×

พรีวิว: ไทย vs. จีน ก้าวแรกศึกคัดบอลโลก 2026 ทัพช้างศึกมีลุ้นแค่ไหน?

15.11.2023
  • LOADING...
ไทย vs. จีน

พรุ่งนี้!! (16 พฤศจิกายน)

 

แฟนบอลจะได้ฤกษ์ประสานใจรวมเป็นหนึ่ง เพื่อส่งแรงใจเชียร์ฟุตบอลทีมชาติไทยที่มีคิวลงสนามเกมฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย (กลุ่ม C) นัดแรก พบกับทีมชาติจีน ในเวลา 19.30 น.

 

และเช่นเคย THE STANDARD รวบรวมข้อมูลสำคัญๆ เพื่อพาแฟนบอลไปอุ่นเครื่อง ส่องความพร้อมของนักเตะทั้งฝั่งไทยและจีน รวมถึงสถิติต่างๆ ที่น่าสนใจมาฝากก่อนเกมนัดนี้ เกมที่เปรียบได้กับก้าวแรกสู่ฟุตบอลโลก 2026

 

รายชื่อขุนพลทีมชาติไทย

 

สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 โซนเอเชีย รอบคัดเลือก รอบ 2 กลุ่ม C แมตช์ที่ 1 และ 2 มาโน โพลกิง หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลชายทีมชาติไทย ได้ประกาศรายชื่อนักกีฬาทั้งหมด 26 คน ดังนี้

 

ผู้รักษาประตู⁣⁣

 

  • กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล (ราชบุรี เอฟซี)⁣
  • สรานนท์ อนุอินทร์ (เชียงราย ยูไนเต็ด)⁣
  • ปฏิวัติ คำไหม (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)⁣⁣

 

กองหลัง⁣⁣

 

  • ธีราทร บุญมาทัน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)⁣
  • พรรษา เหมวิบูลย์ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)⁣
  • เควิน ดีรมรัมย์ (การท่าเรือ เอฟซี)⁣
  • ศุภนันท์ บุรีรัตน์ (การท่าเรือ เอฟซี)⁣
  • เฉลิมศักดิ์ อักขี (การท่าเรือ เอฟซี)⁣
  • นิติพงษ์ เสลานนท์ (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)⁣
  • มานูเอล ทอม (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)⁣
  • สุพรรณ ทองสงค์ (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)⁣
  • เอเลียส ดอเลาะ (บาหลี ยูไนเต็ด)⁣
  • กฤษดา กาแมน (ชลบุรี เอฟซี)⁣
  • ทริสตอง โด (เมืองทอง ยูไนเต็ด)⁣⁣

 

กองกลาง⁣⁣

 

  • สารัช อยู่เย็น (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)⁣
  • ชนาธิป สรงกระสินธ์ (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)⁣
  • พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)⁣
  • วีระเทพ ป้อมพันธุ์ (เมืองทอง ยูไนเต็ด)⁣
  • รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)⁣
  • ปกเกล้า อนันต์ (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)⁣
  • บดินทร์ ผาลา (การท่าเรือ เอฟซี)⁣
  • เอกนิษฐ์ ปัญญา (อุราวะ เรด ไดมอนด์ส)⁣
  • สุภโชค สารชาติ (คอนซาโดเล ซัปโปโร)⁣⁣

 

กองหน้า⁣⁣

 

  • ธีรศิลป์ แดงดา (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)⁣
  • ศุภชัย ใจเด็ด (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)⁣
  • ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา (โอเอช ลูเวิน)⁣⁣

 

ไทย vs. จีน

 

🇹🇭 ความพร้อมทีมชาติไทย (อันดับ 112 ของโลก)

 

เกมคัดบอลโลกรอบนี้จะต่างจากเกมอุ่นเครื่องกับชาติยุโรป 2 นัดล่าสุดอย่างชัดเจน เพราะ มาโน โพลกิง จะได้ขุมกำลังนักเตะชั้นเลิศของเมืองไทยมารวมกันไว้มากที่สุด

 

นำโดยนักเตะมากประสบการณ์อย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีราทร บุญมาทัน, สารัช อยู่เย็น, ธีรศิลป์ แดงดา เป็นผู้เล่นแกนหลักที่ผสมกับแข้งดาวรุ่งที่ได้โอกาสไปค้าแข้งในลีกต่างแดนอย่าง เอกนิษฐ์ ปัญญา จากอุราวะ เรด ไดมอนด์ส, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา จากโอเอช ลูเวิน⁣⁣ และ สุภโชค สารชาติ จากคอนซาโดเล ซัปโปโร ซึ่งทุกคนบินมาสมทบกับทีมชาติไทยอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว

 

และจากลิสต์รายชื่อผู้เล่นข้างต้นบวกกับการได้เล่นในบ้านก่อนนัดแรก นักเตะชุดนี้ของมาโนมีลุ้นเก็บ 3 แต้มจากการเล่นดวลกับทีมชาติจีนได้มากพอสมควร ส่วนที่เหลือขึ้นอยู่กับกลยุทธ์และแผนการของทีม (โดยเฉพาะจากมาโน) ที่ได้ไปเตรียมกันมาในช่วงการฝึกซ้อมว่าเมื่อลงสนามจริงแต่ละคนจะเค้นฟอร์มเก่งออกมาช่วยทีมได้มากน้อยเพียงใด

 

ผลงาน 5 นัดหลังสุด I ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 1

 

  • เสมอ เอสโตเนีย 1-1
  • แพ้ จอร์เจีย 0-8
  • เสมอ อิรัก 2-2
  • ชนะ เลบานอน 2-1
  • ชนะ ฮ่องกง 1-0

 

ไทย vs. จีน

 

🇨🇳 ความพร้อมทีมชาติจีน (อันดับ 79 ของโลก)

 

ทีมชาติจีนชุดนี้มีการประกาศรายชื่อนักเตะออกมาแล้ว ภาพรวม อเล็กซานดาร์ ยานโควิช กุนซือทีมชาติจีน เลือกใช้นักเตะจากไชนีสซูเปอร์ลีกมากถึง 23 ราย และอีก 1 คนมาจากลีกประเทศตุรกี

 

นำโดย อู๋เหล่ย กองหน้าตัวเก๋าวัย 31 ปีจากเซี่ยงไฮ้พอร์ต, หยานจุนหลิง ผู้รักษาประตูจากเซี่ยงไฮ้พอร์ต และ อู๋เช่าฉง กองหลังจากทีมเกนเคลร์บีร์ลิกี (Genclerbirligi) ลีกประเทศตุรกี, เจียงก่วงไท่ (ชื่อเดิม: ไทอัส บราวนิง) กองหลังจากเซี่ยงไฮ้ และ หลี่เค่อ (ชื่อเดิม: นิโคลัส เยนนาริส) กองกลางจากปักกิ่งกั๋วอัน และเคยเป็นอดีตเด็กปั้นของอาร์เซนอล

 

ภาพรวมฟอร์มในช่วงหลังของทีมชาติจีนยังขึ้นๆ ลงๆ เดาทิศทางเรื่องของผลงานได้ยาก แต่ถึงอย่างนั้นจีนก็ยังเป็นอุปสรรคใหญ่ของทีมไทยอยู่เสมอเมื่อต้องดวลกัน และการที่พวกเขาเรียกเก็บตัวนักกีฬาตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าทีมจีนให้ความสำคัญกับการเตรียมทีมเพื่อเกมคัดบอลโลกรอบนี้มากพอสมควร โดยเฉพาะในเกมแรกที่ต้องบุกมาเยือนทีมชาติไทยถึงราชมังฯ ทัพมังกรจีนน่าจะเตรียมแผนเด็ดมาเน้นคว้าแต้มในไทยอย่างแน่นอน

 

ผลงาน 5 นัดหลังสุด ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2

 

  • แพ้ อุซเบกิสถาน 1-2
  • ชนะ เวียดนาม 2-0
  • แพ้ ซีเรีย 0-1
  • เสมอ มาเลเซีย 1-1
  • ชนะ ปาเลสไตน์ 2-0

 

ผลการดวลกัน 5 นัดหลังสุด

 

ผลการดวลกัน 5 นัดหลังที่พบกัน ทีมชาติไทยเอาชนะจีนได้ 2 ครั้ง และแพ้ 3 ครั้ง โดยทั้ง 2 ครั้งที่ชนะเกิดขึ้นในเกมอุ่นเครื่องทั้งหมด คือในปี 2013 โดยไทยเอาชนะไปถึง 5-1 ภายใต้การคุมทีมของโค้ชซิโก้-เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง

 

และอีกนัดในฟุตบอลไชน่าคัพปี 2019 ซึ่งไทยเอาชนะไปได้ 1-0 จากประตูโทนของ ชนาธิป สรงกระสินธ์

 

ไทย vs. จีน

 

การหวนคืนราชมังฯ ของทัพช้างศึกในรอบ 5 ปี

 

อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของเกมนัดนี้คือการได้เห็นทัพช้างศึกกลับมาเล่นในสนามราชมังคลากีฬาสถานในรอบ 5 ปี โดยแมตช์ล่าสุดที่ทีมชาติไทยลงสัมผัสสนามแห่งนี้คือศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2018 ที่พบกับทีมชาติมาเลเซีย

 

นอกเหนือจากนั้น การกลับมาเล่นในราชมังฯ นัดนี้ของทัพช้างศึก ถือว่ามาในจังหวะที่ดีและน่าสนใจไม่น้อย เพราะสถิติระหว่างไทยกับจีนที่สนามแห่งนี้ เป็นทีมไทยที่มีผลงานเหนือกว่า โดยแข่งขันกับจีนที่ราชมังฯ ทั้งหมด 3 ครั้ง ไทยชนะได้ถึง 2 ครั้ง และแพ้ไปแค่ 1 ครั้งเท่านั้น

 

ทำไม 3 แต้มแรกกับจีนถึงสำคัญ?

 

เมื่อหันกลับมามองในภาพรวมกลุ่ม C ซึ่งประกอบด้วยทีมชาติเกาหลีใต้, ไทย, จีน และสิงคโปร์

 

ชัดเจนว่าทีมชาติจีนคือคู่แข่งที่เบียดกับทีมไทยในการตัดเชือกเข้ารอบสาม หรือ 18 ทีมสุดท้าย ดังนั้นการได้เล่นในราชมังฯ และเก็บ 3 แต้มจากจีนเพื่อเปิดหัวศึกคัดบอลโลกหนนี้จึงมีความสำคัญมาก

 

เรื่องนี้ บอ.บู๋-บูรณิจฉ์ รัตนวิเชียร นักเขียนข่าวกีฬาและคอลัมนิสต์ในเครือสยามสปอร์ต เคยพูดเอาไว้ในรายการ THE STANDARD NOW ว่าถ้าวัดจากชื่อชั้นและศักดิ์ศรีทีมชาติไทยยังเป็นรอง เป็นรองเกือบทุกเหลี่ยมมุม แต่ ณ ปัจจุบัน ฟอร์มของทีมชาติจีนตกลงมาเยอะ ทำให้ทีมไทยมีโอกาสดีที่จะเก็บ 3 แต้มจากเกมนี้ได้

 

“ผมมองว่าตอนนี้ทีมชาติไทยสามารถเอาชนะจีนได้ เอาชนะด้วยฟอร์มการเล่นส่วนตัวที่ไม่ได้ชนะแบบไปตั้งรับและสวนกลับ เราสามารถเอาชนะได้ด้วยศักยภาพของนักเตะชุดนี้ ฉะนั้นเราต้องใช้ความเป็นเจ้าบ้านให้ได้เปรียบที่สุด ดังนั้นแฟนบอลต้องเข้าไปดู ต้องเข้าไปส่งเสียงเชียร์กดดันทีมคู่แข่ง และให้กำลังใจนักเตะทีมชาติไทยในสนามให้มากที่สุด

 

“ถ้าเราเอาชนะจีนนัดนี้ได้ผมว่าเราจะผ่านเข้ารอบสุดท้ายของการคัดเลือกได้ เอาชนะจีนในบ้านนัดนี้แล้วไปเสมอกับจีนที่นอกบ้านได้ แต่สำหรับนัดแรกเราแพ้ไม่ได้ ถ้าแพ้เท่ากับจบเลย ถ้าเสมอก็ยังไม่ดีเท่าไร เราจะเสียเปรียบ เพราะเรามีโปรแกรมต้องออกไปเยือนจีน ฉะนั้นทีมชาติไทยต้องชนะให้ได้

 

“แฟนบอลเป็นผู้เล่นคนที่ 12 ซึ่งก่อนหน้านี้เราอาจจะรู้สึกโกรธการทำหน้าที่ของผู้บริหาร แต่สำหรับเกมอันนี้เราต้องแยกแยะเลย จะงอนหรือจะอะไรก็ตามแต่ เราต้องเข้าไปเชียร์กันเยอะๆ” บอ.บู๋ บูรณิจฉ์ กล่าว

 

ทั้งนี้ แฟนบอลยังสามารถซื้อตั๋วเข้าชมการแข่งขันระหว่างทีมชาติไทยพบกับทีมชาติจีน ในวันที่ 16 พฤศจิกายน เวลา 19.30 น. ที่สนามราชมังฯ ได้ทาง THAITICKETMAJOR หรือที่ลิงก์นี้ bit.ly/3Soe348 หรือชมการถ่ายทอดสดทางช่องไทยรัฐทีวี กดหมายเลข 32

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X