วันนี้ (26 กุมภาพันธ์) พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมี ศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาคนที่ 2 ทำหน้าที่ในการประชุม
พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เริ่มต้นการอภิปรายว่าตนกับนายกรัฐมนตรีเรียนโรงเรียนเตรียมทหารมาเหมือนกัน แต่ตนเป็นรุ่นพี่ จากนั้นแยกไปเรียนคนละเหล่า โดยนายกรัฐมนตรีไปเรียน จปร. ถ้าตนย้อนไปได้จะไม่ไปเรียนตำรวจอีกแล้ว เพราะเป็นได้แค่ตำรวจ กว่าจะเป็น ส.ส. ได้ต้องหาเสียงแทบตาย สู้เรียน จปร. ไม่ได้ เพราะ จปร. คือจะเป็นอะไรก็ได้จริงๆ
จากนั้น พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ได้พยายามอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีในประเด็นการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ ทำให้มี ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลลุกขึ้นประท้วง ตามด้วย ส.ส. ฝ่ายค้านก็ประท้วงตอบโต้
ชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาลได้ประท้วง ระบุว่าวิปทั้งสองฝ่ายตกลงกันแล้วว่าจะไม่อภิปรายในประเด็นนี้ และการถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนการบริหารราชการแผ่นดิน และศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้องไว้พิจารณา
ด้าน พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ชี้แจงเหตุผลการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นรายบุคคล ซึ่งสามารถอภิปรายคุณสมบัติของบุคคลผู้นั้นได้ตั้งแต่เขาเกิดว่าเขาไม่มีความชอบธรรม เช่น เป็นบุคคลต่างด้าวปลอมแปลงเอกสารมารับราชการจนเติบโตมามีอำนาจ ก็ย่อมสามารถอภิปรายถึงความไม่ชอบธรรมของเขาตั้งแต่เกิดได้
ส่วนการที่วิปสองฝ่ายไปตกลงกันนั้น พรรคฝ่ายค้านมีหลายพรรค การตกลงนั้นตนไม่รู้เรื่องด้วย และยืนยันขอใช้สิทธิ์อภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151
จากนั้นมี ส.ส. ฝ่ายค้าน เช่น ปารีณา ไกรคุปต์ และสิระ เจนจาคะ จากพรรคพลังประชารัฐลุกขึ้นประท้วง บรรยากาศเป็นไปอย่างวุ่นวาย โดยมีทั้งฝ่ายรัฐบาลประท้วงผู้อภิปรายว่าพูดนอกประเด็นและพูดไม่ให้เกียรติประธานการประชุม ส่วนฝ่ายค้านประท้วงประธานว่าทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง
ในที่สุดประธานในที่ประชุมยื่นคำขาด โดยให้เลือกว่า พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ จะอภิปรายต่อในประเด็นอื่นหรือจะออกจากห้องประชุม โดยระบุว่าตนไม่ได้ขู่ ตนเอาจริง
ด้าน พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ กล่าวตอบว่าท่านเอาจริง เดี๋ยวเราก็เจอกันนอกสภา
ศุภชัยก็ระบุว่าไม่ต้องมาขู่ ตนไม่เคยกลัวท่านเสรีพิศุทธ์ ขณะที่ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ระบุว่าอย่าเข้าใจว่าตนพูดข่มขู่ท่าน แต่อาจเป็นการพบกันที่ห้องของท่านเพื่อทำความเข้าใจกัน
ระหว่างนั้น ส.ส. สิระ ลุกขึ้นประท้วง ขอให้ถอนคำพูดลักษณะการข่มขู่ แต่ประธานวินิจฉัยว่าเข้าใจกันแล้ว และให้ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เลือกว่าจะอภิปรายในประเด็นอื่นต่อหรือไม่
พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ พูดปิดการอภิปรายว่ามีสุภาษิตบอกว่าคนเราหลอกคนอื่นได้ แต่หลอกตัวเองไม่ได้ แต่ท่านนายกรัฐมนตรีตรงกันข้าม หลอกคนอื่นไม่ได้ เพราะทั้งประเทศรู้ว่าถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ แต่ท่านนายกรัฐมนตรีกลับหลอกตัวเอง แล้วคนหลอกตัวเองสมควรเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปหรือไม่
ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลได้ที่นี่
และติดตามทุกความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ที่ www.facebook.com/thestandardth