ตลาดหุ้นไทยในช่วงการซื้อขายของภาคเช้าของวันนี้ (26 พฤศจิกายน) ดัชนีปรับตัวลดลงค่อนข้างแรง โดยมาปิดการซื้อขายในภาคเช้าที่ระดับ 1,624.27 จุด ลดลง 24.19 จุด หรือ 1.47% ซึ่งการปรับตัวลดลงดังกล่าวเป็นไปตามตลาดหุ้นในต่างประเทศ จากความกังวลที่มีต่อการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งระบาดง่ายกว่าสายพันธุ์เดลตา
โดยดัชนี Nikkei 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดการซื้อขายภาคเช้าที่ระดับ 28,779 จุด ลดลง 2.44% ส่วนดัชนี Hang Seng ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดการซื้อขายภาคเช้าที่ระดับ 24,213 จุด ลดลง 2.13%
ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซียพลัส ระบุว่า ดัชนีหุ้นไทยที่ปรับลดลง 1.4% ในช่วงเช้าวันนี้ เป็นผลจากความกังวลที่มีต่อการระบาดของโควิดสายพันธุ์ Nu (B.1.1.529) ที่มีแนวโน้มแพร่ระบาดง่ายกว่าสายพันธุ์เดลตา และอาจทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดน้อยลงไป
“ปัจจุบันตรวจพบในประเทศแถบแอฟริกา ได้แก่ แอฟริกาใต้ บอตสวานา และฮ่องกง มีผู้ติดเชื้อจากแอฟริกาใต้เดินทางไป” ฝ่ายวิจัย บล.เอเชียพลัสระบุ
สำหรับหุ้นกลุ่มที่ปรับลดลงหนักในวันนี้ นำโดยหุ้น AOT และหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ส่วนหุ้นกลุ่มที่สามารถปรับตัวในแดนบวกได้ เป็นหุ้นในกลุ่มยางและถุงมือยาง รวมไปถึงหุ้นโรงพยาบาล