วันนี้ (4 เม.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่าไม่ได้เข้าไปคุยกับ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ภายหลังร่วมงานแต่งงานของลูกชาย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่าไม่ได้เจอและไม่ได้นัดกันจริงๆ และไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไร ถือเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำถ้าได้เจอนายกฯ โดยเฉพาะหลังเลือกตั้งแล้ว ซึ่งตนเองก็ไปเป็นแขกร่วมงานเหมือนคนอื่นๆ
พร้อมย้ำว่ายังไม่ได้คุยกับฝ่ายไหนในการจัดตั้งรัฐบาล ยิ่งล่าสุด กกต. ยังออกมาแถลงให้มีการนับคะแนนและเลือกตั้งใหม่หลายเขตด้วย ขณะที่การคิดคำนวณสูตร ส.ส. บัญชีรายชื่อยังไม่ชัดเจน พรรคภูมิใจไทยก็ยังไม่รู้ว่าจะได้กี่ที่นั่ง
นายอนุทินยังปฏิเสธด้วยว่าตนเองไม่ได้เก็บตัวเงียบลึกลับหลังเลือกตั้ง และไม่มีพรรคการเมืองใดมาจีบ สำคัญที่สุดคือรอวันที่ 9 พฤษภาคมตามที่ กกต. ประกาศไว้
นอกจากนี้นายอนุทินไม่ขอแสดงความเห็นเรื่องกระแสว่าอาจมีการล้มกระดานการเลือกตั้ง ยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยทำในส่วนของพรรคอย่างเต็มที่แล้ว รอ กกต. เป็นคนตัดสิน
ส่วนในหน่วยและเขตที่ กกต. มีมติให้นับคะแนนใหม่จำนวน 2 หน่วยเลือกตั้ง และเลือกตั้งใหม่ 6 หน่วย มีความหวังจะได้ที่นั่งเพิ่มหรือไม่ นายอนุทินบอกว่าอย่าเพิ่งไปคิดเลย ตอนนี้เอาเท่าที่มีให้ดีก่อน
ทั้งนี้หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยไม่กังวลสูตรการคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อว่าอาจจะมีการพลิกโผ เพราะมองว่าพรรคภูมิใจไทยเคยได้เพียง 20 ที่นั่ง เลือกตั้งครั้งนี้ได้กว่า 50 ที่นั่ง ถือว่าเติบโตขึ้นและเป็นที่พอใจ
นายอนุทินย้ำเงื่อนไขทางการเมืองที่พรรคภูมิใจไทยจะต้องยึดถือ คือไม่เอาเรื่องความขัดแย้ง ยอมรับกติกาไม่ว่าผลออกมาเป็นอย่างไร เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ รวมถึงหากได้ร่วมงานกับใคร ต้องสนับสนุนนโยบายทั้งหมดของพรรคที่ได้ให้ไว้กับประชาชน
และที่สำคัญ พรรคภูมิใจไทยเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ยิ่งกว่าชีวิต และไม่สามารถที่จะร่วมงานกับคนที่ไม่เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ได้
ทั้งนี้เหตุที่ภูมิใจไทยยังไม่ได้คุยกับใครเป็นเพราะใช้เวลาไปกับการตรวจสอบหาเหตุผลที่บางเขตมั่นใจว่าชนะ แต่กลับไม่มีคะแนน ยืนยันไม่ได้ต่อรองเรื่องเก้าอี้กระทรวงต่างๆ และไม่มีเงื่อนไขว่าถ้าร่วมงานพรรคใดแล้วต้องได้เป็นนายกฯ เพราะได้เคยประกาศไว้ว่าถ้าหากพรรคภูมิใจไทยชนะที่ 1 ก็อย่ามีใครมาแย่งเก้าอี้นายกฯ แต่เมื่อได้อันดับรอง ไม่ได้มาที่ 1 ก็ต้องเจียมเนื้อเจียมตัว เดินตามกติกาที่มีอยู่โดยไม่มีปัญหา แม้ว่าพรรคอันดับ 1 จะต้องมาพึ่งจำนวนที่นั่งจากพรรคภูมิใจไทยก็ตาม มองแค่ว่าอะไรเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติก็ไปตามนั้น
สุดท้ายนายอนุทินยอมรับว่าปวดหัวกับสูตรคำนวณ ส.ส. ขณะนี้ที่ไม่มีความชัดเจนสักอย่าง โดยล่าสุดมีการตีความออกมาใหม่ว่าพรรคที่ไม่มี ส.ส. เขตจะไม่ได้รับการจัดสรรก็ยิ่งสับสน ไม่รู้ว่าพรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้เพิ่มหรือลดลง ต้องรอฟังความชัดเจน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์