ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายและระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เทศกาลกินเจปีนี้กลับมาแรงแซงทางโค้งอย่างไม่น่าเชื่อ! สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) เผยผลสำรวจล่าสุดที่ทำให้หลายคนต้องอ้าปากค้าง เมื่อพบว่ากว่า 79% ของคนไทยพร้อมใจกันเข้าร่วมเทศกาลกินเจในปีนี้ แม้จะเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ก็ตาม
ปรากฏการณ์ ‘เจตามเจน’ ที่เกิดขึ้นนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อและวัฒนธรรมที่ฝังรากลึกในสังคมไทยเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงการปรับตัวของผู้คนในยุคที่ต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่หลายคนกำลังเครียดและกังวลกับสถานการณ์น้ำท่วม การหันมากินเจจึงกลายเป็นทางออกที่ช่วยให้ผู้คนได้พักกาย พักใจ และสร้างความสมดุลให้กับชีวิตในยามวิกฤต
น่าสนใจไม่น้อยเมื่อผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า แต่ละเจเนอเรชันมีมุมมองและเหตุผลในการเข้าร่วมเทศกาลกินเจที่แตกต่างกันออกไป Gen X ยังคงยึดมั่นในขนบธรรมเนียมดั้งเดิม มองการกินเจเป็นการทำบุญและปฏิบัติตามความเชื่อ
ในขณะที่ Gen Y กลับมองการกินเจเป็นโอกาสในการสร้างหัวข้อสนทนาในสังคม แสดงถึงความเปิดกว้างทางความคิดและไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย
ส่วน Gen Z ต้องการประสบการณ์การกินเจที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวเชิงอาหารเจ หรือการทำคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย
แม้ว่าเทศกาลกินเจจะมาพร้อมกับความท้าทายของสถานการณ์น้ำท่วม แต่กลับพบว่าดัชนีความต้องการใช้จ่ายโดยรวมในเดือนตุลาคมนี้เพิ่มขึ้น +1 โดยเฉพาะในภาคเหนือที่มีความต้องการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นถึง +7 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วม แม้ว่าตัวเลขนี้จะดูเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ แต่สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลและความเครียดที่เพิ่มขึ้นในสังคม
เมื่ออ้างอิงถึงเทศกาลกินเจในเดือนตุลาคมนี้ จากผลสำรวจที่พบว่า กว่า 79% ของคนไทยต้องการเข้าร่วมเทศกาลกินเจในปีนี้ ทำให้เกิดคำถามพิเศษขึ้นในผลสำรวจครั้งนี้คือ เทศกาลกินเจแบบไหนที่คุณอยากเข้าร่วม และในผลสำรวจครั้งนี้ได้จัดคำตอบ Top 5 ของผู้เข้าร่วมสำรวจทั้ง 3 เจนออกมาได้ ดังนี้
- J Sanctuary: กว่า 35% เลือกพักผ่อนร่างกายผ่านอาหารเจที่มีคุณภาพ พร้อมพักผ่อนจิตใจด้วยกิจกรรมสปา เข้าวัด ทำบุญ รวมไปถึงการนั่งสมาธิแบบง่ายๆ เพื่อให้จิตใจสงบ
- J Healthy Everyday: อันดับที่ 2 (28%) ในผลสำรวจนี้ เลือกการกินเจแบบเฮลตี้ ด้วยแพ็กเกจเจผูกปิ่นโต 3 มื้อ 10 วัน (รวมล้างท้อง) ด้วยการคำนวณโภชนาการตามที่ร่างกายของตนเองต้องการให้ได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน
- J Beauty: ผู้เข้าร่วมสำรวจกว่า 18 % มองว่า หากในช่วงเทศกาลกินเจนี้มีสถานบันความงานชื่อดังจัดเวิร์กช็อปอาหารเจพร้อมแพ็กเกจดูแลผิวสวยจะทำให้มีความต้องการเข้าร่วมเทศกาลกินเจมากขึ้น และถือว่าเป็นการปรับตัวของเทศกาลกินเจให้เข้ากับยุคปัจจุบัน
- J MU Tour: ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการมูเตลูในช่วงเทศกาลกินเจ แนะนำให้จัดแพ็กเกจทัวร์ทำบุญและกินเจ 9 วัน 9 ศาลเจ้าดัง เพื่อขอพร กินเจ และทำบุญไปพร้อมกัน
- 88 Menu Challenge TikTok: เมื่อแอปพลิเคชัน TikTok กำลังมาแรงในขณะนี้ ทำให้เป็นที่สนใจของกลุ่มคนทุกเพศทุกวัย การจัดทำชาเลนจ์ที่ให้ทุกคนสามารถเข้าร่วมในการครีเอตเมนูเจในแบบของตนเองไม่ซ้ำใคร 88 เมนู ถือเป็นโอกาสที่ดีในการกระตุ้นให้คนไทยอยากเข้าร่วมเทศกาลกินเจมากยิ่งขึ้น
ในท้ายที่สุดผลการวิจัยนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปเท่านั้น แต่ยังเป็นภาพสะท้อนของสังคมไทยที่กำลังเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ทั้งวิกฤตเศรษฐกิจ ภัยธรรมชาติ และการเปลี่ยนแปลงทางสังคม
ภาพ: ณาฌารัฐ ภักดีอาสา / THE STANDARD