หลังจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เดินทางมาถึงลานหน้าเซ็นเตอร์พอยท์ สยามสแควร์ เพื่อขอบคุณและถ่ายภาพเซลฟีกับแฟนคลับ ‘ฟ้ารักพ่อ’ พร้อมแจกลายเซ็น บรรยากาศบริเวณรอบสยามสแควร์คึกคักขึ้นทันที นักเรียน นิสิต นักศึกษา ประชาชนผู้ให้การสนับสนุนยาวไปถึงบันไดทางขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอส ทำให้ทีมงานของพรรคต้องจัดแถวเพื่อรอถ่ายภาพกับนายธนาธร
หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โดยนายธนาธรกล่าวถึงกรณีที่ถูกหมายเรียกว่า ในวันที่ 6 เมษายนตนจะเดินทางไป สน.ปทุมวัน เวลา 10.00 น. ตามหมายเรียกเพื่อแสดงความจริงใจ ซึ่งตามข่าวที่ปรากฏระบุว่าเรื่องดังกล่าวเกิดเมื่อเดือนมิถุนายน 2558 มีกลุ่มนักศึกษาที่ออกมารณรงค์ครบรอบ 1 ปีรัฐประหารในวันที่ 22 พฤษภาคม 2558 ก่อนที่เยาวชนกลุ่มนี้จะโดนคดีความ ทำให้มีประชาชนกลุ่มหนึ่งเข้าไปให้กำลังใจที่บริเวณหน้า สน.ปทุมวัน ในวันที่ 24 มิถุนายน 2558 เท่าที่ตนจำได้ รถคันที่ใช้ในวันเกิดเหตุน่าจะเป็นรถของบริษัทที่มี นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของนายธนาธรเป็นกรรมการผู้จัดการ
“ผมเองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่เดินทางไปให้กำลังใจเยาวชนกลุ่มนี้ด้วย ผมไปถึง สน. ประมาณช่วง 2-3 ทุ่ม พอตกดึกเมื่อเยาวชนกลุ่มนี้ได้รับการปล่อยตัวมาจาก สน. ผมอยู่ระหว่างเดินทางกลับบ้าน เมื่อพบกับ นายรังสิมันต์ โรม หนึ่งในสมาชิกของเยาวชนกลุ่มนี้ที่ริมถนน ผมเลยถามเขาว่าออกมาแล้วกำลังจะไปไหน ผมเลยอาสาไปส่งในที่ที่เจ้าตัวต้องการไปให้ เรื่องเป็นแบบนี้ ไม่มีอะไรซับซ้อน การที่คุณรังสิมันต์เดินออกมาจาก สน. ได้แสดงว่าเขาได้รับการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ใน สน. ออกมาแล้ว ผมไปเจอเขาอยู่ข้างถนน กำลังเรียกแท็กซี่กลับบ้าน ผมจึงอาสาไปส่งเพื่อให้กำลังใจกัน ซึ่งผมพร้อมชี้แจงทุกประเด็นในเรื่องนี้” นายธนาธรกล่าว
เมื่อถามว่ามองอย่างที่โดนข้อกล่าวหามาตรา 116 นายธนาธรกล่าวว่านี่เป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคอนาคตใหม่ เป็นการพยายามทำลายฝั่งตรงข้ามกับการสืบทอดอำนาจของเผด็จการ ต่อข้อถามมองว่าแปลกหรือไม่ เมื่อคดีดังกล่าวผ่านมา 4 ปีแล้วแต่เพิ่งจะโดนออกหมายเรียก นายธนาธรกล่าวว่าเรื่องนี้คงต้องให้สังคมช่วยกันพิจารณา ส่วนตัวไม่มีความกังวลใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมรับมือทุกสถานการณ์
“ผมคิดว่ามีความเป็นไปได้สองอย่างคือ 1.พยายามเบี่ยงเบนความสนใจของสังคมออกจากเรื่องความผิดปกติของการเลือกตั้ง และความกดดันที่มีต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง 2.ความพยายามที่จะทำลายพรรคอนาคตใหม่รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง จากความกลัว การเติบโตขึ้นของพลังผู้ที่ต่อต้านการสืบทอดอำนาจของเผด็จการ” นายธนาธรกล่าว
นายธนาธรกล่าวอีกว่าตนเชื่อว่าหากกระบวนการยุติธรรมและโปร่งใสจริง ตนเชื่อว่าคดีที่เกิดกับตน นายปิยบุตรและพรรคอนาคตใหม่ทั้งหมดไม่มีพื้นฐานทางกฎหมายเพียงพอที่จะลงโทษเราทุกคดี เราเชื่อในความบริสุทธิ์ใจ
เมื่อถามว่าช่วงสัปดาห์นี้นายปิยบุตรโดนโจมตีเรื่องเกี่ยวกับมาตรา 112 ได้มีการคุยกับนายปิยบุตรบ้างหรือไม่ นายธนาธรกล่าวว่า ตนต้องเรียนว่านายปิยบุตรยังมีกำลังใจเข้มแข็งดี พวกเราพรรคอนาคตใหม่ยืนยันว่านายปิยบุตรเป็นเสาต้นที่สำคัญของพรรคอนาคตใหม่ เมื่อวาน วันนี้ และวันพรุ่งนี้ต่อไป ซึ่งนายปิยบุตรเองก็ตอบชัดแล้วทั้งในรายการทีวี ในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งการใช้เรื่องสถาบันหรือคุณทักษิณมาโจมตีศัตรูทางการเมืองนั้นเป็นเรื่องเก่า คำถามคือเราจะอยู่กับอดีตอย่างนี้ไปเรื่อยๆ หรือไม่ หรือเราจะเดินหน้าไปสู่อนาคตที่ยังมีความท้าทายในสังคมไทยอีกเยอะแยะไปหมดที่รอการจัดการ กลุ่มคนที่ใช้การเมืองเก่าเล่นงานคู่ต่อสู้ทางการเมืองคือกลุ่มคนที่พยายามดึงประเทศไว้ให้อยู่ในอดีต พรรคอนาคตใหม่ต้องการพาสังคมไทยเดินสู่อนาคตที่คนเท่าเทียมกัน อย่าใช้ข้อกล่าวหานี้ทำลายคู่ต่อสู้ทางการเมืองอีกเลย เพราะข้อกล่าวหานี้ใช้ไม่ได้ผลแล้ว
“ต่อเนื่องกับกรณีของนายปิยบุตรที่มีประชาชนล่ารายชื่อไม่ให้นายปิยบุตรเป็น ส.ส. ทำหน้าที่ในสภา ซึ่งมีประชาชนลงชื่อราวหมื่นกว่าคน ในทางกลับกัน ประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของ กกต. แล้วลงชื่อออนไลน์เกือบถึงหนึ่งล้านคนแล้ว เช่นเดียวกับประชาชนที่ลงชื่อถอดถอน พลเอก อภิรักษ์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. มีกว่า 30,000 คน ซึ่งเยอะกว่าที่ลงชื่อถอดถอนนายปิยบุตรเสียอีก ดังนั้นก็ชัดเจนว่าเสียงที่สังคมส่งเสียงอยู่คือเสียงของการเรียกร้องให้ประเทศไทยกลับมาสู่ความเป็นประชาธิปไตย ความเป็นนิติรัฐ” นายธนาธรกล่าว
นอกจากนี้นายธนาธรยังได้กล่าวถึงสูตรการคำนวณ ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์ว่า ถ้าเรายึดความเป็นธรรมจะตีความได้เพียงสูตรเดียวคือเอาผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งหมดหารด้วยจำนวน ส.ส. ทำให้ได้ 71,000 คะแนนต่อ ส.ส. หนึ่งคน ดังนั้นถ้าเรายึดตามสูตรนี้ก็จะรู้ว่าใครจะได้ ส.ส. เท่าไร ไม่มีอะไรซับซ้อน
“นี่เป็นเรื่องน่าห่วงมาก เพราะ กกต. เองยังไม่รู้ว่าวิธีคำนวณที่ถูกต้องคืออะไร กกต. ควรจะรู้วิธีการที่ถูกต้องก่อนการเลือกตั้งเสียด้วยซ้ำ และประชาชนกำลังรอคำตอบจาก กกต. ยิ่งเร็วเท่าไรยิ่งเป็นผลดีกับประเทศไทยเท่านั้น ความไม่แน่นอนที่ทำให้ประเทศไทยชะงักงันจะได้ชัดเจน” นายธนาธรกล่าวพร้อมระบุว่าตามกฎหมายระบุไว้แต่แรกแล้ว ยิ่ง กกต. ประกาศเร็วเท่าไรยิ่งดี