เมืองไทยกำลังกลายเป็นจุดหมายใหม่ของนักโต้คลื่นจากทั่วโลก จากการค้นพบของนักโต้คลื่นชาวต่างชาติที่ได้เดินทางทั่วประเทศไทย จนค้นพบชายหาดที่สามารถโต้คลื่นถึง 20 แห่งใน 7 จังหวัด ซึ่งมีเสน่ห์และคลื่นที่แตกต่างกัน
หลังจากเปิดวิชาโต้คลื่น 101 ไปแล้ว เราชวนคุณมาอัปเดตที่โต้คลื่นใหม่ๆ ในเมืองไทยว่ามีที่ไหนบ้าง
พร้อมแล้วออกไปท้าคลื่นกันเถอะ!
ระยอง
จังหวัดที่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด และถูกขนานนามว่าเมือง Longboard ตอนนี้ที่ระยองมี Surf Club ซึ่งเป็นกลุ่มคนรักการโต้คลื่นที่มารวมตัวกันแบ่งปันเรื่องการโต้คลื่น แม้คลื่นทางอ่าวไทยอาจจะไม่ได้ใหญ่ตู้มต้ามเหมือนทะเลฝั่งภาคใต้ แต่ก็เพียงพอสำหรับนักโต้คลื่นหน้าใหม่ให้สนุกและสามารถเรียนรู้ได้แน่นอน หาดที่สามารถโต้คลื่นได้คือ หาดก้นอ่าว จังหวัดระยอง ซึ่งหากวันไหนคลื่นเล็กก็สามารถปรับเปลี่ยนไปเล่น SUP (Stand Up Paddle Board) ซึ่งสามารถพายเล่นได้รอบอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า และบรรยากาศดีมากๆ ในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน เรียกว่าไปทีไม่มีเสียเที่ยว
FYI: สามารถโต้คลื่นได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกันยายน
จันทบุรี
อีกจังหวัดที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น จังหวัดจันทบุรีมีชายหาดที่สามารถโต้คลื่นได้หลัก 2 แห่ง คือหาดคุ้งวิมานและหาดเจ้าหลาว จุดเด่นของที่นี่คือ คลื่นค่อนข้างมีกำลังแรงมากกว่าชายหาดอื่นๆ ในอ่าวไทย รอบๆ บริเวณชายหาดที่สามารถโต้คลื่นมีโรงแรมมากมาย สามารถเดินจากที่พักและลงโต้คลื่นได้เลย นอกเหนือจากนี้ที่จันทบุรียังคงความเป็นธรรมชาติและผู้คนน่ารักเป็นมิตร
FYI: สามารถโต้คลื่นได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกันยายน
หัวหิน (ประจวบคีรีขันธ์)
จังหวัดน้องใหม่ล่าสุดที่มีการค้นพบว่าสามารถโต้คลื่นได้ โดยก่อนหน้านี้ทะเลหัวหินจะเหมาะสำหรับ การเล่น Kite Surf หรือการเล่น SUP ซะมากกว่า แต่เมื่อช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา มีกลุ่มนักโต้คลื่นไทยได้ลองไปโต้คลื่นที่ชายหาดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งคลื่นสวยงามพอให้เล่นกันอย่างสนุกสนานทีเดียว โดยหาดที่นิยมเล่นคือ หาดเขาตะเกียบและหาดวนกร
FYI: สามารถโต้คลื่นได้ในเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์
พังงา
นอกจาก Memories Beach เขาหลักที่ดังจนกลายเป็นสถานที่แรกๆ ที่คนพูดถึงหากพูดถึงการโต้คลื่น ที่จังหวัดพังงายังมีอีกชายหาดที่สามารถโต้คลื่นได้คือ หาดนาใต้ ชายหาดมีคลื่นลักษณะเป็นแนวยาว เหมาะในการเล่นกระดานโต้คลื่นแบบยาว (Long Board) บริเวณนั้นยังมีบีชคลับและโรงแรมชื่อดังมากมาย เช่น Baba Beach Club และ Iniala Beach House
FYI: สามารถโต้คลื่นได้ในเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม
ภูเก็ต
นอกจากหาดกะตะหรือหาดป่าตองแล้ว หาดในยางของจังหวัดภูเก็ตเป็นหาดที่เงียบสงบและอยู่ทางด้านใต้ของสนามบินนานาชาติภูเก็ตไม่เกิน 300 เมตรเท่านั้น มีแนวป่าสนเป็นพื้นที่ของอุทยาน เราสามารถขับไปจอดใต้ต้นไม้ภายในอุทยาน โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความเรียบร้อย รวมถึงเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ด เมื่อเราพร้อมแล้วเดินแบกกระดานโต้คลื่นข้ามถนนและแนวต้นสนวิ่งลงนำ้ได้เลย คลื่นบริเวณนี้เป็นแนวยาว และมีลักษณะเด่นกว่าที่อื่นๆ คือ น้ำทะเลใสมาก เพราะเป็นอ่าวเปิด ใต้น้ำเป็นแนวประการัง คลื่นจะยกตัวเข้ามาเป็นแนวยาว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคลื่นขวา
ป.ล. จุดเล่นเซิร์ฟที่นี่ต้องพายออกไปไกลมาก แนะนำให้รับประทานอาหารให้เรียบร้อยก่อน จะได้ไม่ต้องว่ายกลับเข้าฝั่งไกลๆ ให้เสียแรง
FYI: สามารถโต้คลื่นได้ในเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม
อ่านเรื่อง เปิดวิชาโต้คลื่น 101 รู้ไหมเมืองไทยก็เซิร์ฟได้ได้ที่นี่