ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัวขึ้นได้ในช่วงบ่าย (ตามเวลาไทย) หลังจากที่ซึมลงในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ขณะที่ดัชนี SET กลับมาแตะระดับ 1,700 จุด ได้อีกครั้ง หลังจากรัสเซียส่งสัญญาณว่าอาจจะไม่บุกยูเครน
ตลาดหุ้นรัสเซียอย่าง MOEX และ RTSI ที่เปิดตลาดในวันนี้ (15 กุมภาพันธ์) และปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 3.5% และ 5.5% ตามลำดับ ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับเพิ่มขึ้นได้เป็นส่วนใหญ่ โดยตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศยุโรปเพิ่มขึ้นราว 1% เช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทย (SET) ในภาคบ่ายที่วิ่งกลับมาสู่ระดับ 1,700 จุด อีกครั้ง
ภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า การที่รัสเซียเคลื่อนกำลังทหารกลับสู่ฐานทัพเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนให้ตลาดหุ้นทั่วโลกและตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวกลับมาในช่วงบ่ายนี้ ซึ่งปัจจัยในเรื่องเกี่ยวกับรัสเซียจะเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญต่อแนวโน้มของตลาดหุ้นในระยะข้างหน้า โดย 4 ตัวบ่งชี้ ประกอบไปด้วย
- การเจรจาทางการทูตของรัสเซีย ซึ่งการเคลื่อนกำลังทหารกลับน่าจะเป็นการส่งสัญญาณว่ารัสเซียจะเน้นการเจรจามากกว่า
- ราคาน้ำมันดิบและราคาทองคำ ซึ่งล่าสุดปรับตัวลงพร้อมกัน สะท้อนว่าเม็ดเงินทั่วโลกมองว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้น
- ดัชนีตลาดหุ้นรัสเซียล่าสุดฟื้นตัวได้ค่อนข้างแรง หนุนให้หุ้นไทยโดยเฉพาะกลุ่มบิ๊กแคป ได้แก่ สื่อสาร ค้าปลีก และแบงก์ ปรับตัวขึ้นแรง
- ค่าเงินรูเบิลของรัสเซียกลับมาแข็งค่าอีกครั้งเทียบกับเงินดอลลาร์ สะท้อนว่าตลาดมีมุมมองเชิงลบลดลงต่อความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน
“เชื่อว่าหุ้นไทยมีโอกาสจะขยับไปทดสอบ 1,720-1,730 จุด ในขณะที่ Fund Flow ยังไหลเข้าหุ้นไทยต่อเนื่อง แต่ความผันผวนจะยังไม่หมด สิ่งที่ต้องจับตาคือ Indicators ทั้ง 4 ที่ได้กล่าวไปนี้ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าจะไม่เห็นการเคลื่อนกำลังทหารเข้าไปในยูเครน” ภาดลกล่าว
ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติยังคงเข้าซื้อหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง โดยซื้อสุทธิมาแล้ว 7 วันทำการติดต่อกัน ตั้งแต่วันที่ 4-14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่ารวม 4.72 หมื่นล้านบาท ขณะที่นักลงทุนในประเทศและนักลงทุนสถาบันเป็นฝ่ายขายสุทธิ กลุ่มละประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท และตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติซื้อสะสมหุ้นไทยอยู่ทั้งสิ้น 6.16 หมื่นล้านบาท
ด้าน กรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน มองว่า ปัจจัยสำคัญที่หนุนให้ตลาดฟื้นตัวมาจากเรื่องของความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ลดลง ประกอบกับปัจจัยภายในประเทศที่ภาครัฐมีมติส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ส่งผลให้ตลาดฟื้นตัวได้ดีกว่าที่คาดหมายไว้
“วันพฤหัสบดี (17 กุมภาพันธ์) คงจะต้องติดตามเรื่องของภูมิรัฐศาสตร์กันต่อ หากยังผ่อนคลายต่อเนื่อง เชื่อว่าจะมีแรงส่งให้หุ้นไทยปรับขึ้นต่อเนื่อง โดยประเมินกรอบดัชนี SET ระยะสั้นที่ 1,708-1,712 จุด ส่วนแนวรับที่ 1,680 จุด”
ขณะที่เม็ดเงินลงทุนต่างชาติยังมีโอกาสไหลเข้าหุ้นไทยต่อเนื่อง จากที่ต่างชาติปรับน้ำหนักหุ้นไทยขึ้น และยังถือครองต่ำกว่าในอดีตค่อนข้างมาก ประกอบกับเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มฟื้นตัวตามวัฏจักร