วันนี้ (29 กุมภาพันธ์) เชิดชาย ใช้ไววิทย์ อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ พร้อมด้วย Indra Mani Pandey เลขาธิการ BIMSTEC ร่วมบรรยายสรุปความสำคัญและทิศทางการขับเคลื่อนกรอบความร่วมมือ BIMSTEC หรือ ‘ความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ’ ในวาระการเป็นประธานของไทย โดยเปิดเผยความคืบหน้าในการเตรียมความพร้อมของไทย ที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำ BIMSTEC ครั้งที่ 6 ในกรุงเทพฯ หลังเลื่อนจากปีที่แล้วมาจัดในปีนี้ ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนนำเสนอและกำหนดวันที่เหมาะสมร่วมกับประเทศสมาชิกอีก 6 ประเทศ ได้แก่ บังกลาเทศ ภูฏาน อินเดีย เมียนมา เนปาล และศรีลังกา
โดยเบื้องต้น ได้มีการวางหัวข้อการประชุมแล้ว ซึ่งรวมถึงหลายประเด็น เช่น การท่องเที่ยว ความตกลงการค้าเสรี ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการขนส่งทางทะเล ความร่วมมือด้านโครงสร้างพื้นฐาน พลังงาน และการส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาค โดยเฉพาะโครงการถนนสามฝ่าย อินเดีย-เมียนมา-ไทย (India-Myanmar-Thailand Trilateral Highway Project)
ในส่วนความตกลงการค้าเสรี BIMSTEC (BIMSTEC Free Trade Area) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญสำหรับการขับเคลื่อนความร่วมมือของ BIMSTEC ให้เดินหน้าและมีการผลักดันมานานกว่า 20 ปี อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศชี้แจงว่า การเจรจา FTA ของ BIMSTEC มีอุปสรรคเยอะมาก ซึ่งที่ผ่านมามีการเจรจากันมาแล้วกว่า 20 รอบ แต่ยังมีหลายประเด็นละเอียดอ่อนที่ต้องพิจารณา เช่น เรื่องสินค้า บริการ การลงทุน ความร่วมมือศุลกากร และกลไกระงับข้อพิพาทต่างๆ
ขณะที่เขายืนยันว่า ในการประชุมผู้นำ BIMSTEC ครั้งนี้จะมีความพยายามในการผลักดันการเจรจา FTA อย่างเต็มที่
สำหรับการประชุมผู้นำ BIMSTEC ครั้งนี้เป็นการประชุมแบบพบหน้ากันครั้งแรกในรอบ 6 ปี โดยที่ผ่านมา ไทยยังได้ประกาศวิสัยทัศน์กรุงเทพ 2030 (BIMSTEC Bangkok Vision 2030) เพื่อกำหนดทิศทางดำเนินการและจัดลำดับความสำคัญด้านความร่วมมือต่างๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายหลักของ BIMSTEC คือ มั่งคั่ง (Prosperous) ยั่งยืนฟื้นคืน (Resilient) และเปิดกว้าง (Open)
