หลังจาก ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการพักโทษเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งนับได้ว่าเป็นข่าวใหญ่ทั้งไทยและต่างประเทศ และนับว่าเป็นการเดินทางกลับบ้านที่ประเทศไทยของทักษิณในรอบกว่า 16 ปี
THE STANDARD ชวนประมวลวาทะของคนการเมืองที่ออกมาแสดงความคิดเห็นหลังทักษิณได้รับการพักโทษ
“หากรัฐบาลต้องการอำนวยความยุติธรรมให้แก่คุณทักษิณในฐานะผู้ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งหรือการกลั่นแกล้งกันทางการเมือง แนวทางในการดำเนินการต้องไม่ใช่การตอกย้ำระบบสองมาตรฐานของกระบวนการยุติธรรมในประเทศ หรือส่งเสริมให้ใครคนใดคนหนึ่งได้รับอภิสิทธิ์เหนือคนอื่นในทางกฎหมาย แต่รัฐบาลต้องยึดแนวทางที่อำนวยความยุติธรรมให้แก่ทุกคนอย่างทัดเทียมกัน”
– พรรคก้าวไกล
โพสต์ผ่านช่องทางสื่อสารของพรรค
18 กุมภาพันธ์ 2567
“ที่ยังมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่ากระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ใช้สองมาตรฐานกับทักษิณและนักโทษคนอื่นนั้น ขอย้ำว่าเราใช้มาตรฐานเดียวกัน เพราะคนอื่นก็ไปรักษาตัว”
– พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
ให้สัมภาษณ์
18 กุมภาพันธ์ 2567
“คุณทักษิณ ชินวัตร ผู้มีอำนาจตัวจริงเสียงจริงออกมาแล้ว…คงจะทำให้การบริหารจัดการทางการเมืองและการทำงานของคุณเศรษฐาและคณะรัฐมนตรีมีพลังที่เป็นเอกภาพ มีการขับเคลื่อนผลงานออกมาให้เป็นที่ประจักษ์ เป็นที่นิยมชมชอบของประชาชนได้ เพราะคุณทักษิณคือศูนย์รวมแห่งอำนาจตัวจริง”
– วันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (สว.)
โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก
18 กุมภาพันธ์ 2567
“ในฐานะพ่อก็ยินดีด้วยที่จะได้เจอลูก ไม่ได้เจอกันมานาน ไม่ได้อยู่กันอย่างครอบครัวมานาน ท่านก็กลับมาเข้ากระบวนการตามกฎหมายเรียบร้อย แล้วที่ได้ออกมาก็เป็นไปตามข้อกฎหมาย”
– เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ให้สัมภาษณ์
18 กุมภาพันธ์ 2567
“ในฐานะคนที่เป็นลูกคนหนึ่งต้องขอแสดงความยินดีกับครอบครัวชินวัตรที่ในวันนี้ผู้นำครอบครัวได้กลับบ้าน โดยเฉพาะหลานๆ ที่จะได้อยู่กับคุณปู่ คุณตา ก็ขอแสดงความยินดีกับครอบครัวชินวัตรอีกครั้ง”
– วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ให้สัมภาษณ์
18 กุมภาพันธ์ 2567
“บางครั้งเขาไม่มีจะกิน ไปขโมยนมกระป๋องในห้างยังต้องถูกจำคุก แต่นี่ทักษิณมีคดีที่ศาลตัดสินแล้วว่าทุจริต แล้วหนีไปต่างประเทศ 16-17 ปี แต่กลับมาไม่ต้องติดคุกเลยแม้แต่วันเดียว จึงขอถามประชาชนว่า กรณีของทักษิณถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกหรือไม่”
– กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (สว.)
ให้สัมภาษณ์
19 กุมภาพันธ์ 2567
“คนเจ็บป่วยให้กำลังใจเขาบ้างเถอะ อย่าไปมองแต่เขาจะสร้างภาพ ถ้ายังวัยสัก 10 ปีแล้วมาห้อยแขนใส่เฝือกต้นคอ อาจจะบอกได้ว่ามันผิดปกติ แต่คนอายุ 70 ปีทำเรื่องแค่นี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย”
– ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ให้สัมภาษณ์
19 กุมภาพันธ์ 2567
“ต่อไปอาจมีคนอ้างในระหว่างที่ถูกคุมขังได้ว่าผมเป็นโรคทักษิณ เมื่อเป็นโรคทักษิณก็สามารถไปรักษาที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องมีใครรู้ ไม่ต้องมีใครทราบว่าจะรักษาอย่างไร ผมไม่อยากให้เกิดทักษิณโมเดลในปลายทางของกระบวนการยุติธรรม”
– ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์
ให้สัมภาษณ์
19 กุมภาพันธ์ 2567
“ไม่ได้มีอะไรที่เป็นการช่วยเหลือหรือสองมาตรฐาน เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรมที่เป็นไปตามระเบียบปกติ ไม่ได้มีอะไรที่ทำให้สังคมนี้บิดเบี้ยว”
– ชูศักดิ์ ศิรินิล สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย
ให้สัมภาษณ์
19 กุมภาพันธ์ 2567
“ถ้าป่วยร้ายแรง ผมเชื่อว่าสังคมไทยเป็นสังคมพุทธ มีความโอบอ้อมอารี ถ้าตัวท่านใกล้จะเสียชีวิตแล้ว หรือท่านอันตรายอย่างยิ่ง ผมว่าคนไทยไม่ใจไม้ไส้ระกำ เพียงแต่วันนี้เราไม่ได้รับคำยืนยัน วันนี้ยังไม่สาย คุณทักษิณก็ดี ญาติพี่น้องก็ดี หรือแพทย์ใหญ่แถลงตรงไปตรงมา ผมว่าทุกคนก็จบ”
– สมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.)
ให้สัมภาษณ์
19 กุมภาพันธ์ 2567
“กระดูกหักนี่ผมเห็นหักจริงนะ ไปทำล้อเล่น ไปทำเป็นสร้างภาพไม่ได้ และโดยตัวท่านก็มีโรคอยู่ ผมเชื่อว่าป่วยจริง”
– สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ให้สัมภาษณ์
19 กุมภาพันธ์ 2567