×

ทิศทางหุ้นไทยสัปดาห์นี้ ตลาดคลายความวิตกจากสงครามการค้า จับตาความเคลื่อนไหวการเมือง

10.06.2019
  • LOADING...

ตลาดหุ้นไทยต้นสัปดาห์นี้ได้ปัจจัยบวกจากข่าวที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เตรียมหารือกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน เพื่อยุติข้อพิพาททางการค้า ในเวทีประชุม G20 ปลายเดือนนี้ ขณะที่การเจรจาระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ กับเม็กซิโกก็ลงเอยด้วยดี โดยเม็กซิโกยอมรับเงื่อนไขแก้ปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมาย ส่งผลให้ทรัมป์ตัดสินใจระงับมาตรการเก็บภาษีอัตรา 5% กับสินค้าเม็กซิโก บรรยากาศทั่วไปจึงค่อนข้างผ่อนคลายกว่าสัปดาห์ก่อน

 

นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ KTBST ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนี SET สัปดาห์นี้ในช่วง 1,640-1,670 จุด โดยตลาดคลายความกังวลในเรื่องสงครามการค้า และจับตาธนาคารกลางหลายประเทศที่มีแนวโน้มปรับนโยบายการเงิน รวมถึงติดตามการตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่น่าจะได้ข้อสรุปในสัปดาห์นี้

 

นอกจากเทรดวอร์ที่ดูคลี่คลายลง ทั้งคู่กรณี สหรัฐฯ-จีน และ สหรัฐฯ-เม็กซิโก แล้ว ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางประเทศต่างๆ หลังพบว่าเศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัวลง ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ธนาคารโลก (World Bank) ได้ปรับลดคาดการณ์ GDP โลกปีนี้จาก 2.9% เหลือ 2.6% ทำให้ตลาดจับตาท่าทีที่เป็นทางการของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ครั้งถัดไป ระหว่างวันที่ 18-19 มิถุนายน

 

KTBST มองเป็นบวกต่อตลาดหุ้นจากแนวโน้มดอกเบี้ยที่อาจลดลง และการอ่อนค่าของเงินสกุลดอลลาร์ ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) มีโอกาสปรับตัวขึ้น (ยกเว้นน้ำมันดิบที่ราคาจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจเรื่องการผลิตน้ำมันของ OPEC และรัสเซีย)

 

ส่วนตัวแปรของไทยที่สำคัญคือ การตั้ง ครม. ที่คาดว่าจะจบในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญคือ ตำแหน่งรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (เกษตร-คลัง-คมนาคม-พาณิชย์)  เพราะกระทรวงเหล่านี้มีผลต่อตลาดหุ้นโดยตรง นอกจากนี้การซื้อขายของตลาดจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังหมดช่วงของการเก็งกำไรหุ้น MSCI ที่น่าจะจบไปตั้งแต่สัปดาห์ก่อน กล่าวคือหุ้นจะขึ้น-ลงด้วยตัวเอง ประกอบกับ 2 ตัวแปรสำคัญของตลาดตามที่กล่าวไป

 

สำหรับกลยุทธ์ลงทุนสัปดาห์นี้ KTBST มองว่า โมเมนตัมในเชิงบวกของตลาดมาจากข่าวบวกในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ทั้งสงครามการค้าและ Fed เปิดทางลดดอกเบี้ย รวมถึงทิศทางการเมืองที่กำลังชัดเจนมากขึ้นตามลำดับ โดยให้น้ำหนักกับหุ้นอิงทิศทางตลาดมากขึ้น แต่แนะให้คงความเป็น defensive เพราะยังไม่วางใจกับสองผู้นำของโลกที่อาจเปลี่ยนการตัดสินใจได้อีก

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

  • บริษัทหลักทรัพย์ KTBST
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising