สกินแคร์แบรนด์ไทยแท้อย่าง Erb เรียกเงินออกจากกระเป๋าเราแทบทุกครั้ง เพราะการคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่นำภูมิปัญญาไทยโบราณมาใช้ แถมยังประยุกต์ให้ความเป็นไทยดูน่าใช้ ซึ่งความสวยงามของการออกแบบ เบื้องหลังความสำเร็จเหล่านี้มาจาก รี่-พัชทรี ภักดีบุตร อดีตดีไซเนอร์จาก Greyhound ที่ผันตัวมาทำแบรนด์ของตัวเอง และนี่คือเส้นทาง 17 ปีที่ผ่านมาของแบรนด์นี้
“ถ้าคุณมีของ คุณก็ต้องทำให้โลกหมุน คุณอย่านอนอยู่บ้านเฉยๆ ถ้าคนที่มีของอยู่เฉยกันหมดไม่คิดทำอะไรสักอย่าง แล้วโลกใบนี้จะสวยงามได้อย่างไร”
TRAVEL TO SEE THE WORLD
จุดเริ่มต้นของ Erb เกิดจากสมัยก่อนรี่เป็นดีไซเนอร์ออกแบบเสื้อผ้าผู้หญิงที่ Greyhound ช่วงนั้นจะบินไปต่างประเทศบ่อย เพราะต้องดีลงานเอเจนต์ ได้ไปเที่ยวแล้วเห็นว่าบิวตี้เฮลตี้ หรือศาสตร์แนว Power of Nature ฮิตมากที่ยุโรป จากการเดินทางและการได้ใช้สกินแคร์ของนานาชาติ พอเอาส่วนผสมมาดูดีๆ พบว่า มันเป็นแบรนด์เมืองนอกก็จริง แต่ส่วนผสมต่างๆ มาจากแถวบ้านเราทั้งนั้น เช่น มะนาว หรือกระดังงา เราก็คิดว่านี่มันผลไม้ ดอกไม้บ้านเรา รู้สึกว่าทำไมฉันไม่ทำบ้าง พอกลับมาก็เริ่มหาข้อมูลทั้งที่เป็นดีไซเนอร์อยู่นั่นแหละ แล้วลองทำแบรนด์ตัวเองขึ้นมาจนกลายเป็น Erb
MADE IN THAILAND
รี่เลือกใช้ดอกมะลิ เพราะเราเกิดมาก็มีความคุ้นเคยกับมะลิอยู่แล้ว พอไปศึกษาข้อมูลก็พบว่า ดีต่อผิว แถมกลิ่นก็ดีต่อระบบประสาทด้วย พอได้กลิ่นแล้วช่วยให้สงบ ผ่อนคลาย
เปิดตัวแบรนด์ตอนแรกเราคลั่งมาก คือมีแรงเยอะ ตอนนั้นเราคิดว่าการจะออกผลิตภัณฑ์ในไทยแรกๆ คนไทยอาจยังไม่ยอมรับเรา ก็ไปออกงานบิ๊ก (BIG+BIH) ซึ่งเป็นงานที่เจ๋งมาก โคตรเก๋ สู้เมืองนอกได้เลย เรารู้สึกว่าถ้าคนต่างชาติใช้แล้วชอบ คนไทยก็อาจจะยอมเชื่อว่าของเราดีจริง อย่างที่บอกว่าเราพลังเยอะ ตอนผลิตออกมามีเกือบทุกอย่างเลย ทั้งครีมทาผิว ครีมบำรุงเท้า ครีมบำรุงมือ ครีมอาบน้ำ แชมพู ครีมนวด ครีมหมักผม รวมทั้งเทียน ธูป ชา กาน้ำชา ที่ใส่ธูป เทียน เยอะมากจนนับไม่ไหว แล้วเราก็โชคดีที่ไปออกงานครั้งแรกก็ได้ออร์เดอร์กลับมาเยอะมาก
EVERYTHING IS POSSIBLE
Erb เป็นแบรนด์ที่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อย จะทำอะไรขึ้นมาก็ได้ มันไม่ผิด เพราะเป็นแบรนด์ที่มีอิสระ มีความรื่นรมย์ มองก็สวย ใช้ก็หอม ทาก็เนียนนุ่ม มีประโยชน์ ได้ผลลัพธ์ดีในแบบที่เราอยากได้ แต่เราไม่มีทางรู้เลยว่า Erb คิดจะทำอะไรต่อไป ทุกอย่างมันมีจังหวะของมัน มีอิสระมากพอที่จะทำอะไรก็ได้แบบที่อยากทำ เวลาชวนใครสักคนมาทำอะไรร่วมกัน เรารักคนที่ทำให้โลกหมุน เราเป็นคนคิดบวกมาก เมื่อได้เกิดมาชาติหนึ่ง ถ้าคุณมีของ คุณก็ต้องทำให้โลกหมุน คุณอย่านอนอยู่บ้านเฉยๆ ถ้าคนที่มีของอยู่เฉยกันหมด ไม่คิดทำอะไรสักอย่าง แล้วโลกใบนี้จะสวยงามได้อย่างไร แต่ถ้ามันมีคนที่รักศิลปะมาช่วยทำให้โลกหมุนด้วยความรักและความชอบของตัวเขา นั่นแหละ…เราชอบคนแบบนั้น แล้วก็จะปลื้มมากกับน้องๆ ที่มีความสามารถเหล่านี้ อย่าง Boyy Bag, Issue, Sretsis หรือน้องมะม่วง ของ ตั้ม-วิศุทธิ์ พรนิมิตร
DO NOT FOLLOW THE FLOW
คิดว่าจุดเด่นที่ทำให้แบรนด์แตกต่างคือเราใช้จริง อินกับมันจริงๆ เวลาจะทำผลิตภัณฑ์อะไรออกมาสักอย่าง เราไม่ได้ตามกระแส คือ ‘ถ้าฉันไม่อิน ฉันก็ไม่ทำ’ อีกอย่าง เราเอาความเชื่อของคนไทยมาใส่ในผลิตภัณฑ์ เราเป็นคนกลางที่หยิบสิ่งโบราณที่มีอยู่แล้วมาปรับปรุงให้ดีขึ้น และทำออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เรารักต้นไม้ไทย รักสมุนไพรไทย ได้เห็นประโยชน์ของมันจากที่ได้ศึกษา และคุ้นเคยจากสิ่งที่เราเล่นในวัยเด็ก นี่คือสิ่งที่แตกต่าง และ Erb เองก็สะท้อนตัวตนของเรา หัวใจของรี่จะไม่ยอมแก่ Erb ก็จะเป็นแบรนด์ที่ไม่มีวันแก่เช่นกัน เวลาที่เราได้พบคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของเราและชอบจากใจจริงๆ นั่นคือสิ่งที่ทำให้รี่ปลาบปลื้มและมีความสุขมาก
Do’s
ตั้งแต่วันที่รัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต เราก็ตั้งคำถามกับตัวเองว่า เราจะทำอะไรให้กับประเทศนี้ในแบบของเราได้บ้าง ถึงแม้ว่าเราจะเป็นแค่คนตัวเล็กๆ แต่ก็บอกตัวเองว่าเราจะต้องทำให้ Erb เป็นแบรนด์ที่คนไทยภาคภูมิใจให้ได้
Don’ts
อย่าทำอะไรตามกระแส แต่ควรทำสิ่งที่เราอินและมีความรู้