กระทรวงพาณิชย์เผย ‘ส่งออก’ ไทยทั้งปี 2566 ติดลบ ขาดดุลการค้าอยู่ที่ 5,192 ล้านดอลลาร์ พร้อมตั้งเป้าดันส่งออกขยายตัว 1-2% ในปี 2567 เผยกลยุทธ์รุกตลาดอินเดีย-แอฟริกาใต้ เพื่อลดความเสี่ยงจากจีนและทะเลแดง
วันนี้ (26 มกราคม) กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เผยการส่งออกของไทยในเดือนธันวาคม 2566 มีมูลค่า 22,791 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (795,824 ล้านบาท) ขยายตัวที่ 4.7% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น จากการชะลอลงของภาวะเงินเฟ้อสูง ซึ่งส่งผลดีต่ออุปสงค์และความเชื่อมั่นในการบริโภคของประเทศต่างๆ ทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เป็นอุปสรรคทางการค้าและความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทานโลกยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกในระยะต่อไป
สำหรับการส่งออกไทยทั้งปี 2566 หดตัว 1.0% และเมื่อหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัว 0.6% ยังขาดดุลการค้าอยู่ที่ 302,925 ล้านบาท แต่นับว่าดีขึ้นจากปี 2565 ที่ขาดดุล 612,569 ล้านบาท
เปิดแนวโน้มการส่งออกในปี 2567
กระทรวงพาณิชย์ ตั้งเป้าหมายการทำงานไว้ที่ขยายตัว 1.99% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 290,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 10 ล้านล้านบาท โดยมีปัจจัยหนุนจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่มีเสถียรภาพมากขึ้น แรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่บรรเทาลง และการสิ้นสุดการใช้นโยบายการเงินตึงตัวของประเทศเศรษฐกิจหลัก ส่งผลดีต่อปริมาณการค้าโลกให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีแรงหนุนจากการสำรองสินค้าเกษตรและอาหาร ตามความมั่นคงทางอาหารและการฟื้นตัวของวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก
อย่างไรก็ดีมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานโลกและต้นทุนสินค้า ผลกระทบจากภัยแล้งในหลายพื้นที่ทั่วโลก และเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด
เผยกลยุทธ์รุกตลาดใหม่ ท่ามกลางความเสี่ยงจากจีน
ท่ามกลางความกังวลต่อตลาดจีน ว่าอาจไม่สามารถเจริญเติบโตตามที่คาดไว้ได้ กระทรวงพาณิชย์จึงเตรียมให้ความสำคัญกับตลาด ‘อินเดีย’ มากขึ้น เนื่องจากเป็นตลาดที่มีลักษณะและขนาดใกล้เคียงกับจีน รวมทั้งมีความต้องการสินค้าจากไทย โดยสิ่งที่ยังต้องทำควบคู่กันไปคือ การเจรจาลดอุปสรรคทางการค้าด้วย
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์มีแผนจัดกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกมากกว่า 400 กิจกรรมในประเทศต่างๆ ทั้งการบุกตลาดเมืองรอง และการขับเคลื่อนการเจรจา FTA ภายใต้ ‘นโยบายการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก’ ของรัฐบาล ซึ่งได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ เพื่อผลักดันการส่งออกไทยให้เติบโตเป็นฟันเฟืองสำคัญในการผลักดันการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยต่อไป
ท่ามกลางปัญหาในทะเลแดง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนโลจิสติกส์ ค่าระวาง และทำให้ระยะเวลาในการขนส่ง โดยเฉพาะไปประเทศในแทบยุโรปยาวนานขึ้น กระทรวงพาณิชย์ได้ประสานงานกับภาคเอกชนมาตลอด และหารือกับสายเรือให้ค่าขนส่งอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังเตรียมเข้าไปเยือนและเจรจาการค้ากับประเทศแถบแอฟริกาใต้ที่เรือต้องอ้อมผ่าน เพื่อทำการค้าเพิ่มเติม พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส