ค่ำคืนวันที่ 22 สิงหาคม 2567 ทักษิณ ชินวัตร เข้าร่วมงาน Dinner Talk : Vision for Thailand 2024 จัดโดย Nation TV ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ ทักษิณ ชินวัตร ปรากฏตัวร่วมงานปาฐกถาหลังจากพ้นโทษ และเป็นวันครบรอบ 1 ปีที่เดินทางกลับไทยในรอบ 17 ปี
น่าสนใจว่าภายในงานมีนักธุรกิจชื่อดังของไทย ไม่ว่าจะเป็น
- ธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์
- สารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการ รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
- คีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด
- ศุภลักษณ์ อัมพุช ประธาน บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด
และยังมีภาคเอกชนอย่าง ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย สมาคมธนาคารไทย รวมทั้งนักการเมืองในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี
“ขอบคุณที่เชิญมาเล่าให้คนไทยฟังว่าคิดอย่างไรกับบ้านเมืองของเรา เพราะไปอยู่เมืองนอกนานถึง 17 ปี ผมเหมือนถูกส่งไปเรียน Postdoctoral เพราะตัวเองเป็น ดร. ไปแล้ว แต่นานไปหน่อย 17 ปี ไม่รู้ว่าวันนี้จะพูดวิชัน วิสั้น หรือวิยาว” ทักษิณเกริ่นก่อนโชว์วิสัยทัศน์
ทักษิณบอกอีกว่า หลังจากลงเครื่องมาแล้วได้คิดและเห็นอะไรมาก “แต่เท่าที่สังเกต คนไทยไม่ยิ้มเหมือนเดิม อาจจะเพราะหนี้สินเยอะ และโอกาสทางเศรษฐกิจน้อยไป ทำให้ชีวิตไม่มีความสุข ไม่ยิ้มให้กัน ระหว่างอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ วันไหนไม่ป่วยหนักจะดูข่าว และเห็นว่าคนไทยพึ่งมูเตลูและสิ่งเร้นลับมากไป สังคมที่ลูกติดยาเยอะ แม่ติดหวย พ่อติดเหล้า ทำให้พลังสังคมและการสร้างเศรษฐกิจไม่ดี ทั้งที่เศรษฐกิจต้องการคนทำงาน”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ถ้าไม่มี ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ เศรษฐกิจไทยต้องการอะไร
- จับตาดิจิทัลวอลเล็ตเสี่ยงถึงทางตัน หาก ธปท. ไม่ยอมให้บล็อกเชนเชื่อมกับระบบโอนเงินแบงก์พาณิชย์
- ส่องความมั่งคั่ง 10 ปี ‘ทักษิณ ชินวัตร’ มหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพลร่ำรวยอันดับ 13 ของไทย
ที่ผ่านมาปัญหาเศรษฐกิจเกิดขึ้นมากมาย จึงอยากจะบอกในสิ่งที่คิดดังต่อไปนี้
ปรับโครงสร้างหนี้ สูตร ‘ยุคต้มยำกุ้ง’
คนไทยและประเทศไทยติดกับดักหนี้มานาน ต้องเริ่มจากการปรับโครงสร้างหนี้ โดยบรรดาธนาคาร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (รมว.คลัง) ต้องมาคุยกัน เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญประการแรกที่จะต้องเร่งทำ
ประเทศมีปัญหาเยอะ เรื่องแรกคือ ติดกับดักหนี้ ทำให้เดินไม่ออก หนี้สินของรัฐแก้ไม่ยาก ถ้าทำให้เศรษฐกิจมวลรวมประเทศ (GDP) โตได้ และถ้าขยายฐานภาษีจะทำให้สัดส่วน GDP ดีขึ้น โดยเรื่องของหนี้มาจากหนี้ครัวเรือนถึง 91% และหนี้ส่วนใหญ่คือหนี้บ้านและรถยนต์
“ผมไม่อยากเห็นคนไทยถูกยึดบ้าน และถูกยึดรถที่ต้องขับไปทำงาน วันก่อนได้คุยกับทางธนาคาร ซึ่งแนะนำว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่แบงก์ชาติเก็บภาษี 46% หรือ 47% แต่เก็บครึ่งเดียว โดยอีกครึ่งให้แบงก์พาณิชย์นำไปบริการหนี้บ้าน หนี้รถยนต์ แต่เรื่องนี้ต้องให้ รมว.คลัง นำไปคิด”
ทักษิณมองว่าเรื่องหนี้ต้องปรับโครงสร้างหนี้ภาคประชาชน คล้ายสมัยต้มยำกุ้ง 2540 ตอนที่เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีปี 2544 เคยเชิญสมาคมธนาคารไทยเพื่อให้แบงก์ปล่อยกู้และรัฐบาลจะซื้อหนี้กลับมาบริการเอง โดยให้ราคา 50% และนำมาจัดการทำให้ประชาชนกลับไปใช้ชีวิตได้
“น่าคิดว่าวันนี้มีเศรษฐกิจใต้ดินสูงมาก และไทยไม่เคยมีเศรษฐกิจใต้ดินสูงกว่า 1 ใน 3 แต่ตอนนี้เกือบ 50% ถ้านำเศรษฐกิจใต้ดินขึ้นมาบนดินได้จะเพิ่มสัดส่วนและใช้หนี้ได้ ปัญหานี้เป็นสิ่งที่ต้องคุยกันต่อ” ทักษิณกล่าว
ประสานนโยบายการเงินกับแบงก์ชาติ มอง ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ยิงปืนนัดเดียวได้นก 3 ตัว
รัฐบาลต้องประสานนโยบายการเงินกับแบงก์ชาติโดยที่ยังเคารพ ‘ความเป็นอิสระ’ ของแบงก์ชาติ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะวันนี้คนไทยในต่างจังหวัดไม่มีโอกาสทางธุรกิจ ดังนั้น รมว.คลัง ต้องคุยกับสมาคมธนาคารไทยและนักซื้อหนี้ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร รวมทั้งประสานนโยบายเศรษฐกิจกับแบงก์ชาติ
“นโยบายการเงินและการคลังควรไปในทิศทางเดียวกัน เช่น แบงก์ชาติลด Supply หรืออุปทาน เดือนละ 1% ไปเรื่อยๆ ต้องทำให้คนต่างจังหวัดมีเงินใช้ หรือโอกาสทางธุรกิจ ทำให้เศรษฐกิจในต่างจังหวัดไปต่อได้”
ที่สำคัญ ‘โครงการดิจิทัลวอลเล็ต’ วันนี้เท่าที่ทราบ เนื่องจากมีคนค้าน และบางคนค้านจนลืมไปว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของต้มยำกุ้ง แต่ทักษิณมองว่าดิจิทัลวอลเล็ตเป็นการยิงนก 3 ตัวด้วยกระสุนนัดเดียว คือ
- กระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะประเทศโตช้า ไม่มีเงินในระบบ ซึ่งรัฐบาลจะกระตุ้นดิจิทัลวอลเล็ตที่ข้างหลังบ้านเป็นระบบบล็อกเชน
- ต้องการให้คนไทยตั้งแต่รากหญ้าได้เรียนรู้เทคโนโลยี เพื่อให้ใช้ได้ต่อไปกับทุกบริการของภาครัฐ
- ทุกคนได้เงินดิจิทัลแน่ เฟสแรกกลุ่มเปราะบาง
โดยในปีงบประมาณปี 2567 อาจจะตั้งงบ 1.2 แสนล้านบาท สำหรับดิจิทัลวอลเล็ตเพื่อใช้เดือนกันยายนนี้ บวกกับการตั้งงบกลาง 2 หมื่นกว่าล้านบาท จะนำไปใช้กับกลุ่มเปราะบาง 13.5 ล้านคน และใช้กับคนพิการอีก 1 ล้านคน และจ่ายเงินสดให้คนละ 10,000 บาท รวม 14.5 ล้านคน
ดังนั้นในช่วงเดือนตุลาคม เมื่อได้รับงบประมาณใหม่ ผู้ที่ลงทะเบียนอีก 30 ล้านคน และผ่านการตรวจคุณสมบัติแล้ว ซึ่งจะต้องดูว่าเหลืองบประมาณเท่าใด เพื่อจ่ายเป็นดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจได้แม่นยำ
“เราจะได้ทั้งดิจิทัลไอดี ซูเปอร์แอป เพื่อใช้ทุกบริการภาครัฐทั้งหมด และอนาคตอาจขายพันธบัตรผ่านแอปนี้ได้ ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อประเทศมากกว่าแค่กระตุ้นเศรษฐกิจ”
ปรับโครงสร้างภาคอุตสาหกรรม ดึงดูดลงทุน EV ดาต้าเซ็นเตอร์ และเซมิคอนดักเตอร์
เราต้องปรับโครงสร้างภาคอุตสาหกรรมด้วยการชวนนักลงทุนเข้ามาลงทุน EV เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นฐานผลิตพวงมาลัยขวา ซึ่งที่ผ่านมามีการลงทุนจากค่ายรถยนต์จีนต่อเนื่อง เพราะเมื่อไรที่การเปลี่ยนผ่านพลังงานเปลี่ยนไปยกเลิกรถยนต์สันดาป ไทยต้องรักษาอีโคซิสเต็มนี้ไว้ให้ได้ โดยเฉพาะ Local Content การใช้ชิ้นส่วนในประเทศ ต้องเริ่มเจรจาได้แล้ว ให้ทุกคนไปคุยกัน รวมถึงดึงดูดลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์และเซมิคอนดักเตอร์ให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม
ขณะเดียวกัน “กรณีที่ภาค SMEs วันนี้ตายก็เพราะสินค้าจากจีนเข้าไทยจำนวนมาก อย่างที่ห่วงกันคือ Temu ทำเราแข่งขันไม่ได้ ดังนั้นปัญหาคือ เราจะแก้อย่างไร ต้องทำ Smart SMEs ให้ได้ ต้องมาดูว่าสินค้าเข้ามาถูกต้องตามกฎหมายไหม เราต้องรู้ว่าโลกมี Protectionism (การคุ้มครองทางการค้า) แล้วเราก็ต้องเรียนรู้ ไม่รังเกียจ แต่ต้องแข่งขันอย่างเท่าเทียม”
ดันซอฟต์พาวเวอร์-อีสปอร์ต-งานอาร์ตจริงจัง
ทักษิณบอกอีกว่า รัฐบาลนี้จะเอาจริงเรื่อง ‘ซอฟต์พาวเวอร์’ โดยจะส่งเสริมทุกรูปแบบ เริ่มจากสร้างอีโคซิสเต็มของมวยไทยขึ้นมาใหม่ เอามวยไทยมาทำลีกแบบฟีฟ่าเลยได้หรือไหม ตั้งกติกาให้คนมาแข่งแบบพรีเมียร์ลีกเพื่อให้มีมาตรฐานสากล แข่งได้ทั่วโลก
รวมถึงอีสปอร์ต วันนี้คนไทยเราทำเกมเองได้ อยากจะสนับสนุนในไทยอย่างจริงจังผ่าน Demand Side ให้โทเคนกับคนทำ ถ้าคนเล่นเยอะ พร้อมส่งเสริมงานอาร์ตหลังดิจิทัลวอลเล็ตสำเร็จ ขายผ่านแพลตฟอร์มนี้ รวมถึงแฟชั่น อยากส่งเสริมเอกลักษณ์คนไทยของเราให้โลกยอมรับความเป็นธรรมชาติของเรา ตลอดจนยกระดับครัวไทยสู่ครัวโลก อยากส่งเสริมวัฒนธรรมไทยผ่านหน้าต่างของครัวไทย
ยกเครื่องปฏิรูปภาคเกษตร-เพิ่มรายได้ท่องเที่ยว
ไทยต้องใช้จุดแข็ง ปฏิรูปการเกษตรใหม่ พันธุ์พืชไทยมีของดีเยอะ วันนี้เราสู้เวียดนามไม่ได้ เขาเริ่มทำทีหลัง แต่ไทยต้องเร่งวิจัยและพัฒนา (R&D) ให้มากขึ้น เราอยู่กับมาร์จิ้นที่ต่ำมาก จึงถูกกดเรื่องค่าแรง นอกจากนี้ต้องเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว นี่เป็นสิ่งที่อยากเห็น สนามบินยังรับได้อีกเยอะ ต้องขยายสุวรรณภูมิ ปรับปรุงสนามบินในต่างจังหวัดด้วย
ไม่ทิ้งคาสิโน-แลนด์บริดจ์
ส่วนโครงการ Entertainment Complex (คาสิโน) “ผมเคยคิดตอนนั้น มีคนค้าน แต่อันนี้ผมไม่ได้คิดเลยไม่มีคนค้าน อย่างไรก็ดี พื้นที่คาสิโนจริงๆ มีไม่ถึง 10% ไทยต้องลงทุนแต่ละแห่งมูลค่ากว่าแสนล้าน”
โดยการลงทุนขนาดใหญ่จะต้องเกิดขึ้นใน 3 ปีของรัฐบาล หรือหากเลือกตั้งชนะก็ทำต่อ รวมไปถึงเดินหน้าโครงการแลนด์บริดจ์
ปรับโครงสร้างพื้นฐานเขตเมือง ‘ถมทะเลบางขุนเทียน-ปากน้ำ’
รัฐบาลจะตั้งกองทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และควรจะทำการถมทะเลบางขุนเทียน-ปากน้ำ เพื่อรองรับเรื่องน้ำท่วมพื้นที่ กทม. เพื่อให้ได้พื้นที่เพิ่ม สร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยวรถไฟความเร็วสูงที่จะช่วยเชื่อมโลก โดยเฉพาะเส้นทางสายไหม ซึ่งเรากับจีนจะครบรอบความสัมพันธ์ 50 ปี
ตลอดจนเวนคืนรถไฟฟ้าเอกชนกลับมาเป็นของรัฐ และจ้างเอกชนบริหาร เพื่อเป็นรูปแบบการทำนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท เก็บค่าเข้าเมืองชั้นใน (Congestion Charge) แบบลอนดอน เข้ากองทุนโครงสร้างพื้นฐานมา Subsidize (อุดหนุน) รถไฟฟ้า
เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล OCA ไทย-กัมพูชา
พื้นที่ทับซ้อนทางทะเลบริเวณไหล่ทวีประหว่างไทยและกัมพูชา (OCA) ที่เป็นผลประโยชน์ใต้ท้องทะเลจะต้องทำต่อไป โดยรูปแบบอาจมาในลักษณะแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกันเพื่อประชาชนทั้งสองประเทศ โดยขณะนี้กำลังให้หน่วยงานศึกษาโมเดลต่างประเทศ เช่น นอร์เวย์ หรืออาจใช้โมเดลที่เคยประสบผลสำเร็จอย่างมาเลเซียที่แบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกันได้มาเจรจา ซึ่งหากทำได้จะทำให้พลังงานไฟฟ้าถูกลง
ดึงดูไบและสิงคโปร์ ดันไทยศูนย์กลางการเงิน
ไทยต้องเดินหน้าต่อทำศูนย์กลางการเงิน ซึ่งเป็นโครงการที่ไทยผลักดันมาตลอด กำลังให้ศึกษา โดยมีดูไบและสิงคโปร์และเชิญธนาคารทั่วโลกมาตั้งประเทศไทย เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการทำธุรกรรมต่างประเทศ
โอนโฉนดให้ธนารักษ์เป็นเหมือน Custodian ยืด 99 ปี พร้อมสร้างเคหะฯ บ้านคนจน
กรณีการขายที่ดินต่างชาติ ต้องโอนโฉนดให้กรมธนารักษ์เป็นเหมือน Custodian (ผู้ดูแลรับฝากทรัพย์สิน) ยืด 99 ปี และมีเงื่อนไข หากกลัวที่ดินแพงต้องสร้างเคหะฯ บ้านคนจนให้แทน เพื่อแก้ปัญหาผู้ยากไร้
ขยายกองทุนวายุภักษ์-ปฏิรูประบบราชการ
ควรขยายกองทุนวายุภักษ์ Treasury Stock (หุ้นซื้อคืน) ควรซื้อ SET50 ราคาต่ำกว่าพื้นฐานที่ควรเป็น และมองแนวทางการปรับอัตราภาษีเพื่อให้เป็นธรรม ให้ไทยเป็นประเทศที่น่าอยู่ น่าลงทุน พร้อมหาแนวทางลดนิติบุคคล-บุคคลธรรมดา ขณะที่การเก็บภาษี (VAT) ควรสร้าง VAT 7% แบบคืนได้ และ Negative Income Tax (ภาษีเงินได้ต่ำแบบติดลบ) รายได้ต่ำได้ภาษีคืน ควบคู่ไปกับการปฏิรูประบบราชการ ลดค่าใช้จ่ายภาครัฐ ลดข้าราชการ ลดงบที่จะบอลลูนขึ้นไป ตลอดจนลดงบประมาณ 30 บาท ต้องมาคำนวณใหม่ นำเอาเทคโนโลยีมาใช้ ซึ่งเป็นเรื่องท้าทาย
นอกจากนี้ทักษิณบอกอีกว่า อย่าลืมว่าเราอยู่ในระบบทุนนิยม ทุนนิยมมันพังไปหลายที่ เพราะขาดความเอื้ออาทร เราก็เหมือนกัน หากไม่เอื้ออาทรต่อคนไม่มีกำลังเราก็เหมือนประเทศพิการ ต้องให้โอกาสเขา
“อยากให้คนไทยรักกัน ผมโดนเยอะที่สุด เห็นทั้งสวรรค์และนรกในคนเดียวกัน ทำไมผมถึงเจอคนนั้นพบคนนี้ได้ แต่อดีตก็คืออดีต ผมอยากอยู่กับปัจจุบันและอนาคต อย่าไปมองว่าพวกนั้น พวกนี้ไม่ใช่พวกเรา วันนี้ต้องมีความสามัคคี เพราะสิ่งที่พูดไปทั้งหมด ถ้าขาดความสามัคคีไม่สามารถทำได้เลย”
สำหรับมุมมองรัฐบาลใหม่ ขณะนี้มีพรรคการเมืองจำนวนมากมาร่วมกัน ก็ทำให้ประเทศชาติพัฒนาได้ง่าย พัฒนาขึ้น แก้กฎหมายที่ทำให้คนลำบาก สามารถที่จะทำสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น วันนี้ ‘ไม่โกรธใครแล้ว ผมรักบ้านเมือง อยากเห็นบ้านเมืองดี พร้อมที่จะอยู่ข้างหลัง’
ทักษิณทิ้งท้ายว่า ใครที่อยากปรึกษาผมต้องยอมเสียค่ากาแฟหน่อยแล้วกัน กราบแผ่นดินวันนั้น เพราะไม่อยากไปไหนอีก อยากอยู่แผ่นดินนี้