SET Index ร่วงหนัก โดนทั้งปัจจัยในประเทศและต่างประเทศกดดัน กังวล Bond Yield สหรัฐฯ พุ่งแรงแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี ส่วนเงินบาทเดินหน้าอ่อนค่าทะลุ 37 บาทต่อดอลลาร์ กดดัน Fund Flow ไหลออกต่อเนื่อง
กรรณ์ หทัยศรัทธา นักกลยุทธ์ ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน สายงานวิจัย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า SET Index ในวันนี้ (3 ตุลาคม) ปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1,450 จุด คาดว่าสาเหตุเนื่องมาจาก 2 ปัจจัยกดดันหลักคือ 1. ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าทะลุ 37 บาทต่อดอลลาร์ 2. อัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยยืนสูงที่ 3.2% และสหรัฐฯ ที่ 4.6% กดดันการไหลออกของค่าเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำนักลงทุนลงทุน 3 ธีมหลักของโลกในช่วงที่ SET Index ลงมาที่ระดับ 1,450 จุด มีดังนี้
- Higher for Longer สำหรับดอกเบี้ยสนับสนุนหุ้นกลุ่มแบงก์และประกันชีวิต ได้แก่ BBL, SCB, BLA
- Tighter for Longer สำหรับน้ำมันสนับสนุนหุ้นกลุ่มพลังงานต้นน้ำคือ PTTEP
- Stronger for Longer สำหรับดอลลาร์สนับสนุนหุ้นกลุ่มส่งออกอาหารกับอุตสาหกรรมอย่างอิเล็กทรอนิกส์ คือ HANA, TU, ITC
อีกทั้งไม่แนะนำให้ลงทุนหุ้นที่เสียประโยชน์จากดอกเบี้ย-น้ำมันขาขึ้น รวมถึงเงินบาทที่แข็งค่า เช่น โรงไฟฟ้า, ไฟแนนซ์, พลังงานปลายน้ำ
ด้าน บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า ล่าสุดตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงหลุดระดับ 1,450 จุด มีความเสี่ยงที่ปรับตัวลดทดสอบแนวรับที่ระดับ 1,425 จุด กับ 1,400 จุด ตามลำดับ โดยแรงกดดันหลักมาจากการขายหุ้น Big Cap นำโดย DELTA และ PTTEP รับประเด็นลบเฉพาะตัวหลัง DELTA จ่อหลุดคำนวณ SET50 ขณะที่ PTTEP ปรับตัวลงตามทิศทางราคาน้ำมันดิบที่หลุดระดับ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นอกจากนี้ภาพรวมยังถูกกดดันจากค่าเงินบาทที่เดินหน้าอ่อนค่าทะลุ 37 บาทต่อดอลลาร์ กดดัน Fund Flow ไหลออกต่อเนื่อง และ Bond Yield สหรัฐฯ ที่ดีดตัวขึ้นกดดันภาพรวมตลาดสินทรัพย์เสี่ยง
ส่วน บล.ทิสโก้ ประเมินว่า มอง SET Index มีแนวโน้มแกว่งซึมลง บรรยากาศการลงทุนจาก ตปท. เป็นลบ โดย Bond Yield สหรัฐฯ 10 ปี กลับมาขึ้นแตะระดับ 4.68% ซึ่งเป็นจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 16 ปี ขณะที่ US Dollar Index พุ่งแตะ 107 จุด สูงสุดใหม่ในรอบ 11 เดือน โดยคาดว่าจะเป็นปัจจัยลบกระตุ้นเงินทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดหุ้นไทย
