ภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้ (27 กันยายน) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ 1,620.02 จุด ลดลง 11.13 จุด หรือลดลง 0.68% มูลค่าการซื้อขาย 135,801.95 ล้านบาท โดยหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินยังได้รับความสนใจต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ Digital Asset พากันปรับตัวลดลง เช่น JMART, XPG
ณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลดลงทันทีที่เปิดการซื้อขาย แม้จะมีการรีบาวด์ระหว่างวันแต่ก็ไม่มากนัก จากนั้นก็ไหลลงต่อเนื่องตลอดวัน ทั้งนี้ สาเหตุหลักมาจากการไร้ปัจจัยบวกใหม่ๆ มากระตุ้นความน่าสนใจของตลาด ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยลบยังเป็นไปตามคาดการณ์ คือ การต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกไปอีก 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม – 30 พฤศกจิกายน 2564
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นไทยเพิ่มคือสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งเริ่มลามไปในหลายจังหวัด อาจกระทบภาพรวมเศรษฐกิจ การเยียวยา และการฟื้นตัวของกลุ่มค้าปลีกที่อาจจะติดขัดมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตได้ว่าหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินและหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องยังเผชิญแรงขายอย่างต่อเนื่อง เช่น XPG, JMART, LHFG ซึ่งราคาหุ้นปรับลดลงเพราะนักลงทุนคาดการณ์ว่าจะได้รับผลกระทบเชิงลบจากกการปรับโครงสร้างของ SCB ซึ่งจะทำให้การแข่งขันในอุตสหกรรมบริการทางการเงินของไทยรุนแรงขึ้น และกดดันความสามารถในการทำกำไร
“สำหรับ XPG, JMART ถูกกระทบจากปัจจัยเสี่ยงรายตัวเพิ่มด้วย หลังจากที่รัฐบาลจีนประกาศให้คริปโตเคอร์เรนซีและธุรกรรมที่มีคริปโตเคอร์เรนซีเป็นตัวกลางการซื้อขาย ทั้งในประเทศจีนและนอกประเทศจีน เป็นธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย แต่มองว่าน้ำหนักความเสี่ยงไม่มาก ดูได้จากราคาคริปโตเคอร์เรนซีต่างๆ ก็ไม่ได้ปรับลดลงจนน่ากังวล”
สำหรับแนวโน้มหุ้นไทยพรุ่งนี้ (28 กันยายน) ประเมินว่าดัชนีน่าจะพักฐานต่อ เพราะยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ มาสนับสนุน ขณะที่ยังมีปัจจัยเสี่ยงในประเทศที่ต้องติดตามต่อ โดยประเมินแนวรับที่ 1,600-1,610 จุด และแนวต้านที่ 1,630 จุด
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP