วันนี้ (18 ธันวาคม) พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้องวินิจฉัย ปมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เอื้อประโยชน์ให้ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นอนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยระบุว่า ในส่วนของข้าราชการและแพทย์ ยืนยันว่าทำตามกฎหมายและระเบียบ โดยไม่มีส่วนไหนที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบ และตนมั่นใจว่าข้าราชการทุกคนที่เข้ามาทำงานเป็นที่ยอมรับเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตอยู่แล้ว
ส่วนที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับเรื่องดังกล่าวไว้ไต่สวน เป็นขั้นตอนของ ป.ป.ช. แต่ส่วนตัวยังนึกไม่ออกว่าจะแจ้งข้อหาเรื่องอะไร เพราะทำตามขั้นตอน โดยเฉพาะผู้รับตัวที่มีใบรับรองแพทย์จากต่างประเทศมาด้วย และมีหลักฐานหลายอย่าง อีกทั้งเป็นการดำเนินการที่สูงกว่ามาตรฐานวิชาชีพทั่วไปด้วยซ้ำ ซึ่งในส่วนของเจ้าหน้าที่ เราก็ให้ความเคารพทุกฝ่าย เมื่อเรื่องอยู่ที่ชั้น ป.ป.ช. หากใครมีข้อมูลสงสัยก็ควรส่งให้ ป.ป.ช.
ส่วนที่ จตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน และกลุ่มต้านทักษิณ ระดมคนให้กำลังใจ ป.ป.ช. ที่กำลังจะไปสอบสวนเรื่องนี้ พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า ตนและข้าราชการทุกคนก็ให้กำลังใจ ป.ป.ช. เพราะ ป.ป.ช. ก็เป็นหน่วยงานที่มีความซื่อสัตย์ กล้าหาญ และปราศจากอคติ บางทีการกดดันและทำให้หวาดกลัวอาจทำให้คนไม่กล้าหาญ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและหลักฐานเพื่อทำให้เกิดความยุติธรรม
ส่วนการที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องดังกล่าวไว้จะทำให้คดีของทักษิณมีน้ำหนักขึ้นมาหรือไม่ พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า ตนเคยผ่านงานสืบสวนสอบสวน ไม่เคยเห็นหลักฐานอะไรที่ใครทำไม่ชอบ เพราะก็เขียนไว้แล้วว่าในโรงพยาบาลห้องที่อยู่ถือเป็นห้องควบคุมอย่างหนึ่ง ซึ่งทักษิณก็ไปอยู่ในห้องควบคุม ขณะที่กรมราชทัณฑ์ทำหนังสืออายัดตัวก็มีหลักฐาน ส่วนตัวไม่เห็นว่ามีหน่วยงานไหนบกพร่องต่อการทำงาน อย่างไรก็ตาม เมื่อ ป.ป.ช. รับเรื่องไว้ไต่สวนก็ควรให้โอกาสในการไต่สวน
เร่งแก้ระเบียบคุมขังนอกเรือนจำ
พ.ต.อ. ทวี กล่าวถึงกรณีการรับฟังความเห็นระเบียบว่าด้วยการคุมขังนอกเรือนจำที่แล้วเสร็จไปเมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า ต้องดูว่าหลังจากนี้จะมีคนเห็นด้วยหรือเห็นแย้งอย่างไร เพราะระเบียบเดิมหากผู้ต้องขังจะออกไปข้างนอกได้จะต้องมีหลายบอร์ด หลายคณะทำงานในการพิจารณา ก็อยากจะเร่งให้เสร็จ แต่ก็ต้องรอบคอบและรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย
เมื่อถามถึงการรับฟังความคิดเห็นให้แก้ไขโทษจาก 4 ปี ให้เหลือน้อยกว่า 4 ปี พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า เราก็รับฟังความเห็น เพราะหลักเกณฑ์ปกติของศาลบางเรื่องมี 5 ปี แล้วเราก็ลดมาจากของอังกฤษหรือหลายประเทศมาใช้เป็น 4 ปี หากมีความเห็นอย่างอื่นก็พร้อมรับฟัง ไม่ใช่ว่าจะออกกฎหมายอะไรง่ายๆ แต่ทุกอย่างต้องรับฟังความเห็น ทั้งนี้ เมื่อระเบียบออกมาแล้ว ถือว่าเป็นกฎเกณฑ์ที่จะใช้ปฏิบัติ และถ้าเสร็จก็จะประกาศใช้
ส่วนล็อตแรกจะเป็นผู้ต้องขังประเภทไหนบ้าง พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ แต่ตนเองคิดว่าต้องไม่หลบหนี ต้องไม่ได้อภิสิทธิ์อย่างอื่น และต้องอยู่ที่คุมขัง เหมือนที่อยู่โรงพยาบาลก็ถือเป็นที่คุมขัง