×

กรมบัญชีกลาง ออกหนังสือด่วนที่สุด แจงระเบียบฯ ช่วยประชาชนพื้นที่ชายแดนได้ แม้ศูนย์พักพิงไม่ได้อยู่ในพื้นที่ภัยพิบัติ

โดย THE STANDARD TEAM
30.07.2025
  • LOADING...
กรมบัญชีกลาง

วันนี้ (30 กรกฎาคม) กรมบัญชีกลาง ได้เผยแพร่หนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2568 ถึงอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ลงนามโดย แพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง ซึ่งเป็นการตอบข้อหารือถึงแนวทางการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 โดยมีรายละเอียดดังนี้ 

 

ตามหนังสือที่อ้างถึงแจ้งว่า สถานการณ์การปะทะกันของกองกำลังไทย – กัมพูชา อันเนื่องมาจากการกระทำของกองกำลังจากนอกประเทศ ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ซึ่งสถานการณ์ได้ยกระดับความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง เกิดการปะทะกันบริเวณแนวชายแดนในหลายพื้นที่ มีแนวโน้มว่าอาจจะยืดเยื้อและขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าว พบว่า 

 

ส่งผลกระทบในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดบุรีรัมย์ เบื้องต้นได้รับผลกระทบ 14 อำเภอ 75 ตำบล 960 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 189,679 ครัวเรือน 523,007 คน ผู้เสียชีวิต 14 ราย ผู้บาดเจ็บ 37 ราย

 

ต่อมามีการจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวเพื่อรองรับการอพยพของประชาชนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ 5 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 229 แห่ง แบ่งเป็น พื้นที่ที่มีสถานการณ์ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดบุรีรัมย์ และพื้นที่ที่ไม่มีสถานการณ์ ซึ่งมีการเตรียมความพร้อมศูนย์พักพิงชั่วคราวเพื่อรองรับผู้อพยพ 1 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสระแก้ว โดยมีผู้อพยพรวม 127,001 คน

มีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน กรณีภัยอันเนื่องมาจากการกระทำของกองกำลังจากนอกประเทศ จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี (อำเภอนาจะหลวย อำเภอน้ำขุ่น และอำเภอน้ำยืน) จังหวัดศรีสะเกษ (อำเภอกันทรลักษ์) จังหวัดสุรินทร์ (อำเภอกาบเชิง อำเภอบัวเชด อำเภอปราสาท อำเภอพนมดงรัก อำเภอเมืองสุรินทร์ อำเภอลำดวน อำเภอศรีณรงค์ และอำเภอสังขะ) และจังหวัดบุรีรัมย์ (อำเภอบ้านกรวด และอำเภอละหานทราย)

 

ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยพิจารณาแล้วเห็นว่า สถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งได้มีการยกระดับความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง เกิดการปะทะกันบริเวณแนวชายแดนในหลายพื้นที่ มีแนวโน้มว่าอาจจะยืดเยื้อและขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น ทำให้ต้องมีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ที่มีสถานการณ์ดังกล่าวไปยังพื้นที่ปลอดภัยและสถานที่ชั่วคราว (ศูนย์พักพิงหรือศูนย์พักพิงชั่วคราว) เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดแก่ชีวิตและร่างกายของประชาชน

 

ทั้งนี้ ทำเลที่ตั้งของสถานที่ดังกล่าวต้องคำนึงถึงการตั้งอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ไม่มีอันตรายจากภัยคุกคามต่าง ๆ และอาจไม่ได้ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ได้มีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน แต่มีลักษณะเป็นพื้นที่เกี่ยวพันต่อเนื่องที่ได้รับการพิจารณาเมื่อเกิดภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน

 

จึงขอหารือว่า ผู้มีอำนาจประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 ข้อ 20 สามารถดำเนินการประกาศให้พื้นที่ที่ได้จัดตั้งเป็นพื้นที่ปลอดภัยและสถานที่ชั่วคราว (ศูนย์พักพิงหรือศูนย์พักพิงชั่วคราว) สำหรับประชาชนผู้ซึ่งได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอันเป็นผู้ประสบภัยพิบัติ เป็นเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินได้หรือไม่ อย่างไร ความละเอียดแจ้งแล้วนั้น

 

ขณะที่ กรมบัญชีกลางพิจารณาแล้ว ขอเรียนว่า โดยที่ระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 ข้อ 5 กำหนดนิยาม ‘ภัยพิบัติ’ หมายความว่า สาธารณภัย อันได้แก่ อัคคีภัย วาตภัย อุทกภัย … กองกำลังจากนอกประเทศ ตลอดจนภัยอื่น ๆ ไม่ว่าจะเกิดจากธรรมชาติ หรือมีบุคคลหรือสัตว์ทำให้เกิดขึ้น ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตร่างกายของประชาชนหรือทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของประชาชน และ ‘ผู้ประสบภัยพิบัติ’ หมายความว่า ผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายจากภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน แต่ไม่รวมถึงส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ

 

ทั้งนี้ ข้อ 20 กำหนดให้เมื่อภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินเกิดขึ้นในท้องที่ใดให้ผู้มีอำนาจดำเนินการประกาศในท้องที่นั้นเป็นเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน โดยต้องกำหนดพื้นที่และระยะเวลาของการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัตินั้นด้วย

 

กรณีตามข้อหารือ เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่า เมื่อจังหวัดได้พิจารณาประกาศให้ท้องที่ใดเป็นเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว และมีความจำเป็นต้องมีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ที่ได้มีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือฯ ไปยังพื้นที่ปลอดภัยและสถานที่ชั่วคราว (ศูนย์พักพิงหรือศูนย์พักพิงชั่วคราว) ที่มีลักษณะเป็นพื้นที่เกี่ยวพันต่อเนื่อง เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดแก่ชีวิตและร่างกายของประชาชน ซึ่งทำเลที่ตั้งของสถานที่ดังกล่าวไม่ได้ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ได้มีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือฯ

 

กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องของการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ซึ่งจังหวัดย่อมสามารถดำเนินการได้ตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ และหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2563 ไม่ใช่กรณีที่ต้องประกาศให้พื้นที่ซึ่งเป็นที่ตั้งศูนย์พักพิงหรือศูนย์พักพิงชั่วคราวเป็นเขตการให้ความช่วยเหลือฯ แต่อย่างใด

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising