สำหรับ ‘บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)’ นอกเหนือจากการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตจนเป็น 1 ใน 10 บริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงสุดในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์แล้ว ในเรื่องของ ‘ความยั่งยืน’ ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน
เรื่องนี้สะท้อนได้จากการที่ไทยเบฟได้รับคัดเลือกเป็นผู้นำในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่มภายใต้ดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI) ถึง 4 ปีติดต่อกัน โดยในปี 2564 ไทยเบฟได้คะแนน 90 จาก 100 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนสูงสุดในบรรดาบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกันที่เข้าร่วมรับการประเมิน
โดยได้คะแนนสูงสุดในด้านสังคม การกำกับดูแล และเศรษฐกิจ และได้คะแนนสูงเป็นอันดับ 2 ในด้านสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังได้เป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนีความยั่งยืน DJSI World เป็นปีที่ 5 และ DJSI Emerging Markets เป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นและใส่ใจในการพัฒนาความยั่งยืนขององค์กรอย่างต่อเนื่อง
“เรามุ่งมั่นสรรสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน (Enabling Sustainable Growth) ด้วยการตั้งเป้าหมายเพื่อให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2583” นี่คือคำพูดที่แสดงออกถึงความตั้งใจของ ฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ไทยเบฟเวอเรจ
“กลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยให้ไทยเบฟสามารถขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนไปพร้อมกับเสริมความแข็งแกร่งของกลุ่มธุรกิจ รวมถึงปกป้องสิ่งแวดล้อม สนับสนุนชุมชนท้องถิ่น และยกระดับการดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาล ควบคู่ไปกับการขยายธุรกิจในไทยและในภูมิภาค”
แม่ทัพของไทยเบฟย้ำว่า ความสำเร็จของการขับเคลื่อนองค์กรผ่านแผนการดำเนินธุรกิจ PASSION 2025 นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกันอย่างยิ่งกับการมีสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติที่สมบูรณ์ การพัฒนาชุมชนรอบพื้นที่ปฏิบัติงาน และการกำกับดูแลองค์กรและจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ
ภายใต้ PASSION 2025 ประกอบไปด้วย
- BUILD (สรรสร้างความสามารถ) คือสรรสร้างความสามารถและโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ด้วยการต่อยอดจากพื้นฐานธุรกิจที่มีอยู่ ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์ตลาดโลกที่ให้ความใส่ใจในด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี นำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำธุรกิจและมองหาตลาดใหม่ๆ
- STRENGTHEN (เสริมแกร่งความเป็นหนึ่ง) คือการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจหลัก เพื่อรักษาและก้าวสู่ความเป็นผู้นำธุรกิจเครื่องดื่มและอาหารครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน โดยเน้นการทำงานร่วมกัน
- UNLOCK (สุดพลังศักยภาพไทยเบฟ) คือนำศักยภาพของไทยเบฟมีอยู่มาก่อให้เกิดมูลค่าสูงสุด รวมถึงการนำทรัพยากรต่างๆ เช่น ทรัพยากรบุคคลที่มีอยู่มาพัฒนาศักยภาพ และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งขยายเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ
ในขณะที่กลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของไทยเบฟถูกขับเคลื่อนด้วย 3 เสาหลัก ซึ่งมีเป้าหมายที่ชัดเจนดังต่อไปนี้
ด้านสิ่งแวดล้อม
- ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิจากการดำเนินงานของกลุ่ม (Scope 1) และจากพลังงานที่กลุ่มซื้อมา (Scope 2) ให้เป็นศูนย์ภายในปี 2583
- คืนน้ำสู่ธรรมชาติและชุมชนให้ได้ 100% ภายในปี 2583
- ส่งมอบผลกระทบสุทธิเชิงบวกด้านความหลากหลายทางชีวภาพ
ด้านสังคม
- เพิ่มการมีส่วนร่วมของพนักงานให้ได้มากกว่าหรือเท่ากับ 90% ภายในปี 2573
- 80% ของรายได้จากธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ต้องมาจากเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพภายในปี 2573
- แบ่งปันและสร้างคุณค่าแก่สังคมผ่านเสาหลัก 5 ประการ ได้แก่ การศึกษา สาธารณสุข กีฬา ศิลปะและวัฒนธรรม และการพัฒนาชุมชนและสังคม
การบริหารจัดการภายใต้หลักธรรมาภิบาล
- วางมาตรฐานด้านการกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพให้ครอบคลุมทั้งกลุ่มไทยเบฟ
- 100% ของคู่ค้ากลุ่มกลยุทธ์ต้องมีการจัดทำและบังคับใช้จรรยาบรรณสำหรับคู่ค้าของตนเอง
- ผสานความร่วมมือสู่ผลกระทบเชิงบวกด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล
เป็นที่น่ายินดีว่า ตลอดปี 2564 ที่ผ่านมาไทยเบฟได้บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนแล้วดังนี้
- บรรลุเฟสที่ 1 ของโครงการติดตั้งแผงผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาของโรงงาน (Solar Rooftop) ในไทย 5 แห่ง
- ขยายโรงงานผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพเป็น 7 แห่ง สำหรับผลิตพลังงานความร้อนจากการเผาน้ำกากส่าซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการกลั่นแอลกอฮอล์ เพื่อใช้เป็นพลังงานในโรงงานแทนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง
- เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนภายในองค์กรเป็น 41.8%
- ลดการใช้น้ำลง 6.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สำหรับพื้นที่ที่มีการดึงน้ำจากแหล่งน้ำมาใช้มาก (Water-Stressed Area)
- ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกใน Scope 1 และ Scope 2 ลงได้ 9.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน
- เปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกใน Scope 3 เป็นครั้งแรก โดยมีหน่วยงานภายนอกร่วมยืนยัน
- นำขยะอาหารและของเสียอื่นๆ จำนวน 60.2% กลับมาใช้ใหม่เพื่อวัตถุประสงค์อื่น
- นำบรรจุภัณฑ์สินค้าจำนวน 82% กลับมาใช้ใหม่และรีไซเคิล (Reuse and Recycle)
“ไทยเบฟขอตั้งมั่นว่าจะร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจทุกภาคส่วนอย่างใกล้ชิดต่อไป เพื่อให้มั่นใจว่ากลุ่มดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการแสวงหาการเติบโตและความมั่นคงทางธุรกิจ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามพันธกิจสร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าจากการเติบโต” ฐาปนเอ่ยย้ำถึงความตั้งใจของไทยเบฟ