เนื่องในวันครูแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันที่ 16 มกราคมของทุกปี Rocket Media Lab ร่วมกับมูลนิธิแพธทูเฮลท์ จัดทำแบบสอบถามครูผู้สอนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ทั่วประเทศ ในช่วงวันที่ 9-15 มกราคม 2567 เพื่อสำรวจความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นกฎเกณฑ์ในโรงเรียน การเรียนการสอน หรือนักเรียน
จำนวนครูที่ตอบแบบสอบถามออนไลน์ทั่วประเทศทั้งหมด 303 คน แยกเป็น
- เพศชาย 71 คน
- หญิง 220 คน
- LGBTQIA+ 7 คน
- ไม่ต้องการระบุเพศ 5 คน
แยกตามลำดับชั้น
- ครูระดับชั้นประถมศึกษา 118 คน
- ครูระดับชั้นมัธยมศึกษา 171 คน
- ปวช. 14 คน
แยกตามพื้นที่ของครูที่ตอบแบบสอบถาม
- ครูในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากที่สุด 114 คน คิดเป็น 37.62%
- ภาคกลาง 74 คน คิดเป็น 24.42%
- ภาคเหนือ 70 คน คิดเป็น 23.10%
- ภาคใต้ 36 คน คิดเป็น 11.88%
- ภาคตะวันตก 5 คน คิดเป็น 1.65%
- ภาคตะวันออก 4 คน คิดเป็น 1.32%
สถานที่ใดในโรงเรียนที่อยากให้ปรับปรุงมากที่สุด
- ครูอยากให้โรงเรียนปรับปรุง ‘ห้องน้ำ’ มากที่สุด 134 คน คิดเป็น 44.22%
- ห้องเรียน 70 คน คิดเป็น 23.10%
- ห้องสมุด 23 คน คิดเป็น 7.59%
- โรงอาหาร 22 คน คิดเป็น 7.26%
- สนามกีฬา 19 คน คิดเป็น 6.27%
- ห้องพยาบาล 14 คน คิดเป็น 4.62%
- ห้องพักครู 11 คน คิดเป็น 3.63%
- อื่นๆ 10 คน คิดเป็น 3.30% เช่น ห้องคอมพิวเตอร์ ที่จอดรถ อาคารเรียน และบางส่วนก็เขียนตอบว่าทุกข้อ
นอกจากนี้ยังพบว่า ไม่ว่าจะเป็นครูชั้นประถมศึกษา มัธยมศึกษา หรือ ปวช. ต่างก็เลือกให้ห้องน้ำเป็นสถานที่ที่อยากให้ปรับปรุงมากที่สุด และเมื่อพิจารณาเป็นรายภาคก็พบว่า ครูทุกภาคต่างลงความเห็นเหมือนกันว่าอยากให้โรงเรียนปรับปรุงห้องน้ำมากที่สุด
กฎที่ครูไม่ชอบที่สุด
- ครูไม่ชอบการแต่งกายประจำวันมากที่สุด 74 คน คิดเป็น 24.42%
- การเช็กชื่อก่อนเข้าแถวและการใส่กระโปรง (ยกเว้นครูพละ) 63 คน คิดเป็น 20.79%
- การแต่งกายผ้าไทย 47 คน คิดเป็น 15.51%
- อื่นๆ 56 คน คิดเป็น 18.48% เช่น การเข้าเวรเสาร์-อาทิตย์ การสแกนนิ้วหลังเลิกเรียน และมีจำนวนหนึ่งที่ตอบว่า ไม่มีปัญหากับกฎระเบียบ
หากมองรายภาคพบว่า การต้องใส่กระโปรง (ยกเว้นครูพละ) เป็นกฎที่ครูในภาคกลางไม่ชอบที่สุด ส่วนการเช็กชื่อก่อนเข้าแถวเป็นกฎที่ครูภาคเหนือไม่ชอบมากที่สุด ส่วนการแต่งกายผ้าไทยเป็นกฎที่ครูภาคใต้ไม่ชอบมากที่สุด
หากมองในรายสังกัดของโรงเรียน ทั้งครูโรงเรียนรัฐและเอกชนไม่ชอบการแต่งกายประจำวันมากที่สุด นอกจากนี้หากมองครูประถมและมัธยมพบว่า ครูประถมไม่ชอบการเช็กชื่อก่อนเข้าแถวเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนครูมัธยมยังคงยกให้การแต่งกายประจำวันเป็นกฎที่ไม่ชอบมากที่สุด
หมายเหตุ: การแต่งกายประจำวันคือการกำหนดชุดการแต่งกายของครูในแต่ละวัน เช่น วันจันทร์ – ชุดข้าราชการ (สีกากี), วันอังคาร – ชุดเสื้อกีฬา, วันพุธ – ชุดสุภาพ และวันพฤหัส – ชุดลูกเสือ เป็นต้น
สิ่งที่ไม่อยากให้นักเรียนทำมากที่สุด
- ครูไม่อยากให้นักเรียนเล่นโทรศัพท์ในเวลาเรียนมากที่สุด 101 คน คิดเป็น 33.33%
- พูดจาหยาบคาย 88 คน คิดเป็น 29.04%
- ล้อเลียนเรื่องกายภาพ เพศ ชาติพันธุ์ และสำเนียง 54 คน คิดเป็น 17.82%
- นินทาครูลงโซเชียลมีเดีย 17 คน คิดเป็น 5.61%
- โพสต์คลิป / ภาพถ่าย ของครูลงโซเชียลมีเดีย 15 คน คิดเป็น 4.95%
- การถึงเนื้อถึงตัว 15 คน คิดเป็น 4.95%
- อื่นๆ 13 คน คิดเป็น 4.29% เช่น นักเรียนมาสาย การไม่ตั้งใจเรียน และบางส่วนก็เขียนตอบว่าทุกข้อ
หากพิจารณารายภาคพบว่า ครูภาคเหนือและภาคใต้ไม่อยากให้นักเรียนพูดจาหยาบคายมากที่สุด เช่นเดียวกับการจำแนกตามสังกัดของโรงเรียน ครูโรงเรียนเอกชนไม่อยากให้นักเรียนพูดจาหยาบคายมากที่สุด นอกจากนี้ครูประถมให้การพูดจาหยาบคายเป็นสิ่งที่ไม่อยากให้นักเรียนทำมากที่สุด
สิ่งที่ครูอยากได้มากที่สุด
- ครูอยากให้เพิ่มเงินเดือน / ค่าวิทยฐานะ มากที่สุด 149 คน คิดเป็น 49.17%
- มาตรฐานการขึ้นเงิน 45 คน คิดเป็น 14.85%
- ค่าสื่อการสอน 32 คน คิดเป็น 10.56%
- ค่าทำงานล่วงเวลา 25 คน คิดเป็น 8.25%
- รถโรงเรียนอำนวยความสะดวกสำหรับกิจกรรมนอกสถานที่ 13 คน คิดเป็น 4.29%
- ค่าอยู่เวร 10 คน คิดเป็น 3.30%
- เพิ่มค่าเบี้ยเลี้ยง 6 คน คิดเป็น 1.98%
- ค่าอินเทอร์เน็ต 5 คน คิดเป็น 1.65%
- อื่นๆ 18 คน คิดเป็น 5.94% เช่น ขอให้มีเจ้าหน้าที่การเงินและพัสดุโดยตรง ขอขวัญและกำลังใจ การลดภาระงานที่ไม่เกี่ยวกับการเรียนการสอน และการบรรจุข้าราชการเมื่ออายุงานถึงเกณฑ์
นอกจากนี้พบว่า ไม่ว่าจะครูประถม-มัธยม ครูโรงเรียนรัฐ-เอกชน ครูทุกภาค หรือทุกเพศ ต่างก็เลือกให้การเพิ่มเงินเดือน / ค่าวิทยฐานะ เป็นสิ่งที่ครูอยากได้มากที่สุด
สิ่งที่ครูไม่อยากให้มีมากที่สุด
- ครูไม่อยากอยู่เวรนอกเวลาเรียนมากที่สุด 124 คน คิดเป็น 40.92%
- งานการเงิน 37 คน คิดเป็น 12.21%
- งานพัสดุ 33 คน คิดเป็น 10.89%
- งานประกันคุณภาพ 19 คน คิดเป็น 6.27%
- งานธุรการ 17 คน คิดเป็น 5.61%
- งานอบรม 15 คน คิดเป็น 4.95%
- งานพิธีการ 12 คน คิดเป็น 3.96%
- งานวัดผลประเมินผล 3 คน คิดเป็น 0.99%
- งานทะเบียน 2 คน คิดเป็น 0.66%
- งานทะเบียนนักเรียน 2 คน คิดเป็น 0.66%
- งานโภชนาการ 2 คน คิดเป็น 0.66%
- งานสารสนเทศ 2 คน คิดเป็น 0.66%
- งานอนามัย 2 คน คิดเป็น 0.66%
- งานอาคารสถานที่ 1 คน คิดเป็น 0.33%
- อื่นๆ 32 คน คิดเป็น 10.56% เช่น งาน PLC (การทำชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ) และส่วนใหญ่ตอบว่า ทุกงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอน
นอกจากนี้ยังพบว่า ครูทุกภาค ทุกระดับชั้น เลือกไม่อยากอยู่เวรนอกเวลามากที่สุด ในขณะที่อันดับ 2 นั้นหากดูรายภาคจะพบว่า ภาคเหนือเป็นเรื่องงานพัสดุ ส่วนภาคใต้เป็นเรื่องงานการเงินกับงานการประกันคุณภาพที่มีการเลือกในจำนวนเท่ากัน
กิจกรรมที่ครูไม่อยากให้มีที่สุด
- พานักเรียนไปแข่งขันนอกสถานที่เป็นกิจกรรมที่ครูไม่อยากให้มีที่สุด 80 คน คิดเป็น 26.40%
- เข้าค่ายลูกเสือ 48 คน คิดเป็น 15.84%
- สมุดบันทึกความดี 42 คน คิดเป็น 13.86%
- กิจกรรมวันพ่อวันแม่ 37 คน คิดเป็น 12.21%
- กิจกรรมค่ายธรรมะ 30 คน คิดเป็น 9.90%
- กิจกรรมหน้าเสาธง 12 คน คิดเป็น 3.96%
- กิจกรรมสวดมนต์ 11 คน คิดเป็น 3.63%
- กิจกรรมจิตอาสา 5 คน คิดเป็น 1.65%
- อื่นๆ 38 คน คิดเป็น 12.54% เช่น กีฬาสี และกิจกรรม PLC (การทำชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ) กิจกรรมแนะแนว งานประเมิน และบางส่วนตอบว่า ไม่มีกิจกรรมไหนที่ไม่อยากให้มี
เมื่อพิจารณาสัดส่วนผู้เลือกกิจกรรมพานักเรียนไปแข่งขันนอกสถานที่พบว่า เป็นครูที่ทำงานมากกว่า 20 ปีมากที่สุด 25 คน คิดเป็น 31.25% สัดส่วนน้อยที่สุดคือ ครูที่ทำงานน้อยกว่า 1 ปี มี 1 คน คิดเป็น 1.25% โดยที่อันดับ 2 เป็นครูซึ่งทำงานมาแล้ว 5-10 ปี มี 17 คน คิดเป็น 21.25% และอันดับ 3 เป็นครูที่ทำงานมาแล้ว 15-20 ปี 16 คน คิดเป็น 20% ของผู้ที่เลือกคำตอบนี้
วิชาที่ครูอยากให้ยกเลิกที่สุด
- วิชาลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด และบำเพ็ญประโยชน์ เป็นวิชาที่ครูอยากยกเลิกมากที่สุด 114 คน คิดเป็น 37.62%
- วิชาชุมนุม / ชมรม 57 คน คิดเป็น 18.81%
- วิชาหน้าที่พลเมือง 46 คน คิดเป็น 15.18%
- วิชานาฏศิลป์ 18 คน คิดเป็น 5.94%
- วิชาพุทธศาสนา 12 คน คิดเป็น 3.96%
- วิชาพลศึกษา 4 คน คิดเป็น 1.32%
- อื่นๆ 52 คน คิดเป็น 17.16% เช่น สุขศึกษา ศิลปะ และส่วนใหญ่เขียนตอบว่า ไม่มีวิชาที่อยากยกเลิก
เมื่อพิจารณาครูที่อยากให้ยกเลิกวิชาลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด และบำเพ็ญประโยชน์ พบว่า ทุกช่วงอายุการทำงานเลือกตอบข้อนี้เป็นสัดส่วนมากที่สุด ครูที่ทำงานมากกว่า 20 ปี มีสัดส่วน 29.76% ของจำนวนครูในกลุ่มนี้ ครูที่ทำงาน 15-20 ปี มี 39.02% ของจำนวนครูในกลุ่มนี้ ครูที่ทำงาน 10-15 ปี มี 37.25% ของจำนวนครูในกลุ่มนี้ ครูที่ทำงาน 5-10 ปี มี 40.48% ของจำนวนครูในกลุ่มนี้ 1-5 ปี มี 42.55% ของจำนวนครูในกลุ่มนี้ น้อยกว่า 1 ปี มี 44.74% ของจำนวนครูในกลุ่มนี้
สิ่งที่อยากเห็นผู้บริหารโรงเรียนทำที่สุด
- ครูอยากให้ยกเลิกนโยบายการประกันเกรด ปลอด 0, ร, มส ของนักเรียนมากที่สุด 123 คน คิดเป็น 40.59%
- ไม่เลือกปฏิบัติ 100 คน คิดเป็น 33%
- ยกเลิกการส่งไปอบรมที่ไม่จำเป็น 34 คน คิดเป็น 11.22%
- ไม่ใช้ให้ทำงานส่วนตัว 32 คน คิดเป็น 10.56%
- อื่นๆ 14 คน คิดเป็น 4.62% เช่น รับฟังความคิดเห็นของครู มีแผนในการทำงาน บางคนเขียนตอบว่า ทุกข้อรวมกัน
เมื่อพิจารณาครูที่ตอบว่า ต้องการให้ยกเลิกนโยบายประกันเกรดพบว่า จากผู้ตอบ 123 คน เป็นครูมัธยมมากที่สุด 87 คน หรือคิดเป็น 50.29% ของครูมัธยมทั้งหมด 171 คน ครูประถม 30 คน หรือคิดเป็น 25.42% ของครูประถมทั้งหมด 118 คน ครู ปวช. 6 คน หรือคิดเป็น 42.85% ของครู ปวช. ทั้งหมด 14 คน
หากจำแนกผู้ที่เลือกข้อนี้ตามระยะเวลาในการทำงานพบว่า ครูที่ทำงานมานานมากกว่า 20 ปี มีสัดส่วนมากที่สุด 30 คน คิดเป็น 24.59% ของครูที่เลือกข้อนี้ รองลงมา ครูที่ทำงาน 1-5 ปี 24 คน คิดเป็น 19.67% และอันดับ 3 ครูที่ทำงาน 15-20 ปี 19 คน คิดเป็น 15.57%
สิ่งที่อยากเห็นผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการทำที่สุด
- ครูอยากให้ลดภาระงานเอกสารที่ต้องทำส่งกระทรวงมากที่สุด 146 คน คิดเป็น 48.18%
- เพิ่มค่าตอบแทนครู 62 คน คิดเป็น 20.46%
- ปรับระบบการประเมินผลการศึกษาและการประกันคุณภาพ 38 คน 12.54%
- เพิ่มจำนวนครูให้เหมาะสมกับนักเรียน 35 คน 11.55%
- มีระบบรับเรื่องร้องเรียนตรงถึงรัฐมนตรี 9 คน 2.97%
- อื่นๆ เช่น เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุน เพื่อจัดการเอกสารที่ไม่จำเป็นกับการสอน
เมื่อพิจารณาเฉพาะการลดภาระงานเอกสารที่ต้องทำส่งกระทรวงพบว่า เป็นครูที่ทำงานมานานกว่า 20 ปี มากที่สุด 37 คน คิดเป็น 25.34% รองลงมา ครูที่ทำงานมาแล้ว 10-15 ปี 28 คน คิดเป็น 19.17% อันดับ 3 ครูที่ทำงานน้อยกว่า 1 ปี 23 คน คิดเป็น 15.75%
ดูข้อมูลฉบับเต็มได้ที่: https://rocketmedialab.co/database-teacher-q1-2024