วานนี้ (10 ตุลาคม) ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวัน โดยระบุว่า มีการตรวจพบความเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชา โดยตรวจพบโดรนบริเวณช่องอานม้า 3 ลำ, ช่องโดนเอาว์ 1 ลำ, ปราสาทตาควาย 2 ลำ และช่องโอบก 7 ลำ
อีกทั้งยังตรวจพบกลุ่มควันสีขาวบริเวณหลังภูผี คาดว่าเป็นการอุ่นเครื่องรถถังอยู่กับที่ และตรวจพบรถบรรทุก 22 ล้อ ขนาดใหญ่คลุมผ้าใบสีดำ 1 คัน มุ่งหน้าไปยังพื้นที่แนวชายแดน คาดว่าอาจจะบรรทุกยุทโธปกรณ์ทางทหาร
ปัจจุบันกองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นของตนเอง ฝ่ายไทยจัดกำลังพลประจำจุดเฝ้าตรวจตามเหตุการณ์ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม และเตรียมความพร้อม ในการปฏิบัติตอบโต้ตามสถานการณ์
กองทัพภาคที่ 2 มุ่งมั่นรักษาผลประโยชน์ชาติ เตรียมการประชุม RBC ไทย – กัมพูชา อย่างรอบคอบ ซึ่ง ในวันที่ 10 ตุลาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพภาคที่ 2 เข้าร่วมการประชุมคณะกองเลขานุการฯ ตามคำเชิญของฝ่ายกัมพูชา เพื่อหารือแนวทางการเตรียมความพร้อมในการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ โดยครั้งนี้ประเทศกัมพูชาเป็นเจ้าภาพ
มี พล.ต. กัมปนาท วาพันสุ เสนาธิการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ทำหน้าที่ประธานฝ่ายไทย และ พลจัตวา นิต ณารงค์ รองเสนาธิการภูมิภาคทหารที่ 4 ทำหน้าที่ประธานฝ่ายกัมพูชา โดยได้หารือและพิจารณาประเด็นสำคัญร่วมกัน ดังนี้
- ยืนยันให้มีการประชุม RBC
- การกำหนดวันและเวลาการประชุมในห้วงวันที่ 15-17ตุลาคม 2568
- การจัดสถานที่ประชุม ณ จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ โดย กัมพูชาเป็นเจ้าภาพหลัก
- การพิจารณาระเบียบวาระ และสาระสำคัญของการประชุม ประกอบด้วย แผนการเคลื่อนย้ายอาวุธหนักกลับสู่ที่ตั้งปกติ ที่มีรายละเอียดสามารถปฏิบัติได้จริง ภายใต้การสังเกตการณ์และการตรวจสอบของกลุ่มประสานงาน (CG) รวมทั้งยืนยันความร่วมมือในการกำจัดทุ่นระเบิดตามหลักมนุษยธรรม
ทั้งนี้ การประชุม RBC ถือเป็นเวทีสำคัญในการสร้างความร่วมมือ เสริมสร้างความเข้าใจ และธำรงรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อให้ประชาชนของทั้งสองประเทศสามารถอยู่ร่วมกันอย่างมั่นคงและสันติสุข
กองทัพภาคที่ 2 ขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นว่า ฝ่ายไทยจะดำเนินการด้วยความรอบคอบและมุ่งมั่น เพื่อรักษาผลประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ ความปลอดภัยของประชาชน และอธิปไตยของชาติไทยอย่างเต็มกำลัง
“กองทัพภาคที่ 2 ยืนหยัดทำหน้าที่ เพื่อความมั่นคงของชาติไทย และความผาสุกของประชาชนทุกคน”