เมื่อวานนี้ (4 มีนาคม) ในรายการ ‘Suthichai Podcast’ ที่ดำเนินรายการโดย สุทธิชัย หยุ่น ได้สัมภาษณ์กับ รมณี คณานุรักษ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เกี่ยวกับสถานการณ์ของ ‘ผีน้อย’ หรือแรงงานไทยที่ทำงานในเกาหลีใต้แบบผิดกฎหมายต้องการกลับมายังประเทศไทย ท่ามกลางการเฝ้าระวังจากรัฐบาลไทยอย่างเข้มงวด เนื่องจากเกาหลีใต้ถือเป็นหนึ่งในประเทศกลุ่มเสี่ยงต่อการติดโรคโควิด-19 ตามรายงานของกระทรวงสาธารณสุข
โดยรมณีระบุว่าข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของเกาหลีใต้ช่วงวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ชี้ให้เห็นว่าปัจจุบันมีผู้อาศัยหรือทำงานอยู่ในเกาหลีใต้แบบผิดกฎหมายอยู่จำนวน 152,439 คน ส่วนแรงงานที่เดินทางไปทำงานในเกาหลีใต้แบบถูกกฎหมายมีเพียง 21,527 คน
ขณะที่ในช่วงวันที่ 11 ธันวาคม 2562 ถึง 1 มีนาคม 2563 รัฐบาลเกาหลีใต้เปิดโอกาสให้ผู้พำนักแบบผิดกฎหมายในเกาหลีใต้แจ้งขอกลับประเทศโดยสมัครใจโดยไม่เสียค่าปรับและไม่ถูกจับ ซึ่งพบว่ามีคนไทยแจ้งขอกลับทั้งหมด 5,386 คน และเดินทางกลับถึงไทยแล้ว 4,727 คน ทำให้เหลือผู้ที่เพิ่งจะเข้ารายงานตัวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 1,181 คน แต่ในรายหลังยังคงต้องผ่านการพิจารณาจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ และจะสามารถเดินทางได้ภายใน 3-15 วันหลังจากรายงานตัว ซึ่งจะยังคงเปิดให้ลงชื่อถึง 30 มิถุนายน 2563 โดยคาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าแสดงตัวเพื่อขอกลับไทยเพิ่มเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการลงนามในข้อตกลงเรื่องการแก้ปัญหาผู้พำนักผิดกฎหมายในเกาหลีใต้เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ในส่วนของความร่วมมือที่กำหนดไว้หนึ่งในนั้นมีข้อตกลงเรื่องการแลกเปลี่ยนข้อมูล เท่ากับว่าสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของเกาหลีใต้จะมีการส่งรายชื่อผู้อาศัยแบบผิดกฎหมายจำนวน 152,439 คนให้กับกรมการจัดหางานของไทย รวมถึงผู้ที่แสดงความจำนงในการกลับประเทศไทยด้วย
ส่วนประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจมากที่สุดในตอนนี้คือขั้นตอนของการตรวจโรคคนไทยที่เตรียมเดินทางกลับภูมิลำเนาจะมีวิธีการอย่างไรบ้าง
รมณีกล่าวว่าผู้ที่ประสงค์จะเดินทางกลับต้องเข้ารายงานตัวต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ก่อนเป็นเวลา 3-15 วันเพื่อตรวจสอบประวัติ ก่อนจะออกหนังสือเดินทางกลับโดยสมัครใจ และเมื่อถึงกำหนดเดินทางก็จะต้องเดินทางไปพบสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ในสนามบินอีกครั้งเพื่อรายงานตัวก่อนขึ้นเครื่อง
ทั้งนี้ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ไม่มีการทำ ‘Exit Check’ หรือการคัดกรองผู้เดินทางขาออกสนามบิน แต่ทางรัฐบาลไทยได้มีหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศเพื่อขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้ช่วยตรวจคัดกรองคนไทยที่รายงานตัวที่สนามบินก่อนส่งขึ้นเครื่อง ซึ่งรัฐบาลเกาหลีใต้ได้มีมาตรการที่ชัดเจนในการดูแลชาวต่างชาติทั้งถูกและผิดกฎหมาย
โดยมีการให้ชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศโทรปรึกษาตามสายด่วนที่กำหนดไว้ หากมีอาการไม่สบายหรือสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค และหากต้องการตรวจหาเชื้อก็สามารถทำได้ฟรี หากตรวจพบเชื้อก็จะทำการรักษาให้ฟรีทั้งหมด
“เราได้ประชาสัมพันธ์ให้คนไทยที่อยู่ในเกาหลีใต้ทราบแล้วว่าหากมีอาการต้องสงสัยให้ไปเข้าตรวจได้โดยไม่มีการจับหรือส่งกลับ ซึ่งเกาหลีใต้ยืนยันว่าต้องเร่งแก้สถานการณ์ระบาดหนักในประเทศ ซึ่งค่อนข้างรุนแรง โดยต้องเริ่มจากการรักษาทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนในชาติหรือชาวต่างชาติ” รมณีกล่าว
อย่างไรก็ตาม รมณีย้ำว่า “ตอนนี้เรามีสายด่วนให้คนไทยในเกาหลีใต้ได้ติดต่อ และที่ผ่านมาได้มีการออกประกาศแล้ว รวมถึงเปิดเผยข้อมูลอย่างต่อเนื่อง และให้ความรู้กับคนไทยถึงวิธีการรับมือกับโรคระบาด ซึ่งที่ผ่านมาคนไทยในเกาหลีใต้มีความตื่นตัวและติดตามข่าวสาร โดยวัดจากยอดการเข้ามาดูประกาศสถานการณ์โควิด-19 จากสถานทูตที่มีถึงกว่า 6 แสนครั้ง ซึ่งในส่วนของการประสานข้อมูลระหว่างสถานทูตและคนไทยในเกาหลีใต้มีการดำเนินผ่านทางไลน์กลุ่ม ซึ่งจะมีการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และคำแนะนำในการรับมือต่างๆ จากผู้เชี่ยวชาญอย่างแพทย์จากกรมควบคุมโรคอยู่เสมอ”
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์