วันนี้ (24 ธันวาคม) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ดำเนินการรับตัว ลักษณา (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์ภายหลังถูกจับกุมตัวได้ที่ไต้หวัน และส่งตัวกลับมาดำเนินคดีตามหมายจับในประเทศไทย โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าล่อลวงบุตรสาวแท้ๆ ไปบังคับค้าประเวณีที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์ รองผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ เปิดเผยรายละเอียดของคดีว่า เนื่องด้วยเป็นคดีที่เหตุเกิดนอกราชอาณาจักร ทางอัยการสูงสุดจึงได้มอบหมายให้อัยการแผนกคดีค้ามนุษย์เข้าร่วมเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน
โดยจากการสืบสวนพบว่า เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้ออกอุบายล่อลวงคนในครอบครัวว่า จะพาบุตรสาววัย 12 ปี เดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นเพื่อช่วยดูแลน้องในช่วงปิดภาคเรียน ทว่าเมื่อเดินทางไปถึงกลับนำบุตรสาวไปส่งยังร้านนวดแห่งหนึ่งในเขตบุนเคียว จังหวัดโตเกียว ซึ่งเป็นสถานประกอบการที่แฝงการบริการทางเพศ
ต่อมาในเดือนกันยายน เด็กหญิงผู้เสียหายได้ตัดสินใจหลบหนีออกจากร้านนวดดังกล่าว และเข้าขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองโตเกียว จนนำไปสู่การประสานความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อช่วยเหลือผู้เสียหายและออกหมายจับผู้ก่อเหตุ ซึ่งในขณะนั้นผู้ต้องหาได้หลบหนีออกจากประเทศญี่ปุ่นไปยังไต้หวัน ก่อนจะถูกทางการไต้หวันจับกุมและส่งตัวกลับมายังสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อดำเนินคดี
ขณะที่ญาติของผู้ต้องหาเปิดเผยว่า ปกติผู้ต้องหามีอาชีพเป็นหมอนวดและเดินทางไปทำงานต่างประเทศบ่อยครั้ง จึงไม่ได้เอะใจเมื่อผู้ต้องหาอ้างว่าจะพาหลานสาวไปเที่ยวเป็นเวลาหนึ่งเดือน จนกระทั่งขาดการติดต่อและทราบภายหลังว่าหลานถูกล่อลวงไปกระทำอนาจาร
ในส่วนของการดำเนินคดี พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาหนัก ประกอบด้วย ความผิดฐานค้ามนุษย์ และ เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น โดยกระทำต่อเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี แม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยระบุว่าพาลูกสาวไปทำงานในร้านนวดแฝงบริการทางเพศจริง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินกระบวนการตามกฎหมายต่อไป


