ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยวันนี้ (9 กรกฎาคม) ดัชนีเปิดการซื้อขายในแดนลบ โดยปรับลดลงไปราว 5 จุด จากนั้นเริ่มทรงตัวและปรับตัวขั้นในทิศทางบวกราว 5 จุด นำโดยหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มแบงก์และพลังงาน
โดยล่าสุด SET Index อยู่ที่ 1,548.18 จุด +4.51 จุด หรือ +0.29%
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุดช่วงเช้าวันนี้ ได้แก่
KBANK ซื้อขายที่ 113.50 บาท +2.00 บาท หรือ +1.79% มูลค่าซื้อขาย 733.78 ล้านบาท
GUNKUL ซื้อขายที่ 4.66 บาท +0.06 บาท หรือ +1.30% มูลค่าซื้อขาย 543.15 ล้านบาท
PTT ซื้อขายที่ 37.50 บาท +0.25 บาท หรือ +0.67% มูลค่าซื้อขาย 532.07 ล้านบาท
BBL ซื้อขายที่ 105.00 บาท +0.50 บาท หรือ +0.48% มูลค่าซื้อขาย 511.71 ล้านบาท
SCB ซื้อขายที่ 92.25 บาท +0.25 บาท หรือ +0.27% มูลค่าซื้อขาย 387.11 ล้านบาท
ฝ่ายวิจัย บล.เคทีบีเอสที ระบุว่า กรณี ศบค. เตรียมประชุมวันนี้ เพื่อพิจารณาทำ Partial Lockdown รอบใหม่ มาตรการครั้งนี้น่าจะเข้มข้นเหมือนเดือนมีนาคม 2563 แต่น่าจะจำกัดเพียงจังหวัดที่มีการระบาดมาก ซึ่งจะรวม กทม. ด้วย
โดยดัชนีฯ ปรับตัวลงมาตั้งแต่ต้นเดือนแล้ว 2.8% หากเทียบการล็อกดาวน์ครั้งก่อนๆ ฝ่ายวิจัยประเมินว่า ถ้ากำหนดที่ 14 วัน ดัชนีฯ มีโอกาสลงลึกสุดในกรอบ 1,500-1,530 จุด
อย่างไรก็ตาม หากหลังการประกาศใช้มาตรการนี้ไปแล้ว ตัวเลขติดเชื้อน้อยลง นักลงทุนมักจะกลับมาซื้อหุ้นที่ไม่ได้ถูกกระทบทางตรง ส่งผลให้ดัชนีฯ มีโอกาสดีดตัวกลับหลังจากนี้ได้
ส่วนความกังวลเรื่องเศรษฐกิจโลก (สหรัฐฯ) ชะลอตัว กลับมาอีกครั้ง หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกกลับมาเพิ่มขึ้น (ล่าสุดผู้ติดเชื้อ / เสียชีวิต อยู่ที่ 185.3 ล้านราย / 4.0 ล้านราย) ส่งผลให้นักลงทุนขายสินทรัพย์เสี่ยง (หุ้น) และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ อาทิ พันธบัตรและทองคำ เป็นปัจจัยลบตัวหลักๆ ที่กดดัชนี Dow Jones ปรับตัวลงแรงคืนที่ผ่านมา (ปิดที่ 34,421 / -259 จุด) กระทบตลาดเอเชียเช้าวันนี้ด้วย
กลยุทธ์ลงทุนวันนี้ประเมินดัชนีฯ มีโอกาสลงต่อไปอยู่ในโซน 1,500-1,530 จุด หุ้นที่ถูกกระทบตรงจากการล็อกดาวน์ (ห้าง, โรงแรม, การบิน, การเดินทาง และท่องเที่ยว) ยังคงต้องเลี่ยงไปก่อน
ส่วนหุ้นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องทางตรง แต่ยังมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว อาทิ ส่งออก (KCE, NER) อาหาร (ASIAN, RBF, TU) รถยนต์ (SAT) โดยมองว่าหากราคาลงไปมากจะเป็นจังหวะในการเข้าซื้อ