ไทยส่งกำลังพลและสิ่งของช่วยเหลือเมียนมาหลังเหตุแผ่นดินไหว เน้นภารกิจด้านมนุษยธรรมและช่วยเหลือคนไทยในพื้นที่

วันนี้ (30 มีนาคม) เวลา 7.00 น. ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีส่งกำลังพลจากกองทัพไทย เดินทางไปปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในประเทศเมียนมา ภายหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 8.2 ตามมาตราริกเตอร์ เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อหลายพื้นที่สำคัญ ได้แก่ เมืองมัณฑะเลย์ เนปิดอว์ และย่างกุ้ง

ภารกิจนี้ประกอบด้วยกำลังพลจากหลายหน่วยงานหลัก ได้แก่ ชุดค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (USAR) จากหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ทหารจากกองบัญชาการกองทัพไทย และชุดแพทย์ฉุกเฉินเคลื่อนที่เร็ว (MERT) จากสำนักนายแพทย์ทหาร รวมถึงชุดสนับสนุนภารกิจอื่นๆ

การส่งความช่วยเหลือในครั้งนี้เป็นหนึ่งในพันธกิจด้านมนุษยธรรมของไทย และสะท้อนถึงความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน โดยรัฐบาลได้มอบหมายให้กองบัญชาการกองทัพไทยเป็นหน่วยหลักในการจัดตั้ง ‘ชุดช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหวในเมียนมาในพื้นที่เมืองเนปิดอว์’ ภายใต้การกำกับของสำนักปฏิบัติการ กรมยุทธการทหาร (สปก.ยก.ทหาร) ซึ่งวางแผนภารกิจอย่างรอบด้าน ภายใต้แนวทาง Humanitarian Assistance and Disaster Relief (HADR)

สำหรับภารกิจนี้ มีเจ้าหน้าที่รวม 55 นาย แบ่งออกเป็น 8 ชุด ได้แก่

• ชุดควบคุม (5 นาย)
• ชุดประชาสัมพันธ์ (4 นาย)
• ชุดค้นหาและกู้ภัย USAR (12 นาย)
• ชุดแพทย์ฉุกเฉิน MERT (18 นาย)
• ชุดประเมินความเสียหาย (4 นาย)
• ชุดสื่อสาร (4 นาย)
• ชุดขนส่งทางอากาศ (4 นาย)
• ชุดประสานงาน (4 นาย)

ภารกิจหลักคือการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงดูแลคนไทยในเมียนมา โดยมีแผนการปฏิบัติที่ครอบคลุม เช่น การค้นหาและกู้ภัยทางการแพทย์ฉุกเฉิน การตั้งโรงพยาบาลสนามระดับเบื้องต้น การประเมินความเสียหาย และการสื่อสารข้อมูลข่าวสาร

กองทัพอากาศได้จัดเที่ยวบินสนับสนุนจำนวน 3 เที่ยวบิน ได้แก่

• เที่ยวบินที่ 1: วันที่ 30 มีนาคม 2568 เส้นทาง กรุงเทพฯ-ย่างกุ้ง-เนปิดอว์-กรุงเทพฯ
• เที่ยวบินที่ 2: วันที่ 2 เมษายน 2568 สำหรับการสับเปลี่ยนกำลังพล
• เที่ยวบินที่ 3: วันที่ 5 เมษายน 2568 เดินทางกลับ

เมื่อเดินทางถึงที่หมาย ชุด USAR จะดำเนินภารกิจค้นหาและกู้ภัย ขณะที่ชุด MERT จะให้บริการแพทย์ฉุกเฉิน ณ จุดเกิดเหตุ และสามารถปรับเปลี่ยนเป็นคลินิกเคลื่อนที่ (Mobile Clinic) ตามความจำเป็น ส่วนชุด RDANA มีหน้าที่ประเมินความเสียหายเพื่อวางแผนการช่วยเหลือระยะต่อไป

การดำเนินการจะมีการรายงานผลผ่านระบบการประชุมทางไกล (VTC) ทั้งแบบรายวันและรายงานพิเศษ พร้อมให้ความช่วยเหลือคนไทยในพื้นที่ รวมถึงอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับประเทศโดยสมัครใจผ่านเที่ยวบินของกองทัพอากาศ

ภารกิจครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของไทยในการยืนหยัดเคียงข้างประชาชนเมียนมาในยามวิกฤต ตลอดจนเสริมบทบาทของกองทัพไทยในมิติความมั่นคงเชิงมนุษยธรรม และส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาคในระยะยาว

สำหรับผู้ร่วมในพิธีส่งกำลังพลครั้งนี้ประกอบด้วย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม, พล.อ.ไตรศักดิ์ อินทรรัสมี เลขาธิการกระทรวงกลาโหม, พล.อ.ธราพงษ์ มะละคำ รองปลัดกระทรวงกลาโหม, พล.อ.อุกฤษฏ์ บุญตานนท์ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด, พล.อ.มนัส จันดี เสนาธิการทหาร และพล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ