สำนักข่าวต่างชาติมอง ‘เศรษฐา ทวีสิน’ นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แสนสิริ หรือ SIRI บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยในวัย 61 ปี จะมีส่วนในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อพัฒนาการของวงการคริปโตในเมืองไทย
เนื่องจากในช่วงเดือนพฤษภาคมปี 2021 ระหว่างที่เศรษฐาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแสนสิริ ทางบริษัทได้เข้าซื้อหุ้นใน XSpring Capital บริษัทหลักทรัพย์และการลงทุนด้านสินทรัพย์ดิจิทัล จำนวน 15% คิดเป็นเงินลงทุนกว่า 2 พันล้านบาท
ซึ่งเศรษฐาได้เคยกล่าวไว้ว่า “ในฐานะบริษัทอสังหา เรากำลังเห็นระบบการเงินดั้งเดิมมีการเปลี่ยนแปลงไป ที่จะทำให้อนาคตตัวกลางระหว่างผู้บริโภคและโปรเจกต์การเงินต่างๆ หายไป บริษัทเราก็ยังมุ่งมั่นที่จะพัฒนานวัตกรรมต่างๆ ที่มีอยู่ไปข้างหน้า และการลงทุนนี้ (Xspring Capital) เหมาะสมกับวิสัยทัศน์ของเราอย่างลงตัว”
ก่อนที่แสนสิริ จะร่วมทำโปรเจกต์ ‘SiriHub Token’ กับ Xspring Capital ในภายหลัง เพื่อนำอสังหามาออกเป็นโทเคนให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนในอสังหาได้ง่ายขึ้น
และทางพรรคเพื่อไทยที่เศรษฐากำลังสังกัดอยู่นั้น ก็มีนโยบายการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทให้กับประชาชนไทยที่อายุ 16 ปีขึ้นไปไว้ใช้ในระยะ 4 กิโลเมตร ก็ได้หาเสียงโดยอ้างว่าจะนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้อีกด้วยเช่นกัน
ไม่เพียงเท่านั้นเอง รัฐบาลเพื่อไทยยังมีโอกาสในการต่อยอดและส่งเสริม ‘CBDC’ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยมีการพัฒนามาตั้งแต่รัฐบาลยุคก่อนเพิ่มเติมไปอีกเช่นกัน
อ้างอิง:
