×

พระหล่อบอกด้วย กระแสความนิยมพระรูปหล่อ สะท้อนอะไรในสังคมไทย

12.04.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 Mins. Read
  • พื้นฐานความเชื่อเรื่องบุญ-กรรม การสั่งสมบุญ ทำให้ผู้คนในสังคมเชื่อกันว่าพระสงฆ์ที่รูปร่างหน้าตาดี เป็นส่วนหนึ่งของลักษณะของมหาบุรุษ เป็นลักษณะของตนบุญ
  • ดังนั้นผู้คนจึงต่างพากันแสวงหาพระสงฆ์เหล่านี้ เพราะเชื่อว่าพระสงฆ์ผู้มีบุญเหล่านี้ถือเป็นตัวกลางที่ดีในการสร้างบุญ
  • เชื่อกันว่าหากได้ร่วมบุญกับพระสงฆ์ผู้มากล้นด้วยบุญบารมีเหล่านี้ จะทำให้พวกเขาได้ผลบุญที่มากกว่าการทำบุญกับพระสงฆ์ทั่วไป

ในอดีตนั้นพระเกจิที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่ที่เป็นที่รู้จักของคนในสังคม จะมีลักษณะพิเศษ เช่น คม เข้ม ขลัง จากการเรียนรู้วิทยาอาคมไม่ว่าจะด้านพุทธคุณ และไสยคุณ หรือแม้มากล้นด้วยฌานบารมีในแง่วิปัสสนากรรมฐาน อย่างกรณีสายพระป่า

 

แต่ในทุกวันนี้กลับพบว่าพระสงฆ์ที่มีชื่อเสียง เป็นที่นิยมชมชอบและเคารพศรัทธาของผู้คนจำนวนมากในปัจจุบัน ส่วนใหญ่กลับมีรูปร่างหน้าตาดี ผิวพรรณผ่องใส พูดจาไพเราะอ่อนหวาน และเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน

 

กระแสความนิยมเหล่านี้สะท้อนอะไรบ้างในสังคมไทย ที่พลเมืองส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ

 

 

3 ทศวรรษ พระดังในสังคมไทยมักรูปร่างหน้าตาดี

หากเราย้อยกลับไปมองปรากฏการณ์พระดังในสังคมไทยในรอบ 3 ทศวรรษที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าพระที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่นิยม เป็นที่เคารพศรัทธาของผู้คนจำนวนมากนั้นส่วนใหญ่มักมีรูปร่างหน้าตาดี ยกตัวอย่าง

 

‘อดีตพระนิกร ธรรมวาที’ หรือ นายธรรมรัตน์ ยศคำจู มีชื่อเสียงจากการเป็นพระนักเทศน์ โดยได้รับฉายาว่าเป็นพระนักเทศน์เสียงทองแห่งยุคเลยทีเดียว ก่อนมาจบลงด้วยการเกิดคดีอื้อฉาวในปี 2533

 

‘พระยันตระ’ หรือพระอมโรภิกขุ เติบโตมาพร้อมกับการเป็นพระนักเทศน์ชื่อดังเช่นกัน มีผู้คนจำนวนมากหลั่งไหลไปนับถือศรัทธาจนสามารถเปิดสำนัก ‘สุญญตาราม’ ได้กว่าหลายพื้นที่ทั้งในและนอกประเทศ ก่อนโดนอธิกรณ์ให้ขาดจากความเป็นพระเนื่องจากเกิดเรื่องอื้อฉาวว่ามีสัมพันธ์กับสีกา ในปี 2537

 

หรือแม้แต่ ‘หลวงปู่เณรคำ’ พระวิรพล ฉัตติโก หรือนายวิรพล สุขผล อดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีชื่อเสียงในเรื่องการรักษาโรคจากไสยศาสตร์ เรื่องผี และพิธีกรรมสะเดาะเคราะห์ จนได้ฉายาว่า ‘คนเหนือโลก’ ก่อนมาปิดฉากลงด้วยคดีอื้อฉาวเรื่องมีลูกและมีเมีย ในปี 2556

 

จะสังเกตได้ว่านอกจากชื่อเสียงในด้านการเทศน์ หรือวิทยาอาคมต่างๆ แล้ว พื้นฐานรูปร่างน่าหน้าตาของอดีตพระเหล่านี้ ดูดี มีสง่าราศี ซึ่งบางรูปถือได้ว่าดีมากในระดับหนึ่ง หากเทียบกับกลุ่มพระสงฆ์รุ่นๆ เดียวกัน

 

ครูบาคติใหม่ ในภาคเหนือ ส่วนใหญ่ที่ดังล้วนรูปร่างหน้าตาดี

ไม่เพียงเท่านั้น ในปัจจุบันกลุ่มของพระเกจิชื่อดังในภาคเหนือ หรือเรียกตามวิทยานิพนธ์ของผู้เขียนที่ได้ศึกษาไว้ในระดับปริญญาโท ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรียกว่า ‘กลุ่มครูบาคติใหม่’ ส่วนใหญ่ที่มีชื่อเสียงก็มักมีลักษณะรูปร่างหน้าตาที่ดูดี อย่างกรณีของ

 

 

ครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร ในวัยที่ท่านยังเด็ก และตอนเป็นวัยรุ่น ถือได้ว่าเป็นพระรูปหนึ่งที่รูปร่างหน้าตาดีมากๆ เลยทีเดียว หรือแม้แต่ปัจจุบันนี้ถึงท่านจะมีอายุมากขึ้น แต่ก็ยังพอเห็นเค้าความหล่อของท่านอยู่

 

หรือแม้แต่ครูบารุ่นใหม่ล่าสุดอย่างพระครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต และ ครูบาชัยยาปัถพี ชัยยรัตนจิตโต ทั้งสองรูปนี้เป็นครูบาที่เพิ่งโด่งดัง มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จัก เป็นที่นิยมของผู้คนเพียงไม่ถึงทศวรรษที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งถ้าเทียบกับความหล่อ ความหน้าตาดี อาจจะถือได้ว่าเป็นพระเกจิที่หน้าตาดีระดับต้นๆ ของวงการพระสงฆ์ไทยเลยก็ว่าได้

 

แน่นอนว่าไม่เพียงแต่ชื่อเสียงในด้านอื่นๆ อย่างเช่น การเป็นพระนักเทศน์ชื่อดัง หรือแม้แต่ความศักดิ์สิทธิ์ในด้านต่างๆ ทั้ง คาถาอาคม การรักษาโรคจากไสยศาสตร์ ความเมตตามหานิยม เครื่องรางของขลัง หรือแม้แต่การจัดพิธีกรรมกิจกรรมต่างๆ ของพระสงฆ์เกจิเหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้คนในสังคมชื่นชอบและศรัทธา

 

รูปร่างหน้าตาที่ดูดีและความหล่อเหลา ก็เป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งอีกปัจจัยหนึ่งที่สร้างความนิยมและพลังศรัทธาจากผู้คนในสังคม และช่วยสร้างชื่อเสียงให้แก่พระเกจิรูปนั้นๆ ได้เป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน

 

 

เพราะบุญสั่งสม หน้าตาจึงดี มีมหาบุรุษลักษณะ และความเป็นตัวกลางที่ดี

ดังนั้นจากการเกิดกระแสพระสงฆ์รูปหล่อที่ได้ยกตัวอย่างมาข้างต้น จึงทำให้ผู้เขียนและใครอีกหลายคนสงสัยอย่างยิ่งว่า ทำไมพระที่มีชื่อเสียงเหล่านี้ส่วนใหญ่ถึงรูปร่างหน้าตาหล่อและหน้าตาดี และพระที่รูปร่างหน้าตาหล่อเหลานี้ทำไมจึงเป็นที่นิยมชมชอบของผู้คนในสังคม กระแสดังกล่าวเกิดขึ้นจากอะไร และเกิดขึ้นได้อย่างไร

 

หากดูในแง่ของความเชื่อพื้นฐานของคนในสังคมไทย ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนส่วนใหญ่มักจะมีความเชื่อในเรื่องของบุญ-กรรม เพราะฉะนั้นความแตกต่างของคนในสังคม ไม่ว่าจะชนชั้นทางสังคม รูปร่างหน้าตา หรือแม้แต่เงินทอง ยากดีมีจน จะถูกอธิบายด้วยแนวคิดดังกล่าวทั้งสิ้น

 

เช่น คนที่เกิดมาอยู่ในตระกูลที่สูงศักดิ์ เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวย หรือแม้แต่เกิดมาแล้วมีรูปร่างหน้าตาที่ดี หล่อเหลา ก็เชื่อกันว่าเป็นเพราะมีบุญที่เคยสั่งสมไว้มากตั้งแต่อดีตชาติ แต่ในกรณีของพระรูปหล่อนั้นยังสัมพันธ์กับความเชื่ออื่นๆ ด้วย เช่น ความเชื่อเรื่องมหาบุรุษลักษณะ ความเชื่อเรื่องตนบุญ ผู้มีบุญ และความเชื่อเรื่องตัวกลางที่ดีในการสร้างบุญ

 

ความเชื่อเรื่องมหาบุรุษลักษณะ โดยมีลักษณะของการเป็นมหาบุรุษอยู่ 32 ประการ เช่น มีนิ้วที่เรียวยาว มีผิวพรรณที่ละเอียดผ่องใสดุจทองคำ มีดวงตาที่แจ่มใสกลมโตดุจตาลูกโค มีฟันที่ขาวบริสุทธิ์เรียบเสมอกัน มีหัวที่มีรูปทรงสวยบริสุทธิ์ดุจกรอบพระพักตร์ และมีสุรเสียงดุจท้าวมหาพรหม และมีสำเนียงเสียงดุจนกการเวก เป็นต้น

 

ซึ่งลักษณะต่างๆ เหล่านี้จะถูกอธิบายว่าเป็นลักษณะของผู้มีบุญ โดยเชื่อกันว่าบุคคลที่เกิดมามีลักษณะรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลา ดูดี มีสง่านั้น ถือเป็นผู้ที่ได้สั่งสมผลบุญมามากในอดีต พระสงฆ์เกจิหลายต่อหลายรูปในปัจจุบันที่มีลักษณะหน้าตาดังที่กล่าวไปนั้นจึงถูกอธิบายให้อยู่ภายใต้ความเชื่อดังกล่าวนั้นด้วย

 

 

ความเชื่ออีกประการหนึ่งที่ผู้คนในสังคมเชื่อ และเป็นปัจจัยที่ทำให้พระสงฆ์ที่มีรูปร่างหน้าตาดีได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในสังคมไทย คือความเชื่อเรื่อง ‘ตัวกลางที่ดี’ โดยเชื่อกันว่าการได้ร่วมสร้างบุญกับพระสงฆ์ที่มากด้วยบุญบารมี (ในกรณีนี้รวมถึงพระหน้าตาดีด้วย) จะได้บุญมากกว่าการทำบุญกับพระสงฆ์ทั่วไปในสังคม

 

ดังนั้นจากความเชื่อดังที่กล่าวมา จึงเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้ผู้คนในสังคม หรือชาวไทยพุทธต่างพากันแสวงหาพระสงฆ์เกจิอาจารย์ที่เชื่อกันว่า เป็นผู้มีบุญบารมี เป็นตัวกลางที่ดีในการสร้างบุญกุศล โดยหนึ่งในนั้นคือกลุ่มพระหน้าตาหล่อเหลาดูดีมีสง่าด้วย

 

ดังในงานวิทยานิพนธ์ของผู้เขียน ที่ได้สัมภาษณ์ผู้ที่เป็นผู้ศรัทธาครูบาคติใหม่ว่า รูปร่างหน้าตาของท่านที่ดูดีและหล่อเหลานั้น เพราะท่านเป็นผู้มีบุญมากจึงทำให้ท่านมี ‘รูปเป็นทรัพย์’ ผู้คนจึงนิยมชมชอบและพากันมาร่วมทำบุญกับท่านจำนวนมหาศาล

 

 

รูปลักษณ์ นำมาซึ่งมหาศรัทธา แรงดึงดูดสาธุชน

นอกจากกระแสความนิยมพระรูปหล่อ พระสงฆ์ในปัจจุบันเองก็พยายามปรับตัวเองให้สอดคล้องกับกระแสการแสวงหาพระหล่อของคนในสังคมด้วย พระเกจิหลายรูปในปัจจุบัน ที่มีรูปร่างหน้าตาที่ค่อนข้างดูดีมีเสน่ห์ ก็พยายามจะนำเสนอภาพลักษณ์ความรูปหล่อของตนเองให้ปรากฏต่อสายตาผู้คนในปัจจุบัน หรือพูดง่ายๆ คือเอาความหล่อของตนเองเป็นจุดขายสร้างแรงดึงดูดพลังศรัทธาจากผู้คน

 

อย่างกลุ่มครูบาคติใหม่ในภาคเหนือ ส่วนใหญ่ก็พยายามจะนำเสนอภาพลักษณ์ของตนเองไปในทิศทางนั้น เช่น ในหนังสือประวัติต่างๆ โดยส่วนใหญ่มักจะนำเสนอว่าท่านเป็นพระที่หน้าตาดี รูปงาม มีฝ่ามือฝ่าเท้าที่ใหญ่ มีนิ้วมือนิ้วเท้าที่เรียวยาว มีใบหูที่ยาว และกล่าวว่าลักษณะเหล่านี้คือลักษณะของผู้มีบุญ ซึ่งสอดคล้องกับพื้นฐานความเชื่อของคนในสังคมที่กล่าวไปข้างต้น

 

 

ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า นอกจากชื่อเสียงด้านวิทยาอาคม หรือฌานวิปัสสนาของพระสงฆ์รูปนั้นๆ แล้ว รูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้พระสงฆ์เหล่านั้นมีชื่อเสียงขึ้นมาได้ ดังนั้นพระสงฆ์เกจิที่มีเชื่อเสียงโด่งดังในปัจจุบัน ส่วนใหญ่จึงมักจะมีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลา ดูดี มีสง่า และมีผู้คนหลั่งไหลมานับถือศรัทธาจำนวนมากมายมหาศาล

 

อ้างอิง:

  • ณัฐพงศ์ ดวงแก้ว, “การศึกษากระแส ‘ครูบาคติใหม่’ ในภาคเหนือของไทย,” วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต, สาขาวิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2559
  • ทวีวัฒน์ ปุณฑริกวิวัฒน์, “พุทธศาสนากับสังคมไทยในปัจจุบัน” ในพุทธศาสนากับวิกฤติโลก, หนังสือรวมบทความครบรอบ 31 ปีแห่งการพระราชทานนาม “มหาวิทยาลัยมหิดล” และครบรอบ 25 ปีการจัดตั้งหลักสูตรบัณฑิตศึกษา สาขาศาสนาเปรียบเทียบ มหาวิทยาลัยมหิดล, 2543
  • อภิญญา เฟื่องฟูสกุล, “ศาสนทัศน์ของชุมชนเมืองสมัยใหม่ศึกษากรณีวัดพระธรรมกาย,” วารสารพุทธศาสตร์ศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีที่ 5, ฉบับที่ 1 (2541)
  • มหาบุรุษลักษณะ 32 ประการ, Phuttha.com, www.phuttha.com/พระพุทธเจ้า/ความรู้เกี่ยวกับพระพุทธเจ้า/หมวดที่-๑-พระพุทธสรีระ/มหาบุรุษลักษณะ-๓๒-ประการ, สืบค้นเมื่อ 25 มีนาคม 2561
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X