หากยังจำกันได้ เกม POPCAT เป็นเกมที่มาแรงและเป็นกระแสอย่างมากในประเทศไทยช่วงเดือนสิงหาคมผ่านมา POPCAT เป็นเกมฟรีที่ทุกคนสามารถเล่นได้ผ่านเว็บไซต์ ก่อตั้งขึ้นโดยนักศึกษา 3 คนที่ University of Sheffield ในสหราชอาณาจักรเมื่อเดือนธันวาคม 2020 และเริ่มเป็นที่นิยมในบางประเทศในขณะนั้น
เกมนี้เป็นเกมง่ายๆ ไม่ต้องใช้ความคิด สิ่งที่คุณต้องทำคือคลิกที่รูปแมว และทุกครั้งที่คุณคลิก แมวจะอ้าปากกว้างและส่งเสียงดัง การคลิกแต่ละครั้งจะนับเป็นคะแนน โดยหนึ่งฟีเจอร์หลักคือฟีเจอร์แสดงการจัดอันดับประเทศตามจำนวนการคลิกทั้งหมดของผู้เล่นในประเทศ
ซึ่งแต่ละประเทศแข่งขันกันเพื่อแย่งชิงการเป็นอันดับ 1 ของโลก คือมีจำนวนการคลิกของคนในประเทศมากที่สุดในโลก และเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ไทยทำคะแนนไต่อันดับขึ้นมาแซงไต้หวันที่เคยเป็นอันดับ 1 ก้าวขึ้นเป็นมหาอำนาจของโลก! (ในเกม POPCAT)
แม้ปัจจุบันไทยร่วงลงมาอยู่ที่อันดับ 4 (ณ ช่วงที่เขียนรายงาน) แต่ตอนนี้ผู้เล่น POPCAT ในไทยกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อเป็นที่ 1 ของโลกอีกครั้ง ซึ่งหลังจากที่สำนักข่าว Nikkei Asia รายงานข่าวกระแส POPCAT ในไทย ทางญี่ปุ่นเองได้ไต่ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 เป็นที่เรียบร้อย อ้างอิงข้อมูล ณ วันที่ 8 กันยายน (วันเดียวกันกับการรายงานข่าวของ Nikkei)
สื่อใหญ่ญี่ปุ่น Nikkei รายงานโดยอ้างอิงจาก ไทยพีบีเอส ว่า เกม POPCAT สร้างความสามัคคีและการร่วมแรงร่วมใจของคนในชาติ การก้าวขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งทำให้เกิดความภูมิใจเล็กๆ น้อยๆ ของคนในชาติท่ามกลางวิกฤตและความสิ้นหวังต่างๆ
นอกจากนั้นธุรกิจต่างๆ ยังนำกระแส POPCAT มาใช้ประโยชน์ได้อีกด้วย เช่น บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ใช้กระแสนี้โปรโมตว่า เมื่อยนิ้วไปกับ POPCAT ก็มาพักกันก่อนกับ POPCORN
Nikkei วิเคราะห์อีกว่า การที่ไทยก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 1 แซงฮ่องกง ไต้หวัน ที่เป็นระดับท็อปอยู่ ณ ขณะนั้น เป็นการสร้างความสัมพันธ์ของพันธมิตรชานม ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรที่มีสมาชิกอยู่ 3 ประเทศคือ ไทย ฮ่องกง และไต้หวัน เพื่อสนับสนุนประชาธิปไตยให้มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากขึ้น
รวมถึงรายงานภาพรวมสถานการณ์ของไทยว่า ประเทศไทยมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่เกือบ 13,000 รายต่อวัน และไม่มีวี่แววว่าการติดเชื้อลดลงในเร็วๆ นี้ จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 1.96% ในเดือนมกราคมถึงมีนาคม
พร้อมหยิบยกความคิดเห็นของคนไทยบางส่วนไปรายงานว่า “การที่ไทยสามารถเป็นอันดับ 1 ของโลกได้เพราะคนมีเวลาเหลือเฟือจากการตกงาน” หรืออีกหนึ่งความคิดเห็นกล่าวว่า “ที่คนไทยคลิกได้เก่งและเร็วขนาดนี้ เพราะมีประสบการณ์ที่ฝึกฝนจากการแย่งกันลงทะเบียนวัคซีนและโครงการช่วยเหลือจากรัฐบาล”
อ้างอิง:
