วานนี้ (16 พฤษภาคม) เวลา 21.30 น. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามจากประชาชนผ่านรายการ CareTalk การเมืองไทยหลังเลือกตั้ง ถึงการรีแบรนดิ้งพรรคเพื่อไทย จะสามารถลบคำว่า ‘รบไปกราบไป’ ได้หรือไม่
ทักษิณกล่าวว่า เราไม่ได้สู้ แต่เราทำงานการเมืองเวลาแข่งขันต้องแข่ง ส่วนคำว่ากราบไป คือการเคารพสถาบัน โดยจุดยืนของครอบครัวชินวัตร เคารพ รักสถาบัน ใครจะว่าอะไรช่วยไม่ได้ เพราะตนเองเป็นอย่างนี้ ไม่ได้สู้เพื่อจะไปทำอะไรที่ไม่ดีต่อสถาบัน แต่สู้เพื่อเอาชนะทางการเมืองเท่านั้น
“สำหรับสถาบันนี้ ผมถือว่าผมจงรักภักดี ครอบครัวผมเป็นอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว รู้ไหมผมกับคุณหญิงสมรสพระราชทาน ไอ้ความสำนึกอะไรพวกนี้มันมีอยู่ อย่าให้ผมไม่มี เป็นไปไม่ได้เลย แน่นอนว่า ถ้าเพื่อไทยร่วมรัฐบาลก้าวไกล ถ้าสิ่งไหนที่ก้าวไกลทำแล้วกระทบกระเทือนสถาบันกษัตริย์ อันนี้ไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว เป็นเรื่องธรรมดา เราไม่ใช่เป็นขวาจัดตกขอบ เราถือว่าเราเป็นคนไทย เคารพในสถาบันพระมหากษัตริย์แค่นั้นเอง ชัดเจนครับ ไม่มีบิดพลิ้ว นี่คือผม บางคนชอบสร้างวาทกรรมสวยๆ ผมไม่สนใจ ผมก็ปากลับ” ทักษิณกล่าว
ส่วนที่สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) มีแนวโน้มเชียร์พรรคเพื่อไทยมากกว่านั้น ทักษิณกล่าวว่าขอบคุณที่คิดว่าเพื่อไทยเหมาะสม เพราะปกติ ส.ว. ไม่ค่อยชอบเพื่อไทย ซึ่งต้องเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ให้เกียรติและสนับสนุนพรรคที่ 1 อย่างเต็มที่
“อย่างที่อิ๊งให้สัมภาษณ์และพูดกับผมส่วนตัวบอกว่า พ่อเราต้องสนับสนุนพรรคก้าวไกล เพราะเขามาที่ 1 เราต้องยกมือให้เขา ถึงแม้จะร่วมรัฐบาลหรือไม่ร่วมรัฐบาลต้องยกมือให้ อันนี้เป็นสปิริตของเรา เป็นความคิดของคนรุ่นใหม่ ผมก็เห็นด้วย และบอกว่าดีลูก” ทักษิณกล่าว
ทักษิณยังกล่าวอีกว่า วันนี้เท่าที่ฟังลูกสาวที่คุยกับพรรคหัวหน้าพรรค เลขาฯ พรรค ทุกคนยืนยันว่าจะเป็นไปตามหลักการของระบอบประชาธิปไตย ไม่งั้นจะเป็นพรรคที่พูดเรื่องประชาธิปไตยไม่ได้ ไม่มีสปิริตของความเป็นประชาธิปไตย การจะไปร่างกฎหมายจะไปทำเพื่อประชาธิปไตยก็เพื่อตัวเองไม่ใช่เพื่อส่วนรวม
“วันนี้ก้าวไกลชนะ เพราะเขาคิดเกมใหม่ เมื่อก่อนที่ไทยรักไทยชนะมาตลอด คือเกมการออกนโยบาย บางคนก็บอกว่าเกมปราศรัย เกมปาเงิน พอมาเป็นยุคโซเชียลมีเดียต้องยอมรับว่าเพื่อไทยยังใช้พรรณนาเดิมเยอะไปหน่อย ตนเองเชื่อว่า They learn the mistake, they learn the listen พรรคเพื่อไทยถึงเก่าแก่แต่ Dynamic” ทักษิณกล่าว
ส่วนพรรคก้าวไกลจะจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่อยู่ที่พรรคแกนนำจะไปคุยกับ ส.ว. ได้ไหม หรือไปเพิ่มจำนวน ส.ส. ให้ถึงได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ยืดเยื้อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีสิ่งที่ ส.ว. เห็นด้วย หรือ ส.ส. มารวมกันเกิน 376 เสียง แต่ถ้าจัดไม่ได้ก็ต้องฟอร์มใหม่ขึ้นมา
ทักษิณยังกล่าวถึงผลการเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยผิดโผ มองว่าเป็นความสามารถของพรรคก้าวไกลที่สามารถสร้างหัวคะแนนธรรมชาติได้ดี ทำให้แทรกเข้าไปถึงทุกครัวเรือนโดยไม่ต้องใช้เงินจำนวนมาก
ทั้งนี้ ทักษิณเชื่อว่าการปฏิวัติจะไม่เกิด เพราะบ้านเมืองไม่ถึงทางตันขนาดนั้น พร้อมกล่าวถึงการที่พรรคเพื่อไทยเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 คน เพราะโดนกระทำมาเยอะ จึงไม่ประมาท แต่พรรคก้าวไกลไม่มีเบอร์ 2 ถ้า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลถูกแขวน พรรคก้าวไกลจะเสนอนายกฯ คนใหม่ไม่ได้แล้ว ขออย่าให้เป็น มิเช่นนั้นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีก็จะตกเป็นของพรรคที่ 2
อ้างอิง: