ตลาดหุ้นเอเชียรวมทั้งตลาดหุ้นไทยช่วงครึ่งวันแรกของวันนี้ (12 กันยายน) ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องจากวันศุกร์ที่ผ่านมา พร้อมการกลับมาแข็งค่าของเงินยูโร หลังนักลงทุนต่างให้น้ำหนักกับการที่แต่ละประเทศในยุโรปจะเร่งขึ้นดอกเบี้ยตามทิศทางของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่ปรับขึ้นต่อเนื่องมาก่อนหน้านี้
สำหรับตลาดหุ้นหลักของเอเชียอย่างดัชนีหุ้นญี่ปุ่น +1.1%, ดัชนีหุ้นออสเตรเลีย +1% ขณะที่ตลาดหุ้นจีน, ฮ่องกง และเกาหลีใต้ ปิดทำการในวันนี้ ส่วนดัชนี SET ของไทยปรับขึ้นได้ 0.8% มาอยู่ที่ 1,668 จุด ถือเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- 8 หุ้นเนื้อทอง เซียนหุ้น รุมตอม ร่วมลงทุนติดอันดับผู้ถือหุ้นใหญ่
- อัปเดต 7 หุ้น พอร์ต เซียนฮง สถาพร งามเรืองพงศ์ มูลค่า 6.14 พันล้านบาท
- 10 หุ้น ขึ้น XD จ่ายเงินปันผลสูงสุดในรอบเดือน ก.ย. 65
ก่อนหน้านี้ปัจจัยหนึ่งที่กดดันดัชนีของตลาดหุ้นในเอเชียและตลาดหุ้นยุโรปคือ การกลับมาแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ดี ค่าเงินยูโรและค่าเงินเยนของญี่ปุ่นเริ่มกลับมาแข็งค่าได้อีกครั้ง ช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นฟื้นตัวได้อีกครั้ง
Joachim Nagel ประธาน Bundesbank ได้ออกมาส่งสัญญาณว่าอัตราดอกเบี้ยในกลุ่มประเทศยุโรปจะขยับขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนต่างโฟกัสกับตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันที่ 13 กันยายนนี้ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ จะชะลอลงมาเหลือ 8% แต่นักลงทุนก็ยังคาดว่าจะเห็น Fed ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมครั้งถัดไปค่อนข้างแน่นอน
Charu Chanana นักกลยุทธ์ของ Saxo Capital Markets กล่าวว่า ความกังวลที่เกิดขึ้นในขณะนี้คือ การที่ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ จะออกมาแย่กว่าที่คาดไว้ และนั่นอาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงไปอีก ปัจจัยดังกล่าวถือเป็นความเสี่ยงหลักที่ต้องจับตามองไปจนถึงสุดสัปดาห์หน้า
การฟื้นตัวของสินทรัพย์เสี่ยงและการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์เมื่อปลายสัปดาห์ก่อนตรงกันข้ามกับท่าทีของ Fed ที่ยังคงมุมมองแบบ Hawkish ทั้งนี้ การฟื้นตัวที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งอาจเป็นผลจากท่าทีดังกล่าวและความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย ได้ผลักให้ราคาหุ้นดิ่งลงจนไปอยู่ในจุดที่เรียกว่า Maximum Bearish ซึ่งกลายเป็นสัญญาณซื้อของนักลงทุนที่ชอบมองสวนทาง หรือ Contrarian
นอกจากนี้สัญญาณของความต้องการใช้น้ำมันที่ลดลงจากการที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลงสู่ระดับ 85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อาจทำธนาคารกลางสหรัฐฯ ตัดสินใจชะลอการถอนสภาพคล่อง
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP