พรุ่งนี้!! (16 พฤศจิกายน)
แฟนบอลจะได้ฤกษ์ประสานใจรวมเป็นหนึ่ง เพื่อส่งแรงใจเชียร์ฟุตบอลทีมชาติไทยที่มีคิวลงสนามเกมฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย (กลุ่ม C) นัดแรก พบกับทีมชาติจีน ในเวลา 19.30 น.
และเช่นเคย THE STANDARD รวบรวมข้อมูลสำคัญๆ เพื่อพาแฟนบอลไปอุ่นเครื่อง ส่องความพร้อมของนักเตะทั้งฝั่งไทยและจีน รวมถึงสถิติต่างๆ ที่น่าสนใจมาฝากก่อนเกมนัดนี้ เกมที่เปรียบได้กับก้าวแรกสู่ฟุตบอลโลก 2026
รายชื่อขุนพลทีมชาติไทย
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 โซนเอเชีย รอบคัดเลือก รอบ 2 กลุ่ม C แมตช์ที่ 1 และ 2 มาโน โพลกิง หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลชายทีมชาติไทย ได้ประกาศรายชื่อนักกีฬาทั้งหมด 26 คน ดังนี้
ผู้รักษาประตู
- กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล (ราชบุรี เอฟซี)
- สรานนท์ อนุอินทร์ (เชียงราย ยูไนเต็ด)
- ปฏิวัติ คำไหม (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
กองหลัง
- ธีราทร บุญมาทัน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
- พรรษา เหมวิบูลย์ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
- เควิน ดีรมรัมย์ (การท่าเรือ เอฟซี)
- ศุภนันท์ บุรีรัตน์ (การท่าเรือ เอฟซี)
- เฉลิมศักดิ์ อักขี (การท่าเรือ เอฟซี)
- นิติพงษ์ เสลานนท์ (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
- มานูเอล ทอม (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
- สุพรรณ ทองสงค์ (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
- เอเลียส ดอเลาะ (บาหลี ยูไนเต็ด)
- กฤษดา กาแมน (ชลบุรี เอฟซี)
- ทริสตอง โด (เมืองทอง ยูไนเต็ด)
กองกลาง
- สารัช อยู่เย็น (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
- ชนาธิป สรงกระสินธ์ (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
- พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
- วีระเทพ ป้อมพันธุ์ (เมืองทอง ยูไนเต็ด)
- รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
- ปกเกล้า อนันต์ (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
- บดินทร์ ผาลา (การท่าเรือ เอฟซี)
- เอกนิษฐ์ ปัญญา (อุราวะ เรด ไดมอนด์ส)
- สุภโชค สารชาติ (คอนซาโดเล ซัปโปโร)
กองหน้า
- ธีรศิลป์ แดงดา (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
- ศุภชัย ใจเด็ด (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
- ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา (โอเอช ลูเวิน)
🇹🇭 ความพร้อมทีมชาติไทย (อันดับ 112 ของโลก)
เกมคัดบอลโลกรอบนี้จะต่างจากเกมอุ่นเครื่องกับชาติยุโรป 2 นัดล่าสุดอย่างชัดเจน เพราะ มาโน โพลกิง จะได้ขุมกำลังนักเตะชั้นเลิศของเมืองไทยมารวมกันไว้มากที่สุด
นำโดยนักเตะมากประสบการณ์อย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีราทร บุญมาทัน, สารัช อยู่เย็น, ธีรศิลป์ แดงดา เป็นผู้เล่นแกนหลักที่ผสมกับแข้งดาวรุ่งที่ได้โอกาสไปค้าแข้งในลีกต่างแดนอย่าง เอกนิษฐ์ ปัญญา จากอุราวะ เรด ไดมอนด์ส, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา จากโอเอช ลูเวิน และ สุภโชค สารชาติ จากคอนซาโดเล ซัปโปโร ซึ่งทุกคนบินมาสมทบกับทีมชาติไทยอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว
และจากลิสต์รายชื่อผู้เล่นข้างต้นบวกกับการได้เล่นในบ้านก่อนนัดแรก นักเตะชุดนี้ของมาโนมีลุ้นเก็บ 3 แต้มจากการเล่นดวลกับทีมชาติจีนได้มากพอสมควร ส่วนที่เหลือขึ้นอยู่กับกลยุทธ์และแผนการของทีม (โดยเฉพาะจากมาโน) ที่ได้ไปเตรียมกันมาในช่วงการฝึกซ้อมว่าเมื่อลงสนามจริงแต่ละคนจะเค้นฟอร์มเก่งออกมาช่วยทีมได้มากน้อยเพียงใด
ผลงาน 5 นัดหลังสุด I ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 1
- เสมอ เอสโตเนีย 1-1
- แพ้ จอร์เจีย 0-8
- เสมอ อิรัก 2-2
- ชนะ เลบานอน 2-1
- ชนะ ฮ่องกง 1-0
🇨🇳 ความพร้อมทีมชาติจีน (อันดับ 79 ของโลก)
ทีมชาติจีนชุดนี้มีการประกาศรายชื่อนักเตะออกมาแล้ว ภาพรวม อเล็กซานดาร์ ยานโควิช กุนซือทีมชาติจีน เลือกใช้นักเตะจากไชนีสซูเปอร์ลีกมากถึง 23 ราย และอีก 1 คนมาจากลีกประเทศตุรกี
นำโดย อู๋เหล่ย กองหน้าตัวเก๋าวัย 31 ปีจากเซี่ยงไฮ้พอร์ต, หยานจุนหลิง ผู้รักษาประตูจากเซี่ยงไฮ้พอร์ต และ อู๋เช่าฉง กองหลังจากทีมเกนเคลร์บีร์ลิกี (Genclerbirligi) ลีกประเทศตุรกี, เจียงก่วงไท่ (ชื่อเดิม: ไทอัส บราวนิง) กองหลังจากเซี่ยงไฮ้ และ หลี่เค่อ (ชื่อเดิม: นิโคลัส เยนนาริส) กองกลางจากปักกิ่งกั๋วอัน และเคยเป็นอดีตเด็กปั้นของอาร์เซนอล
ภาพรวมฟอร์มในช่วงหลังของทีมชาติจีนยังขึ้นๆ ลงๆ เดาทิศทางเรื่องของผลงานได้ยาก แต่ถึงอย่างนั้นจีนก็ยังเป็นอุปสรรคใหญ่ของทีมไทยอยู่เสมอเมื่อต้องดวลกัน และการที่พวกเขาเรียกเก็บตัวนักกีฬาตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าทีมจีนให้ความสำคัญกับการเตรียมทีมเพื่อเกมคัดบอลโลกรอบนี้มากพอสมควร โดยเฉพาะในเกมแรกที่ต้องบุกมาเยือนทีมชาติไทยถึงราชมังฯ ทัพมังกรจีนน่าจะเตรียมแผนเด็ดมาเน้นคว้าแต้มในไทยอย่างแน่นอน
ผลงาน 5 นัดหลังสุด ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2
- แพ้ อุซเบกิสถาน 1-2
- ชนะ เวียดนาม 2-0
- แพ้ ซีเรีย 0-1
- เสมอ มาเลเซีย 1-1
- ชนะ ปาเลสไตน์ 2-0
ผลการดวลกัน 5 นัดหลังสุด
ผลการดวลกัน 5 นัดหลังที่พบกัน ทีมชาติไทยเอาชนะจีนได้ 2 ครั้ง และแพ้ 3 ครั้ง โดยทั้ง 2 ครั้งที่ชนะเกิดขึ้นในเกมอุ่นเครื่องทั้งหมด คือในปี 2013 โดยไทยเอาชนะไปถึง 5-1 ภายใต้การคุมทีมของโค้ชซิโก้-เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง
และอีกนัดในฟุตบอลไชน่าคัพปี 2019 ซึ่งไทยเอาชนะไปได้ 1-0 จากประตูโทนของ ชนาธิป สรงกระสินธ์
การหวนคืนราชมังฯ ของทัพช้างศึกในรอบ 5 ปี
อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของเกมนัดนี้คือการได้เห็นทัพช้างศึกกลับมาเล่นในสนามราชมังคลากีฬาสถานในรอบ 5 ปี โดยแมตช์ล่าสุดที่ทีมชาติไทยลงสัมผัสสนามแห่งนี้คือศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2018 ที่พบกับทีมชาติมาเลเซีย
นอกเหนือจากนั้น การกลับมาเล่นในราชมังฯ นัดนี้ของทัพช้างศึก ถือว่ามาในจังหวะที่ดีและน่าสนใจไม่น้อย เพราะสถิติระหว่างไทยกับจีนที่สนามแห่งนี้ เป็นทีมไทยที่มีผลงานเหนือกว่า โดยแข่งขันกับจีนที่ราชมังฯ ทั้งหมด 3 ครั้ง ไทยชนะได้ถึง 2 ครั้ง และแพ้ไปแค่ 1 ครั้งเท่านั้น
ทำไม 3 แต้มแรกกับจีนถึงสำคัญ?
เมื่อหันกลับมามองในภาพรวมกลุ่ม C ซึ่งประกอบด้วยทีมชาติเกาหลีใต้, ไทย, จีน และสิงคโปร์
ชัดเจนว่าทีมชาติจีนคือคู่แข่งที่เบียดกับทีมไทยในการตัดเชือกเข้ารอบสาม หรือ 18 ทีมสุดท้าย ดังนั้นการได้เล่นในราชมังฯ และเก็บ 3 แต้มจากจีนเพื่อเปิดหัวศึกคัดบอลโลกหนนี้จึงมีความสำคัญมาก
เรื่องนี้ บอ.บู๋-บูรณิจฉ์ รัตนวิเชียร นักเขียนข่าวกีฬาและคอลัมนิสต์ในเครือสยามสปอร์ต เคยพูดเอาไว้ในรายการ THE STANDARD NOW ว่าถ้าวัดจากชื่อชั้นและศักดิ์ศรีทีมชาติไทยยังเป็นรอง เป็นรองเกือบทุกเหลี่ยมมุม แต่ ณ ปัจจุบัน ฟอร์มของทีมชาติจีนตกลงมาเยอะ ทำให้ทีมไทยมีโอกาสดีที่จะเก็บ 3 แต้มจากเกมนี้ได้
“ผมมองว่าตอนนี้ทีมชาติไทยสามารถเอาชนะจีนได้ เอาชนะด้วยฟอร์มการเล่นส่วนตัวที่ไม่ได้ชนะแบบไปตั้งรับและสวนกลับ เราสามารถเอาชนะได้ด้วยศักยภาพของนักเตะชุดนี้ ฉะนั้นเราต้องใช้ความเป็นเจ้าบ้านให้ได้เปรียบที่สุด ดังนั้นแฟนบอลต้องเข้าไปดู ต้องเข้าไปส่งเสียงเชียร์กดดันทีมคู่แข่ง และให้กำลังใจนักเตะทีมชาติไทยในสนามให้มากที่สุด
“ถ้าเราเอาชนะจีนนัดนี้ได้ผมว่าเราจะผ่านเข้ารอบสุดท้ายของการคัดเลือกได้ เอาชนะจีนในบ้านนัดนี้แล้วไปเสมอกับจีนที่นอกบ้านได้ แต่สำหรับนัดแรกเราแพ้ไม่ได้ ถ้าแพ้เท่ากับจบเลย ถ้าเสมอก็ยังไม่ดีเท่าไร เราจะเสียเปรียบ เพราะเรามีโปรแกรมต้องออกไปเยือนจีน ฉะนั้นทีมชาติไทยต้องชนะให้ได้
“แฟนบอลเป็นผู้เล่นคนที่ 12 ซึ่งก่อนหน้านี้เราอาจจะรู้สึกโกรธการทำหน้าที่ของผู้บริหาร แต่สำหรับเกมอันนี้เราต้องแยกแยะเลย จะงอนหรือจะอะไรก็ตามแต่ เราต้องเข้าไปเชียร์กันเยอะๆ” บอ.บู๋ บูรณิจฉ์ กล่าว
ทั้งนี้ แฟนบอลยังสามารถซื้อตั๋วเข้าชมการแข่งขันระหว่างทีมชาติไทยพบกับทีมชาติจีน ในวันที่ 16 พฤศจิกายน เวลา 19.30 น. ที่สนามราชมังฯ ได้ทาง THAITICKETMAJOR หรือที่ลิงก์นี้ bit.ly/3Soe348 หรือชมการถ่ายทอดสดทางช่องไทยรัฐทีวี กดหมายเลข 32