×

ทักษิณโชว์วิสัยทัศน์ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย อาสาใช้เงินส่วนตัวประกันภัยนักท่องเที่ยวจีน ยันไม่มี ‘ดีลลับ’ เชื่อ 22 ส.ค.นี้ คดี 112 จบแน่

โดย THE STANDARD TEAM
18.07.2025
  • LOADING...
ทักษิณ ชินวัตร กล่าวปราศรัยบนเวทีงานเสวนา อสมท แสดงวิสัยทัศน์ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย

วานนี้ (17 กรกฎาคม) ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ ‘ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤตโลก และ ‘พลิกเกมเศรษฐกิจไทย..สู่อนาคต’  ในงานเสวนาปลดล็อกอนาคตประเทศไทยสู้วิกฤตโลก (Unlocking Thailand’s Future) ของ อสมท. 

 

ทักษิณกล่าวว่า เรื่องที่เคยพูดสมัยเมื่อเป็นนายกฯ 20 ปีที่แล้ว วันนี้ยังไม่ไปไหน หลายเรื่องมีถอย ส่วนตัวก็งงว่าจากประเทศไปหลายปี กลับมาเจอเรื่องแย่กว่าเดิม บางทีเพราะคนไทยไม่เชื่อมั่นในตัวเอง และไม่พยายามที่จะร่วมพลังกัน ให้เป็นหนึ่งเพื่อแก้ไขปัญหาด้วยกัน 

 

“เรื่องที่เกิดขึ้นกับกัมพูชา ผมก็แปลกใจ ไอ้ผู้นำเขมรมันไร้จริยธรรมจะตาย แต่เรากลับไปเข้าข้างมัน ผมงง วันนี้คนไทยไม่รักกัน ไม่มีผู้นำที่ไหนในโลกเขาทำกัน แต่เรากลับ อื้ม โดยเฉพาะพรรคที่เพิ่งหลุดไปจากรัฐบาล กลับมองว่าเป็นการขายชาติ เลยไม่รู้ตกลงเขาเป็นเขมรหรือไทย” ทักษิณกล่าว 

 

ทักษิณกล่าวต่อว่า วันนี้สิ่งที่ทำให้ปัญหาประเทศสะดุดอย่างแรก คือ ปัญหาการเมือง หลังการปฏิวัติ รัฐธรรมนูญ ปี 40 ถอยกลับ มีรัฐบาลผสมและหลายพรรคการเมือง ทำให้นึกถึง 51 ปีที่แล้ว ที่การเมืองไม่มีเสรีภาพ ล้มกันไปล้มกันมา ผลสุดท้ายบ้านเมืองไม่ไปไหน แต่การเมืองเปลี่ยนเเปลงได้ ข้าราชการต้องทำงานต่อไป ภาคเอกชนก็ต้องทำงานต่อไป และรัฐบาลก็มีหน้าที่สนับสนุนให้ภาคเอกชนแข็งแรง 

 

ทักษิณกล่าวอีกว่า อีกเรื่องที่เราสะดุด คือภาษีสหรัฐที่ทีมไทยแลนด์กำลังเจรจาอยู่ โดยได้ยื่นข้อเสนอใหม่ๆ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็นั่งกำกับไม่ให้เสียเปรียบ พร้อมให้แนวทางว่า ถ้าเราจะนำเข้าสินค้าจากสหรัฐอเมริกาแล้วมาแข่งขันกับสินค้าที่เรานำเข้าจากประเทศอื่นก็เป็นเรื่องที่ดี หลายอย่างที่เราเปิดได้เราก็เปิด สิ่งที่เราเปิดวันนี้เราก็คุยกัน น่าจะเป็นข้อเสนอที่นำไปสู่การตกลงใจกันได้ แต่ให้จำไว้ว่าคำว่า ดีล ไม่มีจบ ถ้ายังไม่พอใจก็ดีลกันต่อ นี่เป็นลักษณะการเจรจาธุรกิจ 

 

ทักษิณกล่าวว่า อีกสิ่งที่เป็นปัญหาของประเทศไทย คือ 1. GDP ของประเทศไทย โตน้อยเกินศักยภาพทำให้เราอยู่อันดับที่ 24 ของโลก GDP ที่โตช้า โดยมาจากหลายสาเหตุ คือ การบริหารโดยไม่บริหารมานาน ไม่มีกลยุทธ์ทำให้เราช้า 2. ธนาคารแห่งประเทศไทยพยายามจะรักษาสถานะของธนาคารพาณิชย์เพราะกลัวจะพลาดเหมือนยุคต้มยำกุ้ง จนทำให้ธนาคารพาณิชย์มีความเสี่ยงน้อย แต่ธุรกิจเหนื่อย เนื่องจากไม่รู้จะไปหาแหล่งทุนที่ไหน และ 3. จีนส่งสินค้าเข้ามา มีคอร์รัปชันตามชายแดน ทำให้ SMEs ของเราตายสู้เขาไม่ได้ นี่เป็นสิ่งที่เราต้องไปแก้กติกาของเรา 

 

ทักษิณกล่าวว่า ตนพยายามอย่างยิ่งที่จะจัดตั้ง AMC (Asset Management Company) หรือ บริษัทจัดการสินทรัพย์ของภาคประชาชน เพราะหนี้ครัวเรือนสูง แม้ที่ผ่านมากระทรวงการคลังยังไม่รับลูก แต่ส่วนตัวมองครั้งนี้มีความจำเป็น เพราะหนี้สินอยู่ที่ 92% ของ GDP ถ้าไม่ทำคนไทยหายใจไม่ได้ กำลังซื้อจะไม่กลับมา และไม่มีทางที่จะดิ้นรนทำมาหากินในเรื่องใหม่ๆ ได้ 

 

ขณะเดียวกัน การลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ เช่น ส่งเสริมเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า รถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย และนำรถเมล์เปลี่ยนเป็นฟีดเดอร์ ขณะเดียวกันต้องทำถนนชาร์จไฟแบบไร้สาย เพื่อนำเงินส่วนนี้มาอุดหนุนให้กับคนทั่วไปที่ใช้รถสาธารณะ ซึ่งจะเร่งให้เสร็จภายใน 2-3 เดือนนี้  

 

นอกจากนี้ประสิทธิภาพของภาครัฐยังเป็นปัญหา เพราะข้าราชการมีจำนวนมากขึ้น แต่การบริการแย่ลง วันนี้ต้องมาแก้ไขให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ประหยัดค่าใช้จ่ายภาครัฐลง ซึ่งในดูไบไม่มีการเก็บภาษี แต่เก็บค่าธรรมเนียมใช้บริการภาครัฐ และนำสิ่งเหล่านี้มาเป็นสวัสดิการของข้าราชการ ทำให้การบริการดีขึ้นและไม่มีใต้โต๊ะ 

 

รวมถึงต้องช่วยกันประหยัดงบประมาณ จัดทำงบประมาณโดยความจำเป็น โดยเฉพาะงบประมาณทหารน่าจะถึงเวลาที่ต้องหาทางลดและปรับ เพราะต่อไปจะเป็นสงครามไซเบอร์ ต้องปรับเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ ไม่เช่นนั้นเราจะล้าหลังและล้าสมัย รวมถึงสิ้นเปลือง  

 

เสนอถมทะเล ดึงเงินเอกชน-ตปท. ลงทุนในไทย 

ทักษิณยังกล่าวถึงการขุดคลอง ว่า อยากสร้างนิเวศ ทำมาหากินใหม่ๆ ให้กับประชาชน เพราะเมื่อขุดแล้ววางไว้บนตลิ่ง พอฝนตกก็ชะลงไปใหม่ แต่ถ้าอนุญาตให้แก้กฎหมาย กฎระเบียบ ให้ประชาชนขุดดิน ขุดทรายในคลองเอาไปขาย ประชาชนจะได้เงินใช้ แต่เรื่องนี้ทำยากมาก เนื่องจากระบบราชการและกฎหมายไม่เอื้ออำนวย 

 

ส่วนเรื่องการถมทะเล เราอยากป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ หากเราทำตรงนี้จะได้ที่ดินขึ้นมาอีกหลายแสนไร่ และมีเรื่องทรัพย์อิงสิทธิ์ 99 ปี ทำให้คนกล้าลงทุนเอาดินไปถมทะเล แต่ต้องมีผังให้ชัดว่าแต่ละเกาะให้ทำอะไร วันนี้เราต้องหาการเงินใหม่ๆ โดยเฉพาะเงินจากภาคเอกชนและเงินต่างประเทศ เข้ามาช่วยลงทุนในไทย เพราะวันนี้รัฐกู้อีกไม่ไหว เนื่องจากเต็มเพดาน  

 

ทักษิณยังกล่าวอีกว่า ในเรื่อง Ecosystem เราจะสร้างอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า เป็นศูนย์กลางไฟฟ้าสีเขียว ทำโซลาร์ฟาร์ม และเอา data center มาไว้ที่ประเทศไทย 

 

ชูความปลอดภัย ดึงนักท่อเที่ยวกลับประเทศ

ทักษิณกล่าวอีกว่า บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ  AOT ควรเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ ด้วยการนำเงินจากทั่วโลกเข้ามา เช่น การเป็นศูนย์ซ่อมเครื่องบิน เป็นศูนย์กลางผู้โดยสาร และคลังสินค้า 

 

ทักษิณว่า สำหรับเรื่องการท่องเที่ยวเรื่องความปลอดภัยเป็นหัวใจสำคัญ วันนี้นักท่องเที่ยวจีนลดลงเพราะว่าดาราโดนหลอก บางเว็บไซต์ก็ไปลงว่าเมืองไทยไม่ปลอดภัย เราต้องเร่งเมืองท่องเที่ยวให้เป็น SMART CITY  ติดกล้อง AI ให้หมด และมีซอฟต์แวร์ที่ถูกต้อง เมื่อเรารับประกันนักท่องเที่ยวได้ นักท่องเที่ยวก็จะมาประเทศไทย และถ้าตนไปเมืองจีนเมื่อไหร่ตนก็จะประกาศประกันภัยด้วยตนเอง

 

”ผมจะสัมภาษณ์ หนังสือพิมพ์จีนเอง ถ้าใครมาเมืองไทยแล้วโดนฆ่าโดนปล้น ผมจะรับผิดชอบให้ จะจ่ายเงินส่วนตัวให้ ผมจะ insure เองเลย ต้องให้นักท่องเที่ยวมาเมืองไทยให้ได้ ผมเป็นคนชอบเสี่ยงทั้งชีวิต ยกเว้นเล่นการพนัน” ทักษิณกล่าว

 

ทักษิณกล่าวอีกว่า สิ่งที่อยากเห็นรัฐบาลนี้ทำก็คือ Innovation sandbox รวมทั้งเรื่องของ Stem cells ซึ่งมีสองส่วน จึงเป็นเรื่องที่ควรทดลองได้แล้วไม่งั้นไม่ทันคนอื่นเขา ขณะเดียวกัน อีก 2-3 เดือน เราจะมีการทำแซนด์บ็อกซ์ทั่วประเทศ เพราะทางธนาคารแห่งประเทศไทย ให้ความร่วมมือเรื่อง E-money ทำให้ไทยสามารถนำคริปโตดังๆ ของโลกนำมาจับจ่ายใช้สอยได้ รวมถึงการให้ Golden visa กับคนต่างชาติในระยะยาว 10 ปี โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องมีการฝากเงินและลงทุน ไม่เคยก่ออาชญากรรม มีการเสียภาษีอย่างถูกต้อง ก็มีสิทธิที่จะขอเป็นประชาชนคนไทยและมีสิทธิ์ซื้อบ้านเพื่อการอยู่อาศัย 

 

ไม่เปลี่ยนรัฐบาล บอกนายกฯถูกพักงานเพราะเรื่อง ‘เฮงซวย’ 

ทักษิณระบุว่า ตนบอกกับ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีว่า เราน่าจะเอาระบบผู้ว่าฯ CEO กลับมา ให้ปลัดกระทรวงเป็น COO เพราะการบริหารแบบ CEO มียุทธศาสตร์ มีเป้าหมาย มีการประเมินผล และการปรับปรุงประสิทธิภาพอยู่ตลอดเวลา แต่เราไม่มีเจ้าภาพจึงไม่มีใครวางยุทธศาสตร์ 

 

ทั้งนี้ถึงเวลาที่คนไทยจะต้องปล่อยวางความเกลียดชังและหันหน้าเข้าหากัน เพราะประเทศเราพัฒนาช้ามา 20 ปีแล้ว และกฎหมายทุกอย่างที่ออกใหม่จะแก้ปัญหาที่หมักหมมได้ ยืนยันว่า รัฐบาลมีความชอบธรรมที่จะออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ในการแก้ปัญหาสำคัญของประเทศ ทั้งนี้ไม่คิดว่าจะเปลี่ยนรัฐบาล หรือเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี ยังต้องทำงานอย่างต่อเนื่อง เพราะเมื่อ แพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรี ก็เหมือนได้แถมตนมาเป็นเสมียนของประเทศ คอยรวบรวมทุกปัญหาและประเด็นสำคัญต่างๆ ส่งให้นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีต่างๆ ให้ช่วยไปกันดู  

 

ทักษิณยังกล่าวด้วยว่า หลังจากที่ตนเดินทางกลับมาประเทศไทยว่า เพื่อนชาวสิงคโปร์บอกว่า ชาวสิงคโปร์ต้องปรับกลยุทธ์แข่งขันกับไทยใหม่ เพราะตนกลับมา แต่มาวันนี้เขาเห็นคนไทยทะเลาะกันเอง และนายกรัฐมนตรีถูกพักงาน เพราะเรื่อง เฮงซวย เขาเลยบอกว่า ไม่ต้องกังวลแล้ว เพราะไทยคงแข่งกับสิงคโปร์ไม่ได้ สะท้อนว่า ประเทศไม่ควรขัดแย้งกันเพราะเรื่องไร้สาระ แต่ควรร่วมมือกันสร้างอนาคต เราต้องรักกัน แม้จะเห็นต่างทางการเมือง

 

ปัญหาการเมืองหนักกว่าเศรษฐกิจ เหตุทำนายไม่ได้ 

จากนั้นทักษิณ ให้สัมภาษณ์ในรายการ ‘ฟังหูไว้หู’ ซึ่งมี วีระ ธีรภัทร และ ชุติมา พึ่งความสุข เป็นผู้ดำเนินรายการ 

 

ทักษิณตอบคำถามถึงประเด็นปัญหาการเมืองหรือปัญหาเศรษฐกิจหนักหนากว่ากัน ว่า ปัญหาเศรษฐกิจคาดการณ์ได้ อาจต้องใช้เวลา แต่ปัญหาการเมืองทำนายยาก เพราะเพราะจิตใจมนุษย์เต็มไปด้วยความโลภ กิเลส เป็นสิ่งที่เดาได้ยาก ยิ่งกว่าเศรษฐกิจที่เป็นไปตามภาวะของโลก 

 

ยันกลับบ้านไม่มีดีลลับ 

ส่วนดีลลับในการเดินทางกลับเข้าประเทศไทยนั้น ทักษิณยืนยันว่า ไม่มี ไม่มีดีลการเมืองกับใครเลย มีแต่การสร้างมาเพื่อให้เกิดความตื่นเต้น ซึ่งดีลที่มีแน่นอนคือดีลกับทรัมป์ พร้อมย้ำว่า กลับมาตามระบบ และทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานพระเมตตา ซึ่งก็ได้รับพระราชทาน แค่นั้นเอง

 

ชี้หากแพทองธารไม่ให้ทำงานก็กลับไปเลี้ยงลูก 

เมื่อถามว่า สถานการณ์ของทักษิณไม่ได้ดีไปกว่าสถานการณ์ของแพทองธาร  ซึ่งในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ศาลอาญา นัดพิจารณาคดีมาตรา 112 ทักษิณระบุว่า ส่วนตัวรู้ว่าโจทก์ไม่มีหลักฐานอะไรเลย และได้ถามพนักงานสอบสวนว่าถ้าวันนั้นไม่ถูกกดดัน พยานหลักฐานแค่นี้ จะสั่งฟ้องตนหรือไม่ พนักงานสอบสวนตอบว่า อย่าว่าเรื่องสั่งฟ้องเลย รับคดีก็ไม่รับ แต่เราเคารพศาล และเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่มีหลักฐาน 

 

“ผมผ่านการเมืองมา 51 ปี ลูกสาวผมอาสา เขาตามผมมาตั้งแต่เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ หาเสียงด้วยกันตลอด เพราะฉะนั้นความอยากใกล้ชิด ช่วยเหลือชาวบ้าน มันอยู่ใน DNA ซึ่งเมื่ออาสาแล้ว เขาให้ทำก็ทำเต็มที่ แต่ถ้าเขาไม่ให้ทำ ก็กลับไปเลี้ยงลูกต่อไปเท่านั้น” ทักษิณกล่าว 

 

ส่วนที่คนนอกมองทำไมตนต้องมายุ่งกับการเมืองนั้น ทักษิณระบุว่า ประเทศไทยปัญหาเยอะ และซับซ้อน ถ้าอ่านพระบรมราชโองการ ลดโทษให้ตน ตนรับใส่เกล้าฯ แล้วจะอยู่เฉยโดยไม่สนใจปัญหาบ้านเมืองถือว่าไม่ถูกต้อง  

 

ห่วงเสถียรภาพทางการเมืองที่สุด 

จากนั้นพิธีกรถามทักษิณว่า สิ่งที่ท่านได้กล่าวมาทั้งหมดถ้าทำสำเร็จจะทำให้ประเทศไทยพ้นจากกับดักหรือไม่ ทักษิณ​ลกล่าวว่า ต้องเอาเงินใหม่เข้าประเทศจำนวนมากเมื่อเงินสะพัด เศรษฐกิจก็จะดี ซึ่งทุกอย่างมันแย่มานาน จะให้เสร็จภายในข้ามคืนคงยาก พร้อมยกตัวอย่างการนำพันธบัตรมาซื้อรถยนต์ จะทำให้เกิดสภาพคล่อง เศรษฐกิจหมุนเวียน เพราะมีการเสียภาษี 

 

ส่วนจะทำปาฏิหาริย์ให้กลับมาเป็นครั้งที่ 2 จากปี 32 หรือไม่ ทักษิณกล่าวว่า ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ถ้าเราจะทำ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือ และอาเงินในทุกสภาพเข้ามาใช้ในประเทศไทยให้มากที่สุด โดยจะใช้สูตรเดิมแต่ปรุงใหม่ ซึ่งความเสี่ยงหลักขณะนี้ คือ เสถียรภาพทางการเมือง ทำให้การทำงานไม่ต่อเนื่อง และสิ่งหนึ่งที่ตนคิดว่ารัฐบาลอ่อนที่สุดคือการสื่อสารกับประชาชน 

 

ทักษิณย้ำด้วยว่า เรื่องดิจิทัลวอลเล็ตไม่ได้จบ ได้ทำไปบางกรุ๊ปแล้ว แต่วันนี้ถือเงินไว้เพราะเจอภาษีทรัมป์ ซึ่งดิจิทัลวอลเล็ตในกลุ่มอายุ 16-20 ปี ที่ถอดใจไม่ทำต่อ เพราะเงินไม่พอ ต้องเก็บเงินไว้เพื่อแก้ปัญหา หากเป็นการเพิ่มเพดานหนี้ก็ไม่ควรทำ ส่วนเรื่อง Entertainment Complex ในเมื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้ามาใหม่ 10 กว่าคน ก็ควรให้เขารีวิว เพราะเนื่องจากมีคนค้านอยู่จำนวนหนึ่ง  

 

การเมืองไม่ใช่แค่ได้รับแรงหนุนจำนวนมาก แต่ต้องเดินหน้าได้ด้วย

ทักษิณกล่าวถึงการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ ด้วยว่า ไม่ใช่ว่ารู้จักกันแล้วต้องลดให้พิเศษ ไม่ใช่การขายของสำเพ็ง โดยวันที่ตนเข้าไปพูดคุยกับทีมไทยแลนด์ที่บ้านพิษณุโลกที่ผ่านมานั้น มีการพูดคุยกันกับครอบครัวเขา เพราะรู้จักกัน แต่จริงๆ ไม่มีอะไรดีกว่าการไปเจอหน้ากัน 

 

พิธีกรจึงถามว่า ฉะนั้น ศาลควรอนุญาตให้ท่านเดินทางไปต่างประเทศใช่หรือไม่ ทักษิณกล่าวว่า “เดี๋ยววันที่ 22 สิงหาคมนี้ คดีมาตรา 112 ก็จบแล้ว” และกล่าวต่อว่า หากคดีจบแล้ว ตนจะเดินทางไปเจอกับเพื่อนคนหนึ่งที่เคยขออนุญาตศาลไปเมื่อครั้งที่แล้ว แต่ศาลไม่อนุญาต เพื่อพูดคุยเรื่องเกี่ยวกับการลงทุน เม็ดเงินเหล่านี้จะมากระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ซึ่งเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น กำลังซื้อคนไทยก็จะดีขึ้น 

 

ส่วนเรื่องความสัมพันธ์กับประเทศกัมพูชานั้น ทักษิณกล่าวว่า เราอย่าคุยกับคนที่เราคุยแล้วอัดเทป ปัญหาเราเยอะ ทั้งเรื่องแบ่งเขตแดนต่างๆ และเรื่องที่การเมืองเราไม่แข็งแรง และขณะนี้ตนไม่ได้ทำธุรกิจอะไรเลย แต่ก็มีการหาว่าตนเอาทองไปทิ้งไว้ที่กัมพูชา พอไม่พูดก็ถามว่าหายไปไหนเลยต้องแสดงตน ทั้งนี้มองว่าไม่น่าเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 แต่จะเกิดเป็นจุดๆ มากกว่า เพราะหลายประเทศมีเรื่องความมั่งคั่งเยอะแล้ว 

 

“ผมไม่สามารถคิดอะไรที่บอกว่า ต้องได้รับการสนับสนุน 100 เปอร์เซ็นต์ แล้วค่อยทำ มันเป็นไปไม่ได้ นานาจิตตัง มนุษย์มันเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย บางคนมี วิชั่น บางคนก็ วิสั้น ความเข้าใจไม่เหมือนกัน พวก วิสั้น กับ พวก วิชั่น เถียงกันทั้งวัน บางครั้งหากเราคิดว่า สิ่งที่เราทำแล้วเราประเมินว่าเป็นประโยชน์กับคนส่วนใหญ่ก็ต้องอธิบายให้คนเข้าใจ ไม่ใช่บอกว่าต้องอิกนอร์เลย เพราะการเมืองต้องได้รับการสนับสนุนให้ได้มากที่สุดเท่าที่มากได้ แต่ก็ต้องเดินหน้าให้ได้ด้วย” ทักษิณ กล่าว

 

ทักษิณ ชินวัตร กล่าวปราศรัยบนเวทีงานเสวนา อสมท แสดงวิสัยทัศน์ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย ทักษิณ ชินวัตร กล่าวปราศรัยบนเวทีงานเสวนา อสมท แสดงวิสัยทัศน์ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising