วันนี้ (16 กรกฎาคม) วิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการสืบพยานฝ่ายจำเลยในคดีที่ทักษิณถูกดำเนินคดีในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
วิญญัติ ระบุว่า ศาลได้นัดฟังคำพิพากษาคดีนี้ในวันที่ 22 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. โดยทักษิณจะต้องเดินทางมาศาลด้วยตนเอง
วิญญัติ กล่าวว่า หลังจากสืบพยานฝ่ายโจทก์เสร็จสิ้นไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา วันนี้เป็นการสืบพยานฝ่ายจำเลย ซึ่งเดิมมีพยานบุคคลในบัญชีพยาน 14 ปาก แต่ได้มีการเบิกความพยานเพียง 3 คนในช่วงเช้า ได้แก่ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.วิษณุ เครืองาม, ศาสตราจารย์พิเศษธงทอง จันทรางศุ และทักษิณ ชินวัตร
หลังการสืบพยานทั้ง 3 ปาก ทีมทนายความและทักษิณได้ประเมินรูปคดีร่วมกัน และเห็นว่าพยานทั้งสามปากเพียงพอที่จะนำมาต่อสู้คดีแล้ว เนื่องจากไม่มีประเด็นที่ต้องสืบพยานเพิ่มเติม จึงได้แถลงต่อศาลขอให้ยุติการเบิกพยานที่เหลือทั้งหมด และจะขอทำคำแถลงปิดคดีเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 15 วัน ซึ่งศาลได้พิจารณาอนุญาต และนัดให้นายทักษิณมารายงานตัวอีกครั้งในต้นเดือนสิงหาคม ก่อนถึงวันนัดฟังคำพิพากษา
มั่นใจในข้อต่อสู้
ส่วนเหตุผลที่เชิญศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.วิษณุ และศาสตราจารย์พิเศษธงทอง มาเป็นพยานนั้น วิญญัติ ระบุว่า เนื่องจากทั้งสองท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและรู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับทักษิณว่าไม่มีเจตนาตามที่ถูกกล่าวหา อีกทั้งเป็นผู้ที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันฯ
เมื่อถามถึงความมั่นใจในคดีนี้ วิญญัติกล่าวว่า “ขอไม่ตอบว่ามั่นใจหรือไม่ แต่เชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรม”
พร้อมระบุว่าพยานหลักฐานของฝ่ายโจทก์มีหลายส่วนที่ไม่สมบูรณ์และเป็นเพียงพยานความเห็น ที่ฝ่ายจำเลยพยายามหักล้างว่ามีอคติและเป็นพยานที่อยู่ฝ่ายตรงข้าม ซึ่งฝ่ายโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานประจักษ์ที่สามารถพิสูจน์ได้
วิญญัติ กล่าวปิดท้ายว่า หลังจากนี้ศาลจะพิจารณาจากพยานหลักฐานทั้งของฝ่ายโจทก์และจำเลย เพื่อชั่งน้ำหนักก่อนมีคำพิพากษา และจะไม่ก้าวก่ายอำนาจการพิจารณาของศาล ทั้งนี้ในวันนี้ ทักษิณมีสีหน้าที่ดีและยังได้ฝากขอบคุณกลุ่มผู้ที่มาให้กำลังใจอีกด้วย