×

กัณวีร์แนะอนุทินควรเร่งสร้างสันติภาพไทย-กัมพูชา ผ่านเวที UNGA ย้ำจุดยืนซื้อใจประเทศสมาชิก

โดย THE STANDARD TEAM
23.09.2025
  • LOADING...
กัณวีร์ สืบแสง แนะอนุทินใช้เวที UNGA ผลักดันสันติภาพไทย-กัมพูชา

วันนี้ (23 กันยายน) กัณวีร์ สืบแสง สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับเวทีระหว่างประเทศอย่างการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ หรือ United Nations General Assembly (UNGA) ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 23-29 กันยายน 2568 ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา หากเราเข้าใจความสำคัญและวัตถุประสงค์หลักของกลไกระหว่างประเทศต่างๆ อย่างถ่องแท้ และใช้ให้เป็นอย่างถูกวิธี เราจะมีจุดยืนที่สง่าในเวทีโลก และไม่ถูกปั่นหัวให้วิ่งตามอย่างที่ผ่านมา

 

กัณวีร์ระบุว่า ความสำคัญของ UNGA คือ เวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ทุกประเทศสมาชิกได้แสดงจุดยืนอย่างเท่าเทียม หารือและกำหนดทิศทางร่วมกันในประเด็นระดับโลก ทั้งด้านสันติภาพ ความมั่นคง การพัฒนา สิทธิมนุษยชน และกฎหมายระหว่างประเทศ อีกทั้งยังมีบทบาทในการอนุมัติงบประมาณและแต่งตั้งตำแหน่งหลักของสหประชาชาติ อาทิ เลขาธิการ UN ฯลฯ

 

กัณวีร์เน้นย้ำว่า ที่สำคัญมากคือเราต้องเข้าใจและเตรียมความพร้อมในการเข้าร่วมโดยดูอรรถบทหรือหัวข้อหลักประเด็นสำคัญๆ (Theme) ในแต่ละสมัยการประชุมให้ดี และเตรียมตัวเข้าร่วมเสนอให้ตรง ซึ่งหัวข้อการอภิปรายทั่วไปในการประชุมสมัชชาใหญ่ สมัยประชุมที่ 80 คือ ‘ร่วมมือกันดียิ่งขึ้น: 80 ปี และก้าวต่อไปเพื่อสันติภาพ การพัฒนา และสิทธิมนุษยชน’ (Better together: 80 years and more for peace, development and human rights)

 

“หากมองมาดูเรื่องสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังจากการปะทะตั้งแต่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ผมย้ำชัดและตลอดเวลาว่า กัมพูชาจะนำเรื่องนี้เข้าศาลโลก ต่อด้วย UNGA และจบด้วย UNSC ซึ่งก็เป็นไปตามคาด ไม่ผิดแม้แต่ก้าวเดียว แต่ที่กัมพูชาทำไม่สำเร็จเพราะใช้กลไกยังไม่เนียน ถึงแม้กัมพูชาจะเก่งด้านการดึงนั่นมาผสมนี่ แต่ยังดึงใจสมาชิกส่วนใหญ่ของโลกใบนี้ไม่ได้ และใช้เวทีระหว่างประเทศแต่ละชนิดอย่างขาดประสิทธิผล กัมพูชาเน้นแต่บอกว่าตัวเองเป็นผู้ถูกกระทำ และสุดท้ายขอร้องให้ชาวโลกมาจัดการกับไทยด้วย” กัณวีร์กล่าว

 

กัณวีร์กล่าวว่า นี่คือสิ่งที่กัมพูชาทำมาตลอด ซึ่งไทยเราเองก็ออกไปใช้กลไกต่างๆ ตอบสนองเช่นเดียวกันว่า เราไม่ได้ทำ เราถูกรุกรานก่อน ฝ่ายกัมพูชายิงโดยไม่เลือกเป้าหมาย มีพลเรือนเสียชีวิต ทรัพย์สินของประชาชนได้รับความเสียหาย กัมพูชาวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลใหม่ ไม่ยึดตามคำมั่นและสัตยาบันที่ให้ไว้

 

“ไทยตอบสนองอย่างนี้ ทำได้ แต่ไม่เพียงพอ ผมขอให้คุณอนุทินฯ ดึงกลับมาที่ความสำคัญของกลไก UNGA เป็นหลัก หน้าที่หลักของมันคือ แสดงจุดยืนอย่างเท่าเทียม หารือและกำหนดทิศทางร่วมกันในประเด็นระดับโลก ทั้งด้านสันติภาพ ความมั่นคง การพัฒนา สิทธิมนุษยชน และกฎหมายระหว่างประเทศ ท่องไว้ครับ แล้วเอามารวมกับหัวข้อ ‘ร่วมมือกันดียิ่งขึ้น: 80 ปี และก้าวต่อไปเพื่อสันติภาพ การพัฒนา และสิทธิมนุษยชน’ ดังนั้น การที่เราจะซื้อใจสมาชิกของสหประชาชาติคือ ต้องพูดให้ดัง ยืนให้ตรง แล้วบอกว่าสันติภาพคือสิ่งที่เราต้องการ” อนุทินกล่าว 

 

กัณวีร์กล่าวต่อไปว่า ต้องใช้การพัฒนาแบบยั่งยืนที่ร่วมกันในการแก้ไขปัญหา และต้องเน้นย้ำว่า นี่คือประเด็นของโลกใบนี้ เนื่องจากเราต้องการให้การสร้างสันติภาพระหว่างไทย-กัมพูชา เป็นแบบอย่างของสงครามที่เกิดขึ้นในโลก จะมีโอกาสใดอีกที่โลกใบนี้จะได้เป็นสักขีพยานในการนำมาซึ่งสันติภาพแบบยั่งยืน หากไม่ใช่เวลานี้ระหว่างไทย-กัมพูชา 

 

“โลกเราได้ยินมาเยอะกับการสาดโคลนกันไปมา ด่ากันอย่างเดียว และไม่ยอมพูดถึงทางออกที่จะสามารถทำงานร่วมกันระหว่าง 2 คู่พิพาท หรือคู่พิพาทหลายฝ่าย เราต้องทำให้เห็นว่าเราเหนือกว่าทุกฝ่าย มิใช่แค่คู่กรณีเราในเรื่องกัมพูชาเท่านั้น แต่ต้องมาเหนือเมฆ ทำให้สมาชิกทุกคนฟังแล้วอิน เราเสนอแล้ว เขาโอนอ่อนผ่อนตาม”

 

กัณวีร์ชี้ว่า ต้องดูว่าอนุทินและรัฐบาลชุดนี้จะมีอำนาจเต็มในการเดินทางไปร่วมประชุมก่อนการแถลงนโยบายรัฐบาลที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 29-30 กันยายนนี้ หรือไม่ ก็คงต้องดูในแง่กฎหมายให้ครอบคลุม แต่อย่างไรก็ต้องมีตัวแทนไปเข้าร่วม และต่อไปก็ต้องขึ้นอยู่กับฝีมือของอนุทิน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่แล้วว่า จะทำให้ ‘โลกฟังไทย’ แล้วคล้อยตามได้อย่างไร

 

“ผมไม่ได้บอกว่า ไม่ให้ไทยพูดว่าเราถูกกระทำอย่างไรให้โลกรู้ พูดได้ แต่ควรเป็นแค่การอารัมภบท แล้วดึงขึ้นไปสู่หัวข้อหลักว่าเราจะสามารถไปสู่ก้าวต่อไปเพื่อสันติภาพ การพัฒนา และเพื่อปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชนได้อย่างไร มีกระบวนการไหนที่เราสามารถเสนอต่อไปได้ จะรอดูครับว่า ไทยเราจะพลิกโฉมเปลี่ยนแปลงหน้าตาทางการทูตของไทยในเวทีโลกได้หรือไม่ และอย่างไร” กัณวีร์กล่าวย้ำ

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising