วันนี้ (11 มีนาคม) โชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยภายหลังการประชุมเจรจาจัดทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (Economic Partnership Agreement: EPA) ไทย-เกาหลีใต้ ครั้งที่ 4 โดยเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 4-7 มีนาคม 2568 ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี ว่าทั้งสองฝ่ายสามารถเจรจารุดหน้าไปได้มาก โดยตั้งเป้าให้ได้ข้อสรุปในช่วงกลางปี 2568 เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสามารถลงนามความตกลง หรือประกาศความสำเร็จของการเจรจา EPA ระหว่างกันได้ในช่วงการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC Economic Leaders’ Meeting) ซึ่งเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพในเดือนตุลาคมนี้
ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยและดึงดูดการลงทุนจากเกาหลีใต้ ซึ่งสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลไทยที่ผลักดันการเจรจา FTA กับประเทศคู่ค้าสำคัญ และเป็นการต่อยอดโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับเกาหลีใต้ จากการที่ไทยและเกาหลีใต้มีความตกลง FTA ระหว่างกันแล้ว 2 ฉบับ คือ ความตกลง FTA อาเซียน-เกาหลีใต้ และความตกลง RCEP
โชติมากล่าวว่า การเจรจารอบนี้มีความคืบหน้าค่อนข้างมาก โดยสามารถหาข้อสรุปการเจรจาข้อบทความตกลงฯ ได้เพิ่มอีก 7 บท รวมจากการประชุมที่ผ่านมาอีก 4 บท รวมเป็น 11 บท จากทั้งหมด 24 บท โดยบทที่สามารถเจรจาจบในรอบนี้ ได้แก่ บทความร่วมมือทางเศรษฐกิจ บทอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า บทการเคลื่อนย้ายชั่วคราวของนักธุรกิจ และบทการจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ สำหรับบทความร่วมมือทางเศรษฐกิจจะประกอบด้วยการส่งเสริมความร่วมมือใน 10 สาขาสำคัญ
เช่น ห่วงโซ่อุปทาน การท่องเที่ยว เศรษฐกิจสีเขียว ธุรกิจเชิงสร้างสรรค์ และนวัตกรรมทางอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี โดยไทยจะได้ประโยชน์จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสร้างเครือข่ายในสาขาความร่วมมือที่เกาหลีใต้มีความเชี่ยวชาญ สำหรับบทอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้าจะช่วยลดขั้นตอน ระยะเวลา ค่าใช้จ่ายและเพิ่มความโปร่งใสในการรับรองมาตรฐานสินค้าอุตสาหกรรมระหว่างกัน
สำหรับบทการเคลื่อนย้ายชั่วคราวของนักธุรกิจจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้าเมือง การอนุญาตพำนักและการอยู่ต่อสำหรับนักธุรกิจ ในระดับผู้บริหาร ผู้จัดการ และผู้เชี่ยวชาญของทั้งสองประเทศ เพื่อสนับสนุนและรองรับการลงทุนระหว่างไทยและเกาหลีใต้ ทั้งนี้ ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเจรจาฯ รอบถัดไปในช่วงเดือนเมษายน 2568 ณ กรุงเทพฯ
ทั้งนี้ ในปี 2567 เกาหลีใต้เป็นคู่ค้าอันดับ 13 ของไทย การค้าระหว่างไทยกับเกาหลีใต้ มีมูลค่า 15,281 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปเกาหลีใต้ มูลค่า 5,938 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากเกาหลีใต้ มูลค่า 9,343 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ ผลิตภัณฑ์ยาง น้ำมันสำเร็จรูป แผงวงจรไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียม และน้ำตาลทราย และสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ แผงวงจรไฟฟ้า เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ