×

คาด ‘หุ้นไทย’ แกว่งตัวขึ้นตอบรับการเมืองโค้งสุดท้าย ลุ้นประเทศไทยได้นายกฯ ในวันพรุ่งนี้ตามกำหนด

21.08.2023
  • LOADING...
หุ้นไทย

ฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย เผยแพร่แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ (21 สิงหาคม) ผ่านบทวิเคราะห์ว่า มองดัชนีแกว่งตัวขึ้นบน คาดจีนลดดอกเบี้ยต่อ และโค้งสุดท้ายทิศทางการเมืองไทยทั้งเลือกนายกฯ และทักษิณกลับไทยวันพรุ่งนี้ ประเมินกรอบซื้อขาย 1,510-1,535 โดยหุ้นแนะนำ ได้แก่ MOSHI, HANA

 

สรุปภาวะตลาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ต่างประเทศ: ดัชนี DJIA +0.07%, S&P 500 -0.01%, NASDAQ -0.20% โดย Sector ที่ Outperform ใน S&P 500 ได้แก่ Energy (+0.94%), Utilities (+0.39%), Consumer Staples (+0.37%) ขณะที่ Communication Services (-0.98%), Consumer Discretionary (-0.32%), Financials (-0.13%) 

 

ในประเทศ: SET Index -9.69 จุด หรือ -0.63% ปิดที่ 1,519.17 จุด ตัวขับเคลื่อนหลักสำคัญคือ PTTEP (+0.63%), WHA (+3.66%), TRUE (+0.74%), SAWAD (+2.79%) ขณะที่ DELTA (-4.13%), GULF (-1.04%), CPAXT (-1.43%), OR (-1.95%)

 

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ บรรยากาศตลาดต่างประเทศยังเป็นลบ จากความกังวลบนปัญหาเศรษฐกิจจีน โดยเฉพาะหลังจากช่วงปลายสัปดาห์ก่อนบริษัทอสังหารายใหญ่ของจีน ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ได้ยื่นคำร้องต่อศาลนิวยอร์กของสหรัฐฯ เพื่อขอพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 15 ของกฎหมายล้มละลาย อย่างไรก็ตามคาดตลาดปรับตัวขึ้นได้วันนี้ (21 สิงหาคม) บนคาดการณ์ที่ว่าจีนจะลดดอกเบี้ยต่อ เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจ ด้านการเมืองไทยเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการลุ้น ทั้งทักษิณกลับไทยรวมทั้งโหวตเลือกนายกฯ ในวันพรุ่งนี้ (22 สิงหาคม) มองกรอบซื้อขายวันนี้ที่ 1,510-1,535 จุด

 

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

 

  1. พรรคเพื่อไทยเผยทางแกนนำพรรคยืนยัน ขณะนี้มีเสียง สส. สนับสนุน 314 เสียงแล้ว ส่วนจะมีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ร่วมด้วยหรือไม่นั้น ขอให้รอดูวันนี้ (21 สิงหาคม) ซึ่งคาดว่าจะมีการแถลงข่าว นำโดยพรรคเพื่อไทยกับพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยมั่นใจว่าในวันที่ 22 สิงหาคมจะสามารถโหวตนายกรัฐมนตรีได้ ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าจะส่ง เศรษฐา ทวีสิน ชิงตำแหน่งเก้าอี้นายกฯ แน่นอนและมั่นใจในคะแนนเสียงสนับสนุน

 

  1. ตลาดนับถอยหลังรอดูผลกระทบทางการเมืองหลังทักษิณเตรียมบินกลับไทยวันพรุ่งนี้ 22 สิงหาคม เวลา 09.00 น. ที่สนามบินดอนเมือง และต่อด้วยประชุมสภาเตรียมโหวตเลือกนายกฯ ครั้งที่ 3 ช่วงประมาณ 10.00 น. โดยคาดว่าน่าจะสามารถพร้อมลงมติไม่เกินเวลา 15.00 น. และคาดว่าราว 17.30 น. น่าจะเสร็จสิ้น

 

  1. สำนักข่าวรายงาน ปุ๋ยราคาร่วง 50% แม้สงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อไม่จบ การปิดเส้นทางส่งออกทะเลดำไม่กระทบส่งออกปุ๋ยจากรัสเซีย บริษัทผู้นำเข้าปุ๋ยเคมีสต๊อกล้น ต้องเร่งระบายครั้งใหญ่ เนื่องจากราคาปุ๋ยปรับลดลงรายสัปดาห์ เฉลี่ยราคาแทบทุกสูตรปรับลง 50% ขณะที่ราคาปุ๋ยปรับตัวลงแรง ผู้ประกอบการ โรงสีแห่ปรับขึ้นราคาข้าวสาร ตามราคาข้าวเปลือกที่ขยับขึ้นและออร์เดอร์ส่งออกข้าวต่างประเทศ แม้กรมการค้าภายในร้องขอให้ช่วยตรึงราคา พบในจังหวัดใหญ่ต่างปรับขึ้นราคาข้าวสารทุกประเภทกันหมดแล้วเฉลี่ยกิโลกรัมละ 2-3 บาท (มองเป็นบวกกลุ่มหุ้นเชื่อมโยงกำลังซื้อต่างจังหวัด เนื่องจากต้นทุนการเกษตรลดลง ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรโดยเฉพาะข้าวเพิ่มขึ้น)

 

  1. ทางการอินเดียประกาศเก็บภาษีส่งออกหัวหอมในอัตรา 40% หลังราคาสินค้าเกษตรหลายรายการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นบนความกังวลสภาพอากาศที่แห้งแล้งทำให้ผลผลิตสินค้าเกษตรหลายรายการตกต่ำ และอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ

 

สัปดาห์นี้ แนะนำกลยุทธ์ Selective Buy ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ หรือมีแนวโน้มผลประกอบการ 2H23 ฟื้นตัวขึ้น ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,515-1,550 จุด แม้ปัจจัยภายนอกเรื่องอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่พุ่งสูงขึ้น และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนยังเป็นปัจจัยกดดัน แต่คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะ Outperform ตลาดหุ้นโลกบนความคาดหวังการจัดตั้งรัฐบาลนำโดยพรรคเพื่อไทย พร้อมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

หุ้นแนะนำวันนี้

Top Pick: MOSHI (ราคาพื้นฐาน 62.6 บาท) ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ จากมุมมองเชิงบวกหลังงบไตรมาส 2/66 ออก และประชุมนักวิเคราะห์คาดกำไรครึ่งปีหลังโตแรงทั้ง YoY และ HoH จากส่วนแบ่งกำไรของอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง ส่วนแบ่งกำไรจาก OST และช่วงไฮซีซันปลายปี

 

Top Pick: HANA (ราคาพื้นฐาน 69.0 บาท) เราประเมินทิศทางผลประกอบการดีต่อเนื่อง ทำให้เราปรับคาดการณ์กำไรปี 2566-2568 ขึ้น 23-34% ไม่เพียงแค่จากแนวโน้มระยะสั้นที่เราคาดว่าจะเห็น GPM ดีขึ้น อีกทั้งค่าเงินบาทอ่อนค่าเป็นบวกต่อผลประกอบการ ทำให้กำไรเร่งตัวต่อ QoQ ในไตรมาส 3/66 แต่มองไปไกลกว่านั้นเรามีมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของกำไรในระยะยาวและโอกาสทางธุรกิจของบริษัท

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising