วานนี้ (27 กรกฎาคม) ทักษิณ ชินวัตร ได้ร่วมเสวนาในรายการ Care Talk x Care ClubHouse ตอน Roadmap to New normal วางเส้นทางสู่วิถีใหม่ โดยพูดถึงโรดแมปการแก้ปัญหาเรื่องโควิด ทั้งวัคซีน การตรวจเชื้อต่างๆ เพื่อปรับตัวเข้ากับโควิดแบบ New Normal
ทักษิณกล่าวว่า New Normal นั้นก็คือ อะไรที่เป็นเหมือนเดิม จะเป็นแบบเดิมไม่ได้ จะมีของใหม่เข้ามาแทรกแต่ต้องใช้ชีวิตปกติให้ได้ ให้เศรษฐกิจเหมือนเดิมให้ได้ ซึ่งปัจจัยที่เข้ามาแทรกคือโควิด หากย้อนไป 100 กว่าปี ก็มีไข้หวัดใหญ่สเปน ส่วนโควิดเพราะเรายังไม่เคยสร้างภูมิ ยารักษาก็กำลังค้น กำลังทดลอง ยังมียาฉีดที่กำลังจะออกมา จะเหมือนไข้หวัดใหญ่ ที่เดิมยังไม่มียาแต่ตอนนี้มีครบ ก็ไม่มีใครกลัวไข้หวัดใหญ่ แต่ยังเป็นเหตุให้คนตายทุกวันนี้
“การปรับตัวเข้ากับโควิดนี้ หลายประเทศเริ่มแล้วอย่างอังกฤษ สิงคโปร์ ที่ว่าต้องอยู่กับมันให้ได้ อย่างไทยวันนี้ไม่เรียก New Normal ต้องไปรอเตียง รอตรวจเชื้อ เป็นหายนะใหม่ ส่วนจะถึงวันนั้นได้ อยู่ที่รัฐบาลจริงจังแค่ไหน หากไม่วิ่งด้วยความเร็วสูงกว่าและไปดักปัญหาก็ไม่ทัน” ทักษิณกล่าว
ทักษิณกล่าวอีกว่า ปัจจัยแรกคือวัคซีน ต้องเข้าใจว่าวันนี้วัคซีนมีไม่เพียงพอ บางตัวเป็นความสงสัยทางการแพทย์ของบุคลากรทางการแพทย์และผู้ฉีดไปแล้ว ว่าภูมิคุ้มกันต่ำเหลือเกิน และมีกลายพันธุ์อีก การหามาด้วยวิธีการจัดซื้อจัดจ้างก็แบบปกติ ทำให้ช้า
“ผมพยายามจะบอกว่าเราต้องใช้วิธีที่ไม่เป็นทางการบ้าง เช่น เราซื้อมาแล้วก็ยืมใครมาก่อน เพราะเขาก็กลัววัคซีนเขาหมดอายุเพราะเขามีเยอะ เขาฉีดไปเยอะแล้ว วัคซีนที่จะหมดอายุ ในฐานะไทยเป็นประเทศที่มีเพื่อนเยอะแยะน่าจะติดต่อไปขอประเทศที่มีโรงงานว่าขอก่อนได้ไหม เราอยู่ในภาวะที่เจรจาขอกันได้เยอะเลย เราฉีดกันได้ต่ำเหลือเกิน เสาร์-อาทิตย์ยังพัก เหลือฉีดได้แค่ 9 หมื่นโดส เราต้องฉีดวัคซีนให้เร็ว เอาเข้ามาให้มาก และกระจายจุดฉีดใน กทม. ต้องหลายแห่ง ไม่ใช่แค่บางซื่อที่เดียว” ทักษิณกล่าว
ทักษิณยังบอกด้วยว่า จากนี้ไปภายในสามเดือน รัฐบาลจะต้องฉีดให้ได้วันละ 7 แสน ถึง 1 ล้านโดส ไม่เช่นนั้นเอาไม่อยู่ หากฉีดมากพอจะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ สามเดือนนี้ใช้กลไกทุกอย่างที่มีจัดหาให้มากที่สุด Sinovac คนไม่พอใจ ก็เอา Sinopharm มา น่าจะเจรจากับจีนได้ ขอร้องว่ารัฐบาลใช้กลไกที่มีทำเรื่องนี้เถอะ
ก่อนจะย้ำว่า สามเดือนนี้ต้องเข้ามา 60-70 ล้านโดส และฉีดให้ถึง 6-7 แสนโดส และขอให้เป็นต้นทุนต่ำๆ สำหรับวัคซีนทางเลือก คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคต้องเช็กว่าสั่งซื้อเท่าไร สัญญาเซ็นกับใคร ทำไมแพงกว่าคนอื่น
ประเด็นที่ 2 นั้นคือการตรวจ โดยทักษิณกล่าวว่าสเตปที่ 2 นอกจากวัคซีนคือการตรวจ อย่าง Rapaid Antigen Test ที่ยุโรปขาย 0.95 ยูโร ประมาณ 35 บาท ของไทยขาย 350 บาท ถูกหน่อยก็ 250 บาท รัฐบาลต้องทำให้มันถูกและต้องเอาเข้ามาอย่างน้อย 60-100 ล้านชุด ไม่งั้นคนจะได้ไม่ต้องกลัวว่าเป็นหรือเปล่า แต่ Rapaid Antigen Test มักจะเกิด False Positive จะบอกว่าบวกแต่ไม่รู้ว่าบวกจากไข้หวัดใหญ่หรือเปล่า ต้องไปตรวจ RT-PCR ใหม่ หากไม่คอนเฟิร์มแล้วให้เขาไปอยู่รักษาอาจจะทำให้เขาจากไม่ติดเป็นติดได้
“กับโรคระบาด รัฐจ่ายได้ต้องจ่าย อย่าไปคิดแพง วันนี้ประชาชนไทยไม่เคยจนแบบนี้มาก่อน ทุกอย่างต้องประหยัดให้ได้ อย่างโทร 1668 ที่คนออกมาโวยกัน เขาต้องเสียเงิน Antigen Test Kit ซื้อมาแล้วก็แจกฟรี ทำให้ระบบการตรวจทั่วถึง ไม่ต้องประสาทว่าจะเป็นไม่เป็น แจกไปเลย บริษัทที่นำเข้าก็ขอให้เอาเข้ามาเยอะๆ สิ่งนี้ควรจะทำให้เสร็จภายในเดือนเดียว” ทักษิณกล่าว
ทักษิณกล่าวต่อไปอีกว่า ประเด็นที่ 3 คือการติดตามประชาชน เมืองนอกใช้โทรศัพท์มือถือ ทำ QR Code เขาจะได้รู้ว่าเราอยู่ที่นี่ ไปโรงพยาบาล ห้าง เมื่อมีเหตุก็จะไล่เช็กได้ว่าคนที่ติดไปไหนมาบ้าง ไม่ต้องมานั่งถาม ไทยก็ทำไปแล้วน่าจะรีบทำ ไม่ยาก ก็ทำได้ใน 2-3 เดือน
และประเด็นที่ 4 ปรับปรุงสถานที่ให้พอกับการรักษา วันนี้นอนในเตียงโรงพยาบาล 170,000 คน ตอนนี้ทหารอู้ฟู่สุด งบเยอะ เบี้ยเลี้ยงเยอะ สิ่งที่มีเอามาแชร์กับสาธารณะไหม รถพยาบาล ฝ่ายเสนารักษ์ก็มาช่วยกัน เพื่อขยายให้เพียงพอ มันจะพีกช่วงหนึ่งและก็ค่อยๆ ลด แล้วค่อยไปทำความสะอาดให้เหมือนเดิม
“ช่วงนี้เครื่องช่วยหายใจก็ต้องเร่งจัดหา อยากให้รัฐบาลทุ่มงบไป งบมีอยู่เอามาใช้เรื่องโควิดให้เต็มที่ พอวัคซีนมาก็ฉีดให้ด่านหน้าก่อน ไม่ใช่เอาไปบุรีรัมย์ก่อน เอามาให้นักรบด่านหน้า จะให้เขาตายเหรอ อย่างโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ป่วยเป็นร้อยคนแล้ว หมอรักษาตัวเองและคนไข้ด้วย นี่เป็นเรื่องเศร้าที่สุด” ทักษิณกล่าว
ทักษิณระบุทิ้งท้ายว่า ตั้งเป้าเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ ฉลองปีใหม่กลับไปสู่ New Normal ให้ใช้ชีวิตอย่างปกติสุข อยู่กับโควิดให้ได้ เพราะรัฐบาลมีความพร้อมทั้งวัคซีน สถานที่ ประชาชนก็จะมีความสุข ที่ด่าๆ เขาก็จะเลิก
“เตือนในฐานะที่ห่วงประชาชน และแก่กว่าท่าน แก่พรรษา ก็อยากให้ท่านช่วย จากนี้ไปถึงสิ้นปี ไทยต้องกลับไป New Normal ให้ได้ ไม่เช่นนั้นพัง เยียวยาก็ทำได้ไม่ทั่วถึง ผมก็เห็นใจ ความทุกข์ยากไม่เท่ากัน เงินก็มีน้อย ถ้าเราเยียวยาเหมือนอังกฤษไม่ได้ก็ต้องให้เขารีบกลับไปทำงาน กลับไป New Normal ไม่งั้นหนี้ต่อ GDP ก็เยอะขึ้นไปอีก ต้องให้นักรบกลับไปพร้อมอาวุธ ไม่งั้นนักรบทางเศรษฐกิจตายหมด ภาษีเก็บไม่ได้แน่นอน”
ทั้งยังกล่าวด้วยว่า รัฐบาลมีคนอธิบายขั้นตอนปัญหาค่อนข้างแย่ พวกคอลเซ็นเตอร์อย่าง เอไอเอส, ทรู หรือ ดีแทค หากขอความร่วมมือเขา ให้ข้อมูลกับคอลเซ็นเตอร์ เขาจะได้ข้อมูลที่ชัดเจนกว่า เพราะเขาอบรมวิธีมา ตอนนี้คนสับสนหมด ชาวบ้านเขางง
