วันนี้ (26 เมษายน) ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ต้องแล้วแต่นายกฯ ส่วนการปรับ ครม. ในส่วนของพรรคเพื่อไทยนั้น หากจะปรับก็ต้องปรับทีเดียว
เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่จะมีการปรับ ครม. โดยผลักให้พรรคภูมิใจไทยไปเป็นฝ่ายค้าน ทักษิณกล่าวว่า “ไม่มี ไม่เคยคิดว่าจะให้ใครออกไปเป็นฝ่ายค้าน ไม่มีความคิดตรงนั้น”
ส่วนกระแสที่ออกมามองว่าเป็นการเมืองขย่มกันเองหรือไม่ ทักษิณกล่าวว่า บางครั้งเราก็ไม่รู้ เพราะแต่ละพรรคก็มีความคิดเห็นเป็นของตนเอง และในส่วนของพรรคพลังประชารัฐที่มีกระแสข่าวว่าจะดึงมาร่วมรัฐบาลยังไม่ได้คิดเรื่องที่จะดึงใคร เพราะรัฐบาลมองว่าที่มีอยู่ก็ดีอยู่แล้ว อาจจะปรับตำแหน่งมากกว่า ส่วนการดึงงูเห่าจากพรรคพลังประชารัฐคงไม่มีความจำเป็นอะไร เสียงรัฐบาลก็เยอะแยะ
ทักษิณกล่าวถึงความคืบหน้าการเจรจากำแพงภาษีสหรัฐอเมริกาว่า เรามีการพูดคุยกัน ซักซ้อมในเรื่องข้อห่วงใยของสหรัฐฯ ที่ผ่านมามุ่งแต่ตัวเลขของการนำเข้าและส่งออกไม่ได้มุ่งคุณภาพ จึงต้องมาปรับครั้งใหญ่ ก็ถือเป็นสัญญาณเตือนภัยที่ดีว่าจะปรับอย่างไรให้แฟร์ เชื่อว่าจะดีขึ้น
ส่วนเหตุผลที่สหรัฐฯ ชะลอไทยเข้าเจรจา ทักษิณกล่าวว่า สหรัฐฯ ต้องดีลกับหลายประเทศ และเขาก็มียุทธศาสตร์ในส่วนของเอเชียซึ่งมีความใกล้ชิดกับจีน นอกจากนี้ในการเจรจาก็ยังมีเรื่องที่ไม่ใช่ภาษีปนอยู่ด้วย ทั้งเรื่องของความมั่นคง เรื่องที่เรามีปัญหาการฟ้องร้องคนอเมริกันซึ่งถูกนำเอามารวมกันหมด ฉะนั้นเราต้องไม่ผลีผลาม ใจเย็นๆ ดูข้อมูลให้เหมาะ และมีสติในการเจรจาให้ดี
ส่วนการขออนุญาตศาลออกไปพูดคุยกับทางประธานาธิบดีทรัมป์ก็คงต้องดูเหตุการณ์ก่อน เพราะการเจรจาจะเป็นการพูดคุยกับผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (United States Trade Representative: USTR) หรือกระทรวงพาณิชย์ เพราะฉะนั้นเราจะใช้ระดับรัฐมนตรีไปเจรจา
ทักษิณยังกล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวสั่งเบรก กัน จอมพลัง ผ่าน ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ว่าไม่ให้ทำคดี พีช BMW ขับรถปาดหน้ารถกระบะว่า ตนไม่รู้จักกับ กัน จอมพลัง แต่ชื่นชมว่าเขาทำงานให้ส่วนรวมดี และไม่เคยบอกให้ใครไปกวนแนวทางการทำงานของเขา
ส่วนกระแสข่าวค่าหัว กัน จอมพลัง จากการบอกเล่าของ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ซึ่งที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นอำนาจมืดอยู่เบื้องหลังนั้น ทักษิณระบุเพียงว่า “ไม่มีหรอก บ้าคนพูดอะ”
ทักษิณยังกล่าวถึงความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า กำลังจัดองคาพยพของเรา เพราะรู้ปัญหาอยู่พอสมควร คิดว่าคงจะมีการพูดคุยกันในเรื่องความมั่นคง เพื่อให้เข้าใจตรงกัน และจะเดินหน้าทำเต็มที่ อย่างน้อยปีนี้ทุกอย่างต้องเบาบาง หรือนำไปสู่สันติภาพให้ได้