ประเทศไทย เวียดนาม อินเดีย และกัมพูชา กลายเป็นประเทศที่ได้รับผลประโยชน์จากการส่งออกชิปไปยังสหรัฐอเมริกา หลังการผลิตเซมิคอนดักเตอร์เริ่มย้ายออกจากศูนย์กลางดั้งเดิม เช่น ไต้หวันและจีน
รายงานของ Bloomberg ระบุว่า การนำเข้าชิปของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 17% จากปีที่แล้วเป็น 4.86 พันล้านดอลลาร์ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยเอเชียคิดเป็น 83% ของทั้งหมด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Samsung ปรับแผนเตรียมลดการผลิตชิปหน่วยความจำ หลังบริษัททำกำไรแย่ที่สุดในรอบ 14 ปี
- ญี่ปุ่นดึงกลยุทธ์ ‘Made in Japan’ ปั้นเศรษฐกิจอีกครั้ง ปักธงเพิ่มยอดขายไมโครชิป 3 เท่าในปี 2030
- จีนเปิดฉาก ‘สงครามชิป’ รอบใหม่! สั่งทบทวนการนำเข้าชิป Micron จากสหรัฐฯ อ้างความเสี่ยงด้านความมั่นคง
อินเดียมียอดจัดส่งเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้น 34 เท่าเป็นมูลค่า 152 ล้านดอลลาร์ ขณะที่กัมพูชาเติบโตอย่างน่าประทับใจถึง 698% ส่วนเวียดนามและไทยซึ่งเดิมมีส่วนแบ่งที่ใหญ่อยู่แล้ว ได้เพิ่มขึ้น 75% และ 62% ตามลำดับ
กระนั้นเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ แสดงความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการที่ประเทศของตนพึ่งพาซัพพลายเออร์จากต่างประเทศมากเกินไป เช่น ไต้หวันและเกาหลีใต้ สำหรับการผลิตชิปที่ล้ำสมัย
ตัวเลขในเดือนกุมภาพันธ์เป็นข้อมูลล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ กระจายห่วงโซ่อุปทานอิเล็กทรอนิกส์ของตน รวมถึงผ่านการเคลื่อนไหวต่างๆ เช่น การย้ายฐานการผลิต iPhone ของ Apple Inc. จากจีนไปยังสถานที่ต่างๆ เช่น อินเดีย
เซมิคอนดักเตอร์เป็นส่วนประกอบอัจฉริยะที่สำคัญในทุกสิ่ง ตั้งแต่คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ ไปจนถึงเครื่องใช้ในบ้าน และความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ลงระหว่างวอชิงตันและปักกิ่งได้บังคับให้แต่ละประเทศต้องทบทวนกลยุทธ์การจัดหาใหม่
ทำให้ไต้หวันซึ่งมักเป็นจุดสนใจระหว่างสองประเทศนี้ เพิ่มการส่งออกไปยังสหรัฐฯ 4.3% จากปีที่แล้ว และคิดเป็น 15% ของการนำเข้าทั้งหมด
อ้างอิง: