วันนี้ (25 กุมภาพันธ์) ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 2 ว่าพยายามให้อยู่ในข้อบังคับการประชุม เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกยุคสมัยก็จะมีการขัดแย้งโต้เถียงกันเป็นเรื่องปกติ แต่ว่ามีข้อบังคับกำหนดเอาไว้
แต่สำหรับครั้งนี้มีการตกลงกันเมื่อวานนี้ เช่น เรื่องเวลาสิ้นสุดการอภิปรายไม่ไว้วางใจคือ 19.00 น. ของวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ส่วนเรื่องเวลาพูด ทางฝ่ายค้านมีการบริหารเวลาเอาเอง แต่ครั้งนี้ที่แปลกคือมีการกำหนดว่าคนนี้พูด 1 ชั่วโมง คนนี้พูด 2 ชั่วโมง จึงทำให้บางท่านต้องยืดให้ครบ 2 ชั่วโมงทั้งที่ควรจบเร็วกว่านี้ได้
ส่วนการชี้แจงของรัฐบาลนั้น ที่ผ่านมาทุกครั้งจะมีการเถียงกันนานกว่าจะได้พูด แต่ครั้งนี้ทุกคนยอมรับในกติกาตามข้อบังคับว่านายกรัฐมนตรีมีสิทธิ์แถลงชี้แจง และประธานมีสิทธิ์อนุญาตให้บุคคลที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายชี้แจงแทนได้ ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีการเถียงกันเลย
อย่างไรก็ตาม ถ้าจะมีการอภิปรายในเรื่องถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบอีกนั้น เรื่องนี้มีการตกลงกันแล้วว่าไม่อนุญาตให้พูด ซึ่งตอนเปิดประชุมเมื่อวานนี้ตนพูดไว้ชัดแล้วว่าจะไม่มีการอภิปรายเรื่องนี้ เพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว และเป็นเรื่องที่เกิดก่อนการบริหารราชการแผ่นดิน ที่สำคัญตนได้เปิดโอกาสให้พูดในเรื่องนี้หลายครั้งแล้ว
ส่วนการซื้อตัว ส.ส. ซึ่งมีการแฉหลักฐานเป็นคลิปเสียงออกมาจะเข้าข่ายผิดจริยธรรมหรือไม่นั้น
ชวนกล่าวว่า ต้องไปดูข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เกี่ยวเรื่องบริหารหรือไม่ หรือเป็นความผิดส่วนบุคคล แต่คงไม่ใช่เรื่องนโยบายที่แถลงไว้ต่อสภา
อันนี้เป็นเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจในการบริหารราชการแผ่นดิน ส่วนพฤติกรรมแต่ละคนเป็นอย่างไรเป็นอีกเรื่อง ใครทำผิดกฎหมายก็ต้องว่าไปตามนั้น ถ้าสมมติมีการทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง มันมีกฎหมายอาญา และกฎหมายพรรคการเมือง
ทั้งนี้ในฐานะนักการเมืองอาวุโส เชื่อว่าการทำหน้าที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อย่างที่ท่านพุทธทาสว่า ธรรมะคือหน้าที่ หน้าที่คือธรรมะ การทำหน้าที่ต้องเป็นเรื่องที่สุจริต และในฐานะนักการเมืองต้องทำเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ
ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลได้ที่นี่
และติดตามทุกความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ที่ www.facebook.com/thestandardth
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า