วานนี้ (24 มกราคม) เมื่อเวลา 20.00 น. ดร.ทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี วูดซัม (Tony Woodsome) อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดให้ผู้ชมและผู้ฟังได้เข้ามาตั้งคำถามผ่านรายการ CareTalk x Care ClubHouse ในหัวข้อ ‘มีเรื่องคาใจ ก็ถามมาเลอ!’
นารากร ติยายน พิธีกรและผู้ประกาศข่าว ได้สอบถามถึงประเด็นที่ ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และ อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือแบม นักกิจกรรมทางการเมือง ที่ก่อนหน้านี้เดินทางไปถอนประกันตนเองที่ศาลอาญา ในคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พร้อมประกาศอดอาหารและอดน้ำเพื่อประท้วงกระบวนการยุติธรรม
ทักษิณกล่าวว่า ตนเองจบปริญญาเอกด้านกระบวนยุติธรรมทางอาญา ซึ่งกระบวนการยุติธรรมทางอาญานั้น ผู้ที่ถูกกล่าวหาจะต้องเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าจะมีการพิสูจน์ว่ากระทำความผิดจริง คือต้องมีเหตุผลที่ชัดเจน และเป็นหลักก่อนจะไปกล่าวหาเขา ไม่ใช่กล่าวหาลอยๆ
ทักษิณยังกล่าวอีกว่า วันนี้เด็กเขาถูกกล่าวหา แล้วเราไปสรุปว่าเขาเป็นคนไม่ดีจึงไม่ให้ประกันตัวเขา มันผิดหลักกระบวนการทางอาญาและทางรัฐธรรมนูญ ซึ่งการที่เขาต้องการให้ประกันตัวผู้ถูกกล่าวหา เพราะคนมันล้นคุกอยู่แล้ว คนที่ถูกกล่าวหาเขามักจะให้ประกันตัว ซึ่งวันนี้เห็นว่ามีหลายสิบคนอยู่ในคุก
เด็กสองคนนี้จึงมีความรู้สึกว่า ขอเรียกร้องกระบวนการยุติธรรมทางอาญา เพื่อให้เห็นว่ามีเพื่อนเขา มีเด็กๆ ที่ปรารถนาดีต่อบ้านเมือง แต่อาจจะมีการนำเสนอที่แตกต่าง แต่ถูกดำเนินคดีทั้งที่ยังไม่มีการตัดสินลงโทษ โดยเฉพาะ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต้องมีการพูดจากับทางอัยการเพื่อเปิดโอกาสให้มีการประกันตัว
ทักษิณกล่าวอีกว่า ในมุมมองของเด็ก เขาไม่มีอาวุธ มีแค่หัวใจ มีความตั้งใจจริง และเด็กรุ่นนี้เป็นเด็กที่ตรงไปตรงมา พูดกันได้ทุกเรื่อง ผิดก็คือผิด ถูกก็คือถูก เขารับได้ เขามาสู้เพื่อให้เพื่อนเขาได้รับความเป็นธรรม ให้กระบวนการยุติธรรมหันมาเอาจริงเอาจังกับความเป็นธรรม เพราะวันนี้บ้านเราขาดความเป็นธรรม เช่นตนอยู่เมืองนอก ก็ถูกใส่ร้าย ใช้พยานเท็จมาเรื่อย
สำหรับกระแสข่าวและการประกาศว่าจะกลับประเทศไทยนั้น ทักษิณให้ความเห็นในประเด็นนี้ว่า ความเร่งด่วนของประเทศในตอนนี้คือ ปัญหาทางเศรษฐกิจ คนจนทรมานมากในประเทศไทย ถ้าไม่แก้ปัญหาตรงนี้ก่อน อย่างอื่นก็แก้ไม่ได้ และตรงนี้ต้องใช้เวลาและความทุ่มเท รวมถึงทรัพยากรในการแก้ปัญหา ถ้าไม่แก้ตรงนี้ก่อน คนไทยลำบากกันหมด และจะทำให้คนไทยย้ายไปหาช่องทางที่ผิดกฎหมายเพื่อหารายได้
ทักษิณมองว่า จุดยืนของพรรคเพื่อไทยคือเน้นหลักประชาธิปไตยที่มีหลักที่ดี และเน้นเรื่องเศรษฐกิจปากท้องต้องมาก่อน บางทีคนพูดว่าเพื่อไทยสนแต่เศรษฐกิจ ไม่สนใจการเมือง แต่มันไม่ใช่ เพราะจุดยืนทางการเมืองในการที่จะทำอะไรบางอย่างมันก็เป็นความต่างกันของเพื่อไทยและก้าวไกลอยู่แล้ว ฉะนั้นถ้าแฟนคลับชอบแบบเอ็กซ์ตรีมก็ไปที่ก้าวไกล ชอบปากท้องต้องมาก่อน และประชาธิปไตยที่เหมาะสมก็มาเพื่อไทย
ส่วนวาทกรรมที่ว่า ‘เลือกเพื่อไทย รัฐประหารก็กลับมา’ นั้น ทักษิณมองว่าอย่าไปให้ความสำคัญ และตนต้องขออภัยที่เคยพูดไปว่าจะกลับเมืองไทยเมื่อปี 2565 ซึ่งตนพยายามอย่างยิ่งไปทำออกซิเจนร่างกายให้เสร็จก่อนเวลาเพื่อให้กลับเมืองไทยทัน แต่ลูกเขาห่วงใยเรื่องความปลอดภัยก็ยังไม่ได้กลับ
ทักษิณกล่าวด้วยว่า ตนอยู่เมืองนอกมานาน พวกใส่ร้ายมากขึ้น พวกกล่าวหาทางคดีก็ให้การเท็จ และย้ำว่าถ้าตนกลับจะไม่อาศัยพรรคการเมืองใดๆ รวมทั้งเพื่อไทย จะอาศัยแค่หัวใจตัวเอง ฉะนั้นไม่ต้องกังวล แล้วไม่ว่าอย่างไร อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย จะเป็นคนประกาศว่าตนจะกลับเมื่อไร รับรองว่าไม่มีการเกี้ยเซียะกับพรรคพลังประชารัฐ หรือออกกฎหมายช่วยเหลือใดๆ