วันนี้ (8 สิงหาคม) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากกรณีนักท่องเที่ยวชาย สัญชาติฝรั่งเศส อายุ 32 ปี เดินทางมาเที่ยวจังหวัดตราดเมื่อเดือนที่ผ่านมา และมีอาการผิดปกติระบบทางเดินปัสสาวะ มีตุ่มขึ้นที่อวัยวะเพศ จึงไปพบแพทย์จนอาการดังกล่าวหาย ต่อมาพบตุ่มขึ้นที่มือ จึงเดินทางเข้ารับการตรวจคัดกรองที่โรงพยาบาลตราด จากนั้นโรงพยาบาลตราดได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อก่อโรค และผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และห้องปฏิบัติการที่ศูนย์โรคอุบัติใหม่ด้านคลินิก TRC-EIDCC โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ยืนยันไม่พบเชื้อฝีดาษลิง
สำหรับสถานการณ์โรคฝีดาษลิงในขณะนี้มีแนวโน้มพบผู้ป่วยสูงขึ้นในแถบทวีปยุโรปและอเมริกา ขณะที่ในทวีปเอเชีย เช่น อินเดีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เริ่มพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจากการเดินทางมาจากพื้นที่ระบาด (ข้อมูล ณ วันที่ 7 สิงหาคม 2565) พบผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิงยืนยันทั่วโลก จำนวน 28,792 ราย เสียชีวิต 6 ราย (สเปน 2 ราย, บราซิล เปรู กานา อินเดีย ประเทศละ 1 ราย) ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวอื่นร่วม
ส่วนประเทศที่มีผู้ป่วยสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 7,510 ราย, สเปน 5,208 ราย, เยอรมนี 2,887 ราย, อังกฤษ 2,768 ราย และฝรั่งเศส 2,423 ราย ส่วนสถานการณ์ในประเทศไทยยังพบผู้ป่วยยืนยัน 4 ราย มีรายงานผู้เข้าเกณฑ์เป็นผู้ป่วยสงสัย 36 ราย ผู้สัมผัส 44 ราย ครบการกักตัวแล้วทั้งหมด 7 ราย และผลตรวจทางห้องปฏิบัติการผู้ป่วยสงสัยทั้ง 35 ราย ไม่พบเชื้อฝีดาษลิง รอผล 1 ราย
นพ.โอภาสกล่าวเพิ่มเติมว่า กรมควบคุมโรคได้กำชับไปยังกองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศและกักกันโรค และด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานนานาชาติ ให้ตรวจคัดกรองผู้ที่เดินมาจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ยังมีมาตรการเฝ้าระวังในสถานพยาบาล หากพบผู้ที่มีอาการตุ่มฝี ตุ่มหนองขึ้นตามอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย ให้รีบส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ และหากผลเป็นบวก ติดเชื้อ จะรีบเข้าไปควบคุมกลุ่มเสี่ยงไม่ให้แพร่กระจายเชื้อต่อทันที
“ขอเน้นย้ำว่าโรคฝีดาษลิงไม่ได้ติดต่อง่ายหรือมีความรุนแรง ส่วนใหญ่เชื้ออยู่ที่ตุ่มหนองบริเวณผิวหนังของผู้ป่วย ซึ่งแนวทางวิธีการป้องกันตัวจากโรคฝีดาษลิง ได้แก่ การสวมหน้ากากอนามัย เพื่อลดโอกาสการสัมผัสละอองน้ำลาย น้ำมูกของผู้ป่วย หรือสัตว์ติดเชื้อ, ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำสบู่, หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่งของร่างกาย, เลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับคนที่ไม่รู้จัก, ไม่มีเพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่รู้จัก และรับประทานอาหารปรุงสุก สะอาด หากประชาชนมีความเสี่ยง มีการสัมผัสกับผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง หรือมีอาการสงสัย เช่น มีผื่นตามลำตัว เป็นตุ่มนูน ตุ่มน้ำใส ตุ่มหนอง ตุ่มตกสะเก็ด มีไข้ เจ็บคอ ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ ต่อมน้ำเหลืองโต เป็นต้น สามารถเข้ารับการตรวจเชื้อได้ที่โรงพยาบาลที่ใกล้บ้านท่านได้ทันที” นพ.โอภาสกล่าว