วันนี้ (20 พ.ย.) นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในไตรมาส 3 ปี 2561 ขยายตัวเพียง 3.3% ซึ่งต่ำกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวถึง 4.6%
โดยนายกอบศักดิ์ชี้แจงว่า ในฐานะนักเศรษฐศาสตร์เห็นว่า เศรษฐกิจไทยยังเข้มแข็งอย่างน่าพอใจ เห็นได้จากการบริโภคในประเทศที่ขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง 3 ไตรมาสติด โดยขยายตัวอยู่ที่ 3.7%, 4.5% และ 5.0% ตามลำดับ ซึ่งเราไม่ได้เห็นตัวเลขการเติบโตถึง 5% กันบ่อยๆ
ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐ ก็ใช้จ่ายได้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยขยายตัวที่ 1.9%, 2.0% และ 2.1% ตามลำดับไตรมาส
เช่นเดียวกับการลงทุนของภาครัฐและเอกชน ก็เติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยขยายตัวที่ 3.4%, 3.7% และ 3.9% ตามลำดับไตรมาส
แต่สาเหตุที่ตัวเลขโดยรวมลดลงเหลือ 3.3% นั้น เกิดจากภาคส่งออกและท่องเที่ยว
โดยภาคท่องเที่ยวมีปัญหาเหตุการณ์เรือฟินิกซ์ล่มที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งกระทบความเชื่อมั่น มีการยกเลิกการท่องเที่ยว ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวในไตรมาส 3 ขยายตัวเพียง 1.9% ซึ่งลดลงจากไตรมาส 2 ที่ขยายตัว 8.4% และไตรมาสแรกของปีที่ขยายตัวกว่า 15.5%
ขณะที่ภาคส่งออกในไตรมาส 3 หดตัว -0.2% โดยนายกอบศักดิ์ชี้แจงว่า เป็นผลจากการรับมือสงครามการค้า โดยผู้ผลิตจีนเร่งส่งออกในช่วงไตรมาสที่ 1-3 ก่อนกำแพงภาษีจะมีผลบังคับใช้
สำหรับ 2 ส่วนนี้คือภาคส่งออกและภาคท่องเที่ยว ทำให้การขยายตัวเศรษฐกิจของไทยลดลง ซึ่งจะเห็นว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นภายนอกประเทศ โดยเฉพาะสงครามการค้าที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม นายกอบศักดิ์เห็นว่า ยังมีตัวเลขที่น่าพอใจคือ ตัวเลขการนำเข้าที่ขยายตัวเยอะ สะท้อนความมั่นใจเพราะความต้องการซื้อยังเข้มแข็ง
ขณะที่มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่รัฐสนับสนุนเชื่อว่า ในไตรมาสที่ 4 สถานการณ์การท่องเที่ยวจะดีขึ้น ส่วนในอนาคตจะเหลือแค่ภาคส่งออกอย่างเดียวที่ยังมีปัญหา และถ้าเป็นไปตามนี้ สภาพัฒน์คาดว่าตัวเลขการเติบโตทั้งปีจะอยู่ที่ 4.2-4.3%
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
