หุ้นไทยวิ่งรับปัจจัยบวกในประเทศ โดยวันนี้ (29 มีนาคม) ปิดการซื้อขายที่ 1,583.89 จุด ระหว่างวันไต่แตะระดับสูงสุดที่ 1,592.47 จุด นักลงทุนตอบรับข่าวบวกแนวโน้มเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยวในประเทศฟื้นหลังรัฐบาลเดินหน้าโครงการโครงสร้างพื้นฐาน-เปิดแผนจัดหาและกระจายวัคซีน สร้างความเชื่อมั่นแก่เอกชนและตลาดทุน
วันนี้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,583.89 จุด เพิ่มขึ้น 9.03 จุด หรือ 0.57% อย่างไรก็ตาม มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบางที่ 71,308 ล้านบาท
ณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นไทยวันนี้ตอบรับปัจจัยบวกในประเทศ สะท้อนจากหุ้นที่มูลค่าการซื้อขายสูงสุดและหุ้นที่ราคาปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ส่วนมากจะอยู่ในธีม Domestic Play โดยมีความเชื่อมั่นในเรื่องการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และการจัดหารวมทั้งกระจายวัคซีนเป็นปัจจัยสนับสนุน หลังจากที่ทั้งนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกมาตอกย้ำการทำงานอย่างใกล้ชิดในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงช่วงเช้าวันนี้
อย่างไรก็ตาม จากการติดตามดัชนีพบว่า เคยทดสอบระดับ 1,580 จุดมาหลายครั้ง หลังจากนั้นจะปรับฐานลงไป เนื่องจากนักลงทุนยังรอปัจจัยบวกระลอกใหม่มาสนับสนุนแรงซื้อและผลักดันดัชนี
จึงประเมินว่ารอบนี้อาจจะได้เห็นดัชนีไต่ระดับทะลุ 1,600 จุดได้ แต่ก็ย่อตัวลงในท้ายที่สุดเนื่องจากมูลค่าการซื้อขายไม่หนาแน่นพอ ประกอบกับในตอนนี้ยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ มากระตุ้นตลาด
ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยภายนอกที่ต้องติดตาม อาทิ เหตุการณ์เรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ Ever Given ปิดขวางเส้นทางการสัญจรในคลองสุเอซ ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางการค้าทางทะเลที่สำคัญที่สุดของโลก, ท่าทีของสหรัฐอเมริกาที่มีต่อจีนในอนาคตอันใกล้ หลังจากที่จีนมีความร่วมมือกับอิสราเอล
ณัฐพลกล่าวว่า ปัจจัยภายนอกจะยังคงกดดันหุ้นไทยต่อไปทั้งในเชิง Sentiment ในประเทศ และ Fund Flow จากต่างประเทศ โดยเหตุการณ์เรือบรรทุกสินค้ากีดขวางเส้นทางสัญจรที่ผลักดันให้ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มา วันนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง เช่นเดียวกับการตอบรับของหุ้นพลังงาน ขณะที่ท่าทีระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่จะกระทบต่อทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และการกำหนดนโยบายการเงิน-การคลังต่างๆ ซึ่งจะกระทบต่อกลุ่มแบงก์ในท้ายที่สุด
“หากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ยังไม่ปลดล็อกทางบวก หรือไม่มีความชัดเจน หุ้นไทยก็จะเคลื่อนไหวแบบนี้สักระระยะ คือมีแรงปรับขึ้นสูงกว่า 1,600 จุดได้ แต่ฐานไม่แข็งแรง”
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า