณ วันที่ 23 สิงหาคม 2567) มีพื้นที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด 9 อำเภอ 54 ตำบล คาดการณ์พื้นที่เสียหายทั้งหมด 4,277 ไร่ จำแนกเป็น ข้าว 2,915 ไร่, พืชไร่ 1,257 ไร่ และไม้ผล-ไม้ยืนต้น 102 ไร่ ด้านปศุสัตว์ได้รับผลกระทบ 3 อำเภอ 8 ตำบล 25 หมู่บ้าน เกษตรกร 1,051 ราย จำแนกเป็น โค 1,386 ตัว, ไก่ 36,747 ตัว, กระบือ 1 ตัว, สุกร 1 ตัว และแพะ 36 ตัว รวมทั้งสิ้น 38,171 ตัว และแปลงหญ้า 652 ไร่ และอยู่ระหว่างสำรวจความเสียหายที่แท้จริง (หลังน้ำลด)
สำหรับสถานการณ์น้ำบริเวณลุ่มน้ำน่าน (ข้อมูล ณ วันที่ 23 สิงหาคม 2567) เวลา 09.00 น. ที่สถานีวัดน้ำ N.64 บ้านผาขวาง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ล่าสุดปริมาณน้ำเริ่มลดลง ขณะที่สถานีวัดน้ำ N.1 สะพานพัฒนาภาคเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน มีแนวโน้มลดลง ส่วนสถานีวัดน้ำ N.13A บ้านบุญนาค อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โครงการชลประทานน่านรายงานว่าแนวโน้มระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีฝนตกสะสมและต่อเนื่องในพื้นที่ โดยได้มีการติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ คาดการณ์สถานการณ์ยังคงมีฝนตกในบางพื้นที่และคาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 5-7 วัน
ด้านการดำเนินการช่วยเหลือ
- เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอ เจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ เจ้าหน้าที่สำนักงานประมงอำเภอ สำรวจความเสียหายด้านการเกษตรช่วงเกิดภัยและภายหลังน้ำลด พร้อมทั้งชี้แจงการดำเนินการในขั้นตอนการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบของกระทรวงการคลังต่อไป
- โครงการชลประทานน่านดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 14 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง ณ สะพานพัฒนาภาคเหนือ เพื่อช่วยสูบน้ำระบายในพื้นที่เศรษฐกิจ (เทศบาลเมืองน่าน)
- สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดน่านประสานงานกำหนดจุดอพยพสัตว์ให้พร้อมในพื้นที่เสี่ยง และดำเนินการจัดแบ่งทีมเข้าช่วยเหลือเร่งด่วน
- ศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรจังหวัดน่าน ได้เฝ้าระวังและเตรียมการรับมือสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยการประสานงานผ่านทางแอปพลิเคชัน LINE กับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจะร่วมแรงร่วมใจกับทุกหน่วยงานเพื่อเข้าช่วยเหลือด้วยจิตอาสาตลอดสถานการณ์
นอกจากนี้ ยังได้เตรียมทรัพยากรสนับสนุน ได้แก่ รถบรรทุกน้ำขนาด 6,000 ลิตร จำนวน 1 คัน, รถเครน จำนวน 1 คัน, เครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว จำนวน 11 เครื่อง, สำรองเมล็ดพันธุ์ จำนวน 1.90 กิโลกรัม (กวางตุ้ง ถั่วฝักยาว และพริก), เสบียงพืชอาหารสัตว์ จำนวน 23 ตัน และเวชภัณฑ์สัตว์ รวมถึงหน่วยบริการเกษตร, ประมง, ปศุสัตว์ และหน่วยเฉพาะกิจเคลื่อนที่