วันนี้ (14 กุมภาพันธ์) ที่อาคารรัฐสภา ชูศักดิ์ ศิรินิล สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะได้รับพักโทษในช่วงวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ จะเป็นศูนย์รวมอำนาจทางการเมืองหรือไม่ ว่าเป็นการวิเคราะห์ของคอการเมืองหรือผู้เจนจัดทางการเมือง โดยพิจารณาจากเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมา พร้อมยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยมีความเป็นปึกแผ่น มีหัวหน้าพรรคและผู้บริหารของพรรคที่จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ด้วยความเป็นอิสระ
ชูศักดิ์กล่าวด้วยว่า การออกมาของทักษิณครั้งนี้ไม่ได้มีปัจจัยอะไรที่จะสะเทือนต่อพรรคเพื่อไทย หรือสะเทือนต่อรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน ด้วยเชื่อมั่นว่ารัฐบาลทำหน้าที่ด้วยความเป็นปึกแผ่น โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ อย่างขยันขันแข็ง จึงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงตามที่มีการวิเคราะห์กัน ขอให้รัฐบาลทำงานไปและอดีตนายกรัฐมนตรีก็ทำหน้าที่ไปในฐานะประชาชน
ชูศักดิ์ยังกล่าวถึงจุดยืนของพรรคเพื่อไทยว่า สามารถรับฟังความเห็นการวิพากษ์วิจารณ์ของฝ่ายต่างๆ ได้ แต่ควรอยู่ในครรลองของกฎหมายและความสงบเรียบร้อย ไม่ทำให้เกิดความแตกแยก ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีความชัดเจนว่าไม่นิยมความรุนแรงที่ไม่นำพาประเทศไปสู่ความเจริญก้าวหน้า ไม่เชื่อว่าเหตุการณ์จะกลับมาซ้ำรอยความขัดแย้งระหว่างกลุ่มสีเสื้อเหลืองและแดง
“ปัจจุบันรัฐบาลประกอบด้วยหลายพรรคการเมือง พรรคที่เคยเห็นไม่ตรงกันก็มาร่วมมือจัดตั้งรัฐบาล เพราะเงื่อนไขทางการเมืองเปลี่ยนแปลงไป เงื่อนไขปัจจัยไม่เหมือนเมื่อก่อน” ชูศักดิ์กล่าว
ทักษิณ ศูนย์รวมคนเพื่อไทย
ชูศักดิ์กล่าวว่า เชื่อว่าด้วยประสบการณ์ของทักษิณ และความรู้ความสามารถในอดีต เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ เป็นบุคลากรของประเทศ หากเสนอข้อแนะนำอะไรหวังว่าจะเป็นประโยชน์ทำให้พรรคเพื่อไทยเข้มแข็งขึ้น แต่ต้องยอมรับว่าทักษิณเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนเพื่อไทย ตั้งแต่ยุบพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน เปรียบเหมือนเป็นกำลังใจให้พรรคเพื่อไทย ขณะเดียวกันพรรคเพื่อไทยก็ต้องเข้มแข็ง ยืนด้วยความรู้ความสามารถของบุคลากรที่มีอยู่
ส่วนกรณีที่จะมีการอายัดตัวทักษิณในคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ชี้ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และเห็นว่าไม่ควรวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะต้องไปในทางไหน ซึ่งสำหรับกระบวนการของตำรวจที่จะอายัดตัวให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม อย่างไรก็ตาม ทักษิณก็มีทีมกฎหมายดำเนินการอยู่แล้ว
ดีใจทักษิณได้พักโทษ
ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส. จังหวัดสุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ในฐานะอดีต สส. พรรคไทยรักไทย กล่าวแสดงความยินดีหลังทราบข่าวทักษิณจะได้รับการพักโทษ ว่าวันนี้เป็นวันแห่งความรัก เป็นวันวาเลนไทน์ ตนจึงดีใจที่ทักษิณได้กลับมาอยู่บ้าน เพราะถือเป็นคนให้โอกาสตนและมีพระคุณอย่างสูงยิ่งทางการเมือง และส่วนตัวคิดว่าท่านมีประโยชน์ต่อประเทศเยอะและยังมีประโยชน์อีกมาก สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือท่านมีคอนเน็กชันกับผู้นำต่างประเทศสูงมาก และเป็นอดีตผู้นำ มีน้องสาวเป็นอดีตผู้นำ และมีลูกสาวเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ท่านสามารถให้ความรู้ให้ความคิดหากมีใครเข้าไปถาม
“แต่ถามว่าจะมารวบอำนาจ ผมคิดว่าไกลเกินไป จะไม่ให้ท่านพูดกับลูกสาวท่านหรือ ลูกสาวเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยมาขอความรู้ จะไม่ให้ท่านให้ความรู้หรือ จะให้ท่านไม่ให้การต้อนรับหรือ และท่านก็เป็นต้นตระกูลของพรรคเพื่อไทยก็ว่าได้ อย่าว่าแต่ท่านเลย พื้นฐานทางการเมืองของประเทศก็ย่อมฝัน การรู้สึกนึกคิดของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ” ครูมานิตย์กล่าว
เมื่อถามว่ากังวลเรื่องกลุ่มต่อต้านหรือไม่ ครูมานิตย์กล่าวว่าไม่กังวล เพราะเขาก็ต้องการแสดงออก เป็นความสวยงามในระบอบประชาธิปไตย จะให้คนเห็นด้วย 100% ก็คงเป็นไปไม่ได้ จะให้คนรัก 100% ก็คงเป็นไปไม่ได้ ในสภาก็ยังมีฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาล ดีที่ไม่มีฝ่ายแค้น อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นเรื่องของกระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ ตำรวจ โรงพยาบาล แพทย์ ส่วนคนจะมองว่าเหลื่อมล้ำหรือไม่ บังเอิญเป็นคนชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ทำอะไรกับบ้านเมืองก็ย่อมมีอีกฝ่ายตรงข้ามแน่นอน แต่ก็อยากให้คำนึงถึงข้อเท็จจริงว่าการพักโทษครั้งนี้มีถึง 900 คน ไม่ใช่แค่ทักษิณคนเดียว
ป่วยหนักใครจะรับผิดชอบ
ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าแต่ทักษิณโดนข้อกังขาไม่ได้ติดคุกแม้แต่วันเดียว ครูมานิตย์กล่าวว่า ก็คนป่วยจะให้ทำอย่างไร คนป่วยไม่สบายจะให้นอนอยู่ในคุกได้อย่างไร ก็ต้องหาหมอที่ดี
“ชีวิตคนคนหนึ่งที่เคยสร้างคุณูปการให้กับประเทศ เป็นผู้นำของประเทศ แล้วป่วยรักษาโรงพยาบาลในเรือนจำแล้วเกิดมีปัญหา เกิดเป็นอะไรที่เป็นหนักกว่านั้นใครจะรับผิดชอบ จึงต้องอยู่ในโรงพยาบาลที่ดีกว่า มีหมอที่ดีกว่าและมีความพร้อมกว่า” ครูมานิตย์กล่าว
