หุ้นไทยวันนี้ (9 มีนาคม) รีบาวด์ขึ้น 24 จุด ดัชนีปิดที่ 1,643.64 จุด ตอบรับกระแสข่าวเชิงบวกของสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังจากมีรายงานข่าวล่าสุดระบุว่า ยูเครนอาจจะไม่สมัครเข้าเป็นสมาชิกขององค์การ NATO ซึ่งเป็นไปตามหนึ่งในข้อเรียกร้องของรัสเซีย ด้าน บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) คาดพรุ่งนี้หุ้นไทยปรับขึ้นต่อแต่แกว่งตัวกรอบแคบ ตลาดยังติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ และผลการเจรจาของรัสเซียและยูเครนรอบที่ 4
ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยวันนี้ (9 มีนาคม) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ 1,643.64 จุด เพิ่มขึ้น 24.54 จุด หรือ +1.52% มูลค่าการซื้อขาย 115,051.73 ล้านบาท
โดยนักลงทุนสถาบันในประเทศกลับมาเป็นผู้ซื้อสุทธิ 5,140.03 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 305.04 ล้านบาท แต่นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 3,986.45 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปในประเทศขายสุทธิ 1,458.62 ล้านบาท
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก มีดังนี้
- KBANK ปิดที่ 159.50 บาท +3.50 บาท หรือ +2.24% มูลค่าการซื้อขาย 7,112.59 ล้านบาท
- PTTEP ปิดที่ 146 บาท -6.50 บาท หรือ -4.26% มูลค่าการซื้อขาย 6,734.34 ล้านบาท
- BBL ปิดที่ 134.50 บาท +2.50 บาท หรือ +1.89% มูลค่าการซื้อขาย 3,560.16 ล้านบาท
- AOT ปิดที่ 64.25 บาท +1.50 บาท หรือ +2.39% มูลค่าการซื้อขาย 3,200.21 ล้านบาท
- PTT ปิดที่ 38.75 บาท +0.50 บาท หรือ +1.31% มูลค่าการซื้อขาย 3,143.74 ล้านบาท
วิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโสนักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวด์กลับขึ้นมาได้ หลังจากมีสัญญาณเชิงบวกจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยมีกระแสข่าวล่าสุดรายงานว่ายูเครนอาจจะไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกขององค์การ NATO ซึ่งตรงกับหนึ่งในข้อเรียกร้องการยุติสงครามจากรัสเซีย จึงนับเป็นท่าทีเชิงบวกที่สำคัญ เนื่องจากจุดเริ่มต้นของข้อพิพาทและการปะทะกันของกองกำลังทหารมาจากเรื่องนี้
“จากกระแสข่าวล่าสุดเป็นสัญญาณเชิงบวกที่สำคัญ และเป็นการยอมรับเงื่อนไขสำคัญของรัสเซียด้วย ตลาดจึงคาดหวังว่าเงื่อนไขอื่นๆ ที่รัสเซียเรียกร้องมาจะได้พบกับทางออกในเร็วๆ นี้เช่นกัน” วิจิตรกล่าว
ขณะเดียวกัน ในเชิงเทคนิคแล้ว เมื่อวานนี้ (8 มีนาคม) ดัชนีหลุดระดับ 1,600 จุด ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญแต่รีบาวด์กลับขึ้นมาซื้อขายเหนือระดับ 1,600 จุดได้ สะท้อนว่าหุ้นไทยผ่านจุด Panic Sell ไปแล้ว ดังนั้นวันนี้จึงรีบาวด์ขึ้นต่อเนื่อง
สำหรับแนวโน้มดัชนีวันพรุ่งนี้ (10 มีนาคม) เชื่อว่าดัชนีจะรีบาวด์ต่อเนื่อง แต่จะเคลื่อนไหวลักษณะแกว่งออกข้าง (Side Way Up) โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1,655-1,670 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังติดตามผลการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนครั้งที่ 4 และรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ซึ่งน่าจะปรับตัวสูงกว่าที่คาดการณ์กันไว้
กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ แนะนำทยอยสะสมหุ้นที่ราคาปรับลดลงและได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันขาขึ้นน้อย หรือรับผลกระทบทางอ้อม รวมถึงได้รับอานิสงส์จาการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ประกอบด้วย กลุ่มค้าปลีก (CPALL, HMPRO) กลุ่มแบงก์ (KBANK) กลุ่มบริหารสินทรัพย์ (JMT) และกลุ่มท่องเที่ยว (AOT, MINT)
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP