มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม (Information Technology & Innovation Foundation: ITIF) ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยนโยบายสาธารณะที่ไม่แสวงหากำไรของสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานการศึกษาประเด็น Which US Allies Are Most Likely to Face Trump Tariffs and How Can They Avoid the Wrath of an ‘America First’ Doctrine? พันธมิตรของสหรัฐฯ รายใดมีแนวโน้มสูงสุดที่จะต้องเผชิญกับภาษีศุลกากรของทรัมป์ และประเทศเหล่านั้นจะหลีกเลี่ยงผลกระทบจากนโยบาย ‘อเมริกาต้องมาก่อน’ (America First) ของ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้อย่างไร
สืบเนื่องจากประธานาธิบดีทรัมป์เชื่อว่าโลกยุคโลกาภิวัตน์ต้องมีการเปลี่ยนแปลง หนึ่งในแนวคิดที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการค้าได้นั้นคือการกำหนดภาษีศุลกากรกับประเทศที่ใช้ประโยชน์จากสหรัฐฯ โดยพุ่งเป้าไปที่ประเทศที่มีความเสี่ยงสูงสุด 3 ปัจจัยคือ ประเทศที่มีงบประมาณทางทหารต่ำ ดุลการค้าสูงกว่า และการมีจุดยืนที่อ่อนไหวต่อจีน
โดยผลการศึกษาประเมินระดับความเสี่ยงที่เรียกว่า ‘ดัชนีความเสี่ยงจากทรัมป์ของ ITIF’ (ITIF’s Trump Risk Index) พบว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูงเป็นอันดับที่ 2 จากทั้งหมด 39 ประเทศ/ดินแดน
รายงานดังกล่าวศึกษาเปรียบเทียบผลกระทบที่จะเกิดกับ 39 ประเทศ/ดินแดน ซึ่งระบุว่าประเทศเหล่านี้ต่างเป็น ‘พันธมิตรของสหรัฐฯ’ เช่น เม็กซิโก ออสเตรีย เยอรมนี แคนาดา ตุรกี สเปน โปรตุเกส ฝรั่งเศส อิตาลี เนเธอร์แลนด์ ฟินแลนด์ กรีซ โปแลนด์ สหราชอาณาจักร ฟิลิปปินส์ ไทย ญี่ปุ่น ไต้หวัน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และเกาหลีใต้
ขณะเดียวกัน 5 ประเทศที่ดูเหมือนจะอยู่ในตำแหน่งที่ปลอดภัยที่สุด ได้แก่ ลิทัวเนีย เอสโตเนีย โปแลนด์ ลัตเวีย และออสเตรเลีย ซึ่งต่างปฏิบัติต่อสหรัฐฯ ดีขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- วิเคราะห์โค้งสุดท้าย ‘ทรัมป์-แฮร์ริส’ ใครจะก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไป ไทยได้-เสียประโยชน์แค่ไหน เรื่องอะไรบ้างที่คนไทยต้องรู้
- อินโดนีเซีย-สปป.ลาว กำลังจะเป็นฐานผลิตแผงโซลาร์เซลล์ใหม่ของทุนจีน หลังเลิกจ้าง ลดกำลังผลิตในเวียดนามเพื่อเลี่ยงขึ้นภาษีสหรัฐฯ และก่อนที่ทรัมป์จะคัมแบ็ก
ทั้งนี้ ดัชนี ITIF’s Trump Risk Index ศึกษาจากตัวบ่งชี้ 4 ประการ ได้แก่
- การใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศ
- ดุลการค้า
- มาตรการต่อต้านนโยบายการค้าและเทคโนโลยีของสหรัฐฯ
- ความเต็มใจที่จะต่อต้านด้านเทคโนโลยีและเศรษฐกิจของจีน
โดยสรุป ไทยมีคะแนนรวม -3.98 ซึ่งคะแนนติดลบมากหมายถึงมีความเสี่ยงสูง เป็นรองเพียงเม็กซิโกที่มีคะแนนรวม -4.12 เท่านั้น และหากดูจากตัวบ่งชี้ที่ทำให้ไทยมีความเสี่ยงมาก ได้แก่
- ดุลการค้าต่อ GDP เกินดุลการค้า ซึ่งคะแนนตามการประเมินของ ITIF อยู่ที่ -1.89
- การใช้จ่ายทางการทหารต่อ GDP -1.14
- ความเข้มงวดในการต่อต้านจีนที่ -0.48
- การต่อต้านสหรัฐฯ -0.47
ดังนั้น 5 ประเทศที่ดัชนี ITIF’s Trump Risk Index ชี้ว่าเป็นประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ ที่มีความเสี่ยงสูงสุดที่สหรัฐฯ จะตอบโต้ด้วยภาษีศุลกากรมากที่สุด ได้แก่ เม็กซิโก ไทย สโลวีเนีย ออสเตรีย และแคนาดา ตามลำดับ
ในรายงานยังระบุอีกว่าทั้ง 5 ประเทศนี้มีค่าใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของทั้ง 39 ประเทศ/ดินแดน เมื่อเทียบเป็นสัดส่วนของ GDP และทั้ง 5 ประเทศล้วน ‘เกินดุล’ สหรัฐฯ โดยเฉพาะเม็กซิโกและไทยเกินดุลการค้าสหรัฐฯ มากที่สุด
ชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ให้ความเห็นว่า นโยบายการค้าของ โดนัลด์ ทรัมป์ มีการปรับเปลี่ยนการจัดระเบียบโลก ‘World Order’ ใหม่มากขึ้น ดังนั้นนโยบายการค้าต่างประเทศจะแบ่งเป็นสองขั้วอำนาจกันเด่นชัดมากยิ่งขึ้น ผู้ส่งออกไทยจะต้องปรับตัวให้เร็วและเตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา เพราะปัจจัยต่างๆ จะมีผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ ขณะเดียวกันไทยจะต้องหาตลาดใหม่อย่างต่อเนื่องด้วย
นอกจากนี้นโยบายการเจรจาการค้ากับต่างประเทศของไทยจากนี้ไปจะต้องละเอียดรอบคอบและพิจารณาผลกระทบอย่างรอบด้านเพราะจะเป็นเรื่องที่อ่อนไหวขึ้น
“โลกการค้ายุคใหม่จากนี้ไปจะไม่เหมือนเดิม ประเทศไทยจะต้องเร่งปฏิรูปการส่งออกให้ไทยเป็นชาติการค้า (Trading Nation)” ชัยชาญกล่าว
ภาพ: Chip Somodevilla / Getty Images, azb020 / Shutterstock
อ้างอิง: