×

สุทินแจงยิบทุกประเด็น บอกอีก 2 วัน อส. ตอบทางออกเรือดำน้ำ ย้ำแนวทางไม่ขัดแย้งจีน ชี้เหตุซื้ออาวุธดาวน์น้อยโดนหั่นงบ

โดย THE STANDARD TEAM
04.01.2024
  • LOADING...
เรือดำน้ำ

วันนี้ (4 มกราคม) สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงต่อที่ประชุมสภา วาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วาระแรก วันที่สอง ในส่วนของงบประมาณกระทรวงกลาโหมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ที่ตั้งคำถามว่ายุควิกฤตในรัฐบาลปัจจุบันทำไมไม่ลดงบประมาณลง ในข้อเท็จจริงนั้นปรับลดแล้ว แต่เป็นไปภายใต้ข้อจำกัดและสถานการณ์ของประเทศ ภัยคุกคาม ซึ่งการจัดงบประมาณของกระทรวงกลาโหมนั้นเพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่ลดลงคือเพิ่มขึ้น 1.2-1.3% หากเทียบกับราคาเงินเฟ้อ หรือสัดส่วนในภาพรวมของงบประมาณแผ่นดินเหมือนกับไม่ได้ขึ้น และเมื่อเทียบกับ GDP ตัวเลขงบประมาณของประเทศที่พัฒนาแล้วที่จัดงบ 3% แต่ของไทยมีเพียง 1.2% 

 

สุทินกล่าวด้วยว่า สำหรับแผนการปรับลดกำลังพลนั้น ความมั่นคงอยู่ที่ขวัญกำลังใจและยุทโธปกรณ์ หากปรับลดแบบทันด่วนจะกระทบต่อขวัญกำลังใจ ดังนั้นต้องใช้เวลาในการปฏิรูปกองทัพ เพื่อให้ลดเร็วกว่านี้จะทำโครงการเออรี่รีไทร์ ซึ่งปัจจุบันนายพลมี 700 คน ในปี 2570 จะลดลง 380 คน จะไม่เพิ่มภาระทางงบประมาณ ขณะที่ระเบียบกระทรวงกลาโหมจะสร้างพลเรือนพันธุ์ใหม่ บางหน้าที่จะไม่ติดยศ เช่น หมอ แพทย์ เจ้าหน้าที่วิเคราะห์งบประมาณ เจ้าหน้าที่ธุรการ เพื่อปรับภาพลักษณ์ให้นุ่มลงและจะลดภาระงบประมาณ

 

“ส่วนที่มองว่างบประมาณด้านกำลังพลยังสูง หากจะทำให้เร็วต้องปลด แต่ทำไม่ได้ เพราะขวัญกำลังใจเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ปีนี้จึงไม่เห็นงบบุคลากรลดลง เพราะ 3 เดือนที่ผมมาทำอะไรไม่ได้ ปลดใครไม่ได้ แต่ผมมีแผนการปรับกำลังพลคือยุบหน่วยที่ไม่จำเป็น ควบรวมหน่วยที่ภารกิจใกล้เคียงกัน และปิดอัตราไม่บรรจุเพิ่มเมื่อบุคลากรเกษียณอายุราชการ” สุทินกล่าว

 

สุทินกล่าวถึงประเด็นงดเกณฑ์ทหารว่า เมื่องดเราจะปิดทางตัวเอง เพราะจะเกณฑ์ใครมาไม่ได้เมื่อเกิดสถานการณ์จำเป็น แต่จะใช้วิธีการสมัครทหารเกณฑ์ด้วยการใช้มาตรการแรงจูงใจ เช่น เงินเดือนทหารเกณฑ์รับเต็มจำนวน, ได้เรียนต่อเนื่องหลังปลดประจำการในระบบที่ออกแบบร่วมกันในศูนย์การเรียนรู้ในค่ายทหาร, มีโอกาสรับราชการในหน่วยงานทหารและโรงเรียนตำรวจในโควตา 80% รวมถึงได้โอกาสรับเครื่องราชอิสริยาภรณ์และเกียรติยศ อย่างไรก็ดี การรับสมัครทหารเกณฑ์จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วย

 

สุทินยังชี้แจงถึงประเด็นเรือดำน้ำว่า ตนขอความเป็นธรรม เพราะรัฐบาลก่อนเป็นคนทำ แต่ตนเข้ามาแก้ปัญหา เมื่อพิจารณาแล้วไม่ว่าแก้อย่างไรก็โดนด่า เช่น รับเรือดำน้ำจีนจะมีปัญหาเรื่องผิดสัญญา แต่หากไม่เดินหน้า ตนโยนหินถามทางว่าให้ใช้เรือฟริเกตก็ถูกด่า ส่วนการยกเลิกแล้วได้เงินที่จ่ายไปหลายงวดคืนจำนวน 6 พันล้านบาท ตนจะทำ แต่วันนี้ไม่สามารถได้คืน เรื่องดังกล่าวต้องเห็นใจกองทัพเรือและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับจีนด้วย ทั้งนี้ เศรษฐกิจที่จะทำร่วมกันกับจีนจะมีประโยชน์ร่วมกัน 2 แสนล้านบาท แต่หากนำปัญหาเรือดำน้ำมาเป็นข้อขัดแย้งไม่คุ้ม

 

“ได้ถามอัยการสูงสุดในข้อตกลงที่ทำไปนั้นจะยกเลิกได้หรือไม่ หรือจะเดินหน้าอย่างไร ทั้งนี้ ผมเชื่อว่าจะรอไม่เกิน 2 วัน อัยการสูงสุดจะตอบมา ซึ่งผมเชื่อว่าจะได้แนวทางเดินซึ่งมีฐานรองรับคำอธิบายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน หากจะเดินหน้าแบบเดิมต้องไม่เสียเงิน 6 พันล้านบาท แต่หากผิดสัญญาจีนต้องคืนเงิน แต่มีปัญหาในระยะเริ่มต้นคือไทยเคยผิดข้อตกลง เพราะจ่ายเงินไม่ตรงในช่วงที่มีโควิด” สุทินกล่าว 

 

สุทินยังชี้แจงถึงการกู้เรือหลวงสุโขทัยด้วยว่า การดึงเรือขึ้นมา TOR ต้องกู้เรือในสภาพที่สมบูรณ์ทั้งลำ ไม่เอาชิ้นส่วน เพื่อพิสูจน์หาหลักฐาน แต่โคลนทะเลท่วมเรือ จำเป็นต้องนำโคลนออก ซึ่งไม่ใช่การทำลายหลักฐาน เพราะตนเชื่อว่าหลักฐานไม่สามารถทำลายได้ด้วยการล้างโคลน ตนยืนยันว่าการดำเนินการไม่มีนอกไม่มีในแน่นอน 

 

ส่วนประเด็นกองทัพเรือที่มีพันธกิจที่เกี่ยวกับรันเวย์ที่อีอีซี รวมถึงการกู้เงิน 1.6 หมื่นล้านบาท ตนทราบข้อเท็จจริงว่ากองทัพเรือไม่อยากทำ แต่รัฐบาลขอร้องให้ช่วยเป็นหน่วยงานขับเคลื่อนอีอีซี โดยให้รับผิดชอบสนามบินอู่ตะเภาที่กองทัพเรือเป็นเจ้าของ โดยทำให้เป็นสนามบินพาณิชย์ รวมถึงใช้เนื้อที่กองทัพเรือ 7,000 ไร่ เพื่อทำอีอีซี

 

“กองทัพต้องตั้งงบประมาณเพื่อลงโครงการอีอีซี ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้อง ทำให้งบประมาณที่เพิ่มขึ้นเพื่อนำมาใช้ในโครงการอีอีซี รวมถึงดำเนินการกู้เงินเพื่อใช้ในโครงการ ดังนั้นอีอีซีเป็นภารกิจที่จำเป็น ซึ่งไม่ใช่การเพิ่มงบทั่วไป และไม่ต้องกังวลเรื่องความไม่โปร่งใส เพราะบอร์ดอีอีซีจับตาดู” สุทินกล่าว

 

สุทินชี้แจงต่อประเด็นที่วิจารณ์เรื่องการซื้ออาวุธว่า ยุคสุทินดาวน์น้อย เพราะต้องการผ่อนนาน แต่ข้อเท็จจริงคือมีเม็ดเงิน 15% ต้องจ่ายล่วงหน้า ที่เหลือต้องจ่ายจริง ทั้งนี้ ขอเงินดาวน์ไป 20% แต่สำนักงบประมาณตัดเหลือ 15% เพราะปีงบประมาณ 67 เหลือเวลาใช้งบเพียง 4 เดือน กังวลว่าใช้งบประมาณไม่ทัน ไม่ใช่กรณีดาวน์น้อยเพื่อผ่อนนาน ขณะที่ประเด็นทหารกองพลพัฒนาตั้งงบน้ำซ้ำซ้อนกับแหล่งน้ำอื่น 30% ทำให้คนเข้าใจผิด เพราะนำงบน้ำบาดาลมาเปรียบเทียบ ทั้งที่ยืนยันว่าตั้งงบไม่ซ้ำซ้อน เพราะจะสำรวจพื้นที่ก่อน

 

“ผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ลืมจุดยืนเดิม และต้องการให้กองทัพทันสมัย พยายามทำทุกอย่าง แต่ต้องใช้เวลา กลยุทธ์ขอเวลาพิสูจน์ แต่ยืนยันไม่เข้ามาเพื่อซูเอี๋ยหรืออวยกองทัพ” สุทินกล่าว

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X